ตร.เตรียมอายัดตัวหนุ่มเมาซิ่งชนทีมกู้ภัยฝากขังศาล

ตร.เตรียมอายัดตัวหนุ่มเมาซิ่งชนทีมกู้ภัยฝากขังศาล

ตำรวจเตรียมอายัดตัวหนุ่มเมาขับซิ่งพุ่งชนทีมกู้ภัยเสียชีวิต 4 ราย ฝากขังศาลหลังออกจากรพ. เผยยังมีกู้ภัยอีก 2 คนที่แพทย์ต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด

จากกรณีเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน บริเวณสะพานบ้านปลายหมัน บนถนนเพชรเกษม ช่วงขาออกเมืองตรัง – คลองเต็ง ม.9 ต.นาท่ามเหนือ อ.เมือง จ.ตรัง ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน (หน่วยกู้ภัย) เทศบาลตำบลคลองเต็ง กำลังช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากการขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่กลางถนน ได้มีรถกระบะมิตซูมิชิไทรทัน สีดำ ทะเบียน 2070 ตรัง ซึ่งขับโดย นายปฐวี ฤกษ์อ่ำ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 หมู่ 2 ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง พุ่งเข้าชน เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเสียชีวิตทันที 3 ราย และเสียชีวิตทีรพ.ศูนย์ตรัง 1 ราย รวมเป็น 4 ราย และยังมีเจ้าหน้าที่กู้ภัย, คนขับขี่รถจักรยานยนต์คนที่ล้มเอง, ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คลองเต็งที่มาช่วยชุดกู้ภัย และคนขับรถกระบะคันก่อเหตุได้รับบาดเจ็บ และบาดเจ็บสาหัสรวม 7 ราย ล่าสุดนพ.วิฑูรย์ เหลืองดิลก นายแพทย์สาธารณสุขจ.ตรัง นำทีมแพทย์จากรพ.ตรัง เยี่ยมให้กำลังใจและตรวจสอบสภาพจิตใจของครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย ซึ่งทั้งหมดยังทำใจไม่ได้ต่อการจากไปอย่างกะทันหัน ซึ่งผู้บาดเจ็บที่ยังนอนพักรักษาตัวที่รพ.ตรัง มีอาการน่าเป็นห่วงอีก 3 ราย ได้แก่ นายพิชัย ทองรุ่ง อายุ 22 ปี , นายอนุพงศ์ สมาธิ อายุ 21 ปี ทั้งสองเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยเทศบาลตำบลคลองเต็งและอาการโคม่า , นายจิรวัฒน์ เที่ยงธรรม อายุ 21 ปี ผู้บาดเจ็บจากขี่รถจยย. ส่วน ด.ต.อนันท์ ซุ่นสั้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.คลองเต็ง และนายปฐวี ฤกษ์อ่ำ คนขับรถยนต์คันก่อเหตุ อาการปลอดภัย

ด้าน พ.ต.ท. ประดิษฐ์ ชัยพล รองผกก.สภ.บ้านคลองเต็ง รักษาราชการแทน ผกก.สภ.บ้านคลองเต็ง กล่าวว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำ และแจ้งข้อหาแก่นายปฐวี คนขับรถยนต์คันก่อเหตุแล้ว ในข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย บาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหาย และเมาสุราขณะขับรถ ซึ่งหลังจากที่นายปฐวีออกจากโรงพยาบาลภายใน 2 – 3 วันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะควบคุมตัวนำไปฝากขังศาลจังหวัดตรังต่อไป โดยขณะที่นายปฐวียังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ทาง สภ.เมืองตรัง ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ที่โรงพยาบาลศูนย์ตรังตั้งอยู่ รวมทั้งทาง สภ.บ้านคลองเต็ง ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเฝ้าดูแลรักษาความเรียบร้อย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำป้อมหน้ารพ.ศูนย์ตรัง และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ รพ.ศูนย์ตรังช่วยดูแลด้วย เนื่องจากเหตุการณ์ความสูญเสียในครั้งนี้สร้างความเสียใจให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นอย่างมาก ทำให้บรรยากาศค่อนข้างตึงเครียด และมีคนไปสอบถามหาคนขับรถยนต์คันดังกล่าว จึงต้องจัดกำลังไปดูแลรักษาความเรียบร้อย เนื่องจากกลัวความไม่ปลอดภัย และขอให้ญาติผู้เสียชีวิตและญาติคนเจ็บอย่าทำอะไรวู่วาม ด้วยอารมณ์ ซึ่งทุกคนเข้าใจความรู้สึกของคนที่สูญเสียดีว่าเป็นอย่างไร ซึ่งทางตำรวจจะดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา