ชาวสวนยางโอดราคาต่ำ ตัดสินใจโค่นยางทิ้ง

ชาวสวนยางโอดราคาต่ำ ตัดสินใจโค่นยางทิ้ง

ชาวสวนยางชัยภูมิ ช้ำหนัก โอดราคาตกต่ำสุดทนตัด สินใจโค่นต้นยางทิ้ง

กลุ่มชาวสวนยางพาราที่ลงทุนปลูกในพื้นที่มานานกว่า 10 ปี เริ่มพากันต้องประสบปัญหาภัยแล้งและราคายางตกต่ำมาต่อเนื่องนานตลอดช่วงกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดสถานการณ์ราคายางพาราในทุกภาค ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ชาวสวนยางในพื้นที่ภาคอีสาน โดยเฉพาะจังหวัดชัยภูมิยังคงต้องประสบกับความทุกข์อย่างหนักในทุกด้าน หลังราคายางพาราตกต่ำมีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย รถถูกยึด เป็นหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบธนาคาร ไม่มีเงินจ่ายหนี้ธนาคาร ธกส.และเงินที่กู้ยืมมาจากกองทุนหมู่บ้าน อีกเป็นจำนวนมาก ต่างพากันโอดครวญอย่างหนักในปีนี้ และจำใจยอมตัดโค่นต้นยางพาราทิ้งในสวนกันต่อเนื่องเพื่อหันไปประกอบอาชีพอื่นแทน 

โดยนายจรัล จำปางาม อายุ56ปี อยู่บ้านเลขที่109หมู่5ต.ท่ามะไฟหวาน อ.แก้งคร้อจ.ชัยภูมิ ซึ่งกำลังเฝ้าดูคนงานและนายหน้าที่มารอรับซื้อท่อนไม้จากต้นยางพารา เพื่อทำการตัดโค่นต้นยางพาราของตนเองทิ้ง ที่ถึงแม้กำลังจะให้ผลผลิต และยังมีสภาพสมบูรณ์ก็ตาม ซึ่งจะสามารถกรีดเอาน้ำยางขายได้อีกนานหลายปี ในเนื้อที่รวมกว่า15ไร่

พร้อมกล่าวว่า เหตุที่ต้องจำยอมตัดสินใจโค่นทิ้งต้นยางทั้งหมดครั้งนี้เนื่องจากประสบปัญหาทั้งภัยแล้ง ขาดแคลนแรงงานจากการมาช่วยกรีดยางพารา เพราะราคาตกต่ำลงเรื่อยๆจนไม่มีคนงานที่จะมารับจ้างกรีดยางเนื่องจากไม่คุ้มค่าแรงเพราะต้องแบ่งให้เจ้าของสวนยางคนละส่วนด้วย

ซึ่งตนมีสวนยางพาราอยู่ทั้งหมด2แปลง เนื้อที่รวมกว่า30ไร่ ก็จะเริ่มทยอยตัดทิ้งเพื่อหันไปทำอาชีพอื่นแทนทั้งหมด โดยเมื่อเกือบสิบปีให้หลังซึ่งในขณะนั้นราคาสูงมากตนจึงตัดสินใจปลูกยางพารามา7-8ปีและในขณะนี้ต้นยางพารากำลังจะเริ่มกรีดได้แล้ว ที่ผ่านมา ราคายางพาราได้ลดต่ำลงต่อเนื่องและหนักสุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา

เช่นเดียวกับเจ้าของสวนยางพารารายอื่นๆอีกจำนวนมากในพื้นที่ อ.แก้งคร้อ และรอยต่ออ.เมือง จ.ชัยภูมิ ก็ต่างเริ่มพากันตัดสินใจจะตัดโค่นทิ้งต้นยางพาราทิ้งทั้งหมดเช่นเดียวกัน เพราะราคายางที่เป็นอยู่ในขณะนี้ตกต่ำเป็นอย่างมาก กรีดไปก็เหนื่อยเปล่า ไม่คุ้มทุน ไม่มีคนงานรับจ้างกรีด นอกจากนี้ ยังพบว่าเจ้าของสวนยางหลายแปลงได้ขึ้นประกาศขายสวนทิ้ง แต่ก็ยังไม่มีคนซื้อ และหลายรายประกาศรับสมัครหาลูกจ้างกรีดยางพาราใหม่ หลังลูกจ้างเก่าลาออกไปหางานอื่นทำ โดยได้ขึ้นป้ายประกาศ ให้ส่วนแบ่งจากการกรีดเพิ่มขึ้นจากตามจะให้ 35-40แต่ปีนี้จะให้เพิ่มขึ้นเป็น45 %หรือเกือบ50 %เพื่อดึงดูดใจลูกจ้าง แต่ปรากฏว่าก็ยังหาลูกจ้างไม่ได้เช่นเดียวกันจนปัจจุบัน

ส่วนทางด้านนายทองลี เหลาสา อายุ45ปีบ้านเลขที่175หมู่ที่6ต.ซับสีทองอ.เมืองจ.ชัยภูมิ เจ้าของสวนยางพาราอีกรายกล่าวว่าตนได้ปลูกยางพาราไว้จำนวน10ไร่และเริ่มกรีดยางมาได้3-4ปีแล้ว ซึ่งก็ยอมรับว่าอยู่ลำบากมาตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แต่ก็จำเป็นต้องเก็บต้นยางไว้เพราะที่ดินของตนเองนั้นอยู่ไกลแหล่งน้ำไม่สามารถปลูกพืชอย่างอื่นได้นอกจากยางพารากับมันสำปะหลังเท่านั้น////