นักวิจัยค้นพบฟอสซิลปลาโบราณพันธุ์ใหม่ของโลก อายุ150ล้านปี
สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินพบฟอสซิลปลาน้ำจืด ยุคจูแรสซิกพันธุ์ “โคราชอิกธิส จิบบัส” ปลาน้ำจืดสกุลใหม่และชนิดใหม่ของโลก อายุ 150 ล้านปี
ที่ห้องประชุมชั้น2อาคารสิรินธร สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตนายกรัฐมนตรี ฐานะนายกสภา พร้อมนายสุเมธ อำภรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด นครราชสีมา รศ.ดร.วิเชียร ฝอยพิกุล อธิการบดี มร.นม. ผศ.ดร.ประเทือง จินตสกุล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหิน และ ดร.อุทุมพร ดีศรี นักวิจัยมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผู้ศึกษาฟอสซิลจากแหล่งบ้านโนนสาวเอ้ ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมาร่วมแถลงข่าว พบฟอสซิลปลายุคจูแรสซิกพันธุ์ “ โคราชอิกธิส จิบบัส ”ปลาน้ำจืดสกุลใหม่และชนิดใหม่ของโลก ในยุคจูแรสซิกตอนปลายถึงครีเทเชียสตอนต้น หรือประมาณ150ล้านปีก่อน ซึ่งเป็นปลามีลักษณะเด่น คือ บริเวณหลังส่วนคอมีลักษณะเป็นโหนกชัดเจน
ผศ.ดร.ประเทือง กล่าวว่า ช่วงเดือนกรกฎาคม 2540 นายวิโรจน์ ปิ่นปก ราษฎร อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมาพบก้อนหินแตกออกเป็น2ซีก ขณะขุดแหล่งน้ำใกล้น้ำตกถ้ำขุนโจร หมู่บ้านโนนสาวเอ้ ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว แล้วนำก้อนหินไปวางไว้ที่ศาลเจ้าพ่อน้ำตกถ้ำขุนโจร จนกระทั่งนายประวิทย์ สุดเนตร สื่อมวลชนท้องถิ่น ได้แจ้งข่าวไปที่หัวหน้าภาควิชาภูมิศาสตร์ มร.นม. ทราบ จึงเดินทางตรวจสอบข้อเท็จจริงและนำไปอนุรักษ์ ศึกษาวิจัย เพื่อประโยชน์ในทางวิชาการ แต่ขาดแคลนนักวิจัยฟอสซิลปลา จนกระทั่งผ่านมาร่วม17ปี ช่วง พ.ศ.2557ดร.อุทุมพร ดีศรี ผศ.ดร.ประเทือง จินตสกุล และดร.ลิโอเนล คาวิน ผู้เชี่ยวชาญฟอสซิลปลาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ร่วมศึกษาวิจัยและนำข้อมูลเผยแพร่ในวารสารชั้นนำของโลกด้านบรรพชีวินวิทยา คือJournal of Vertebrate Paleontologyเมื่อปลายปี2559
ดร.อุทุมพร กล่าวว่า ปลาชนิดนี้เป็นปลากระดูกแข็งโบราณสกุลใหม่และชนิดใหม่ของโลก ตั้งชื่อว่า โคราชอิกธิส จิบบัส (Khoratichthys gibbus;โดยkhorat=โคราช, ichthys=ปลากระดูกแข็ง, gibbus=โหนก) ซึ่งมีลักษณะขนาดรูปร่างยาว36ซม. กว้าง12ซม. หนา8ซม. บริเวณคอแสดงลักษณะเป็นโหนกชัดเจน จนเป็นที่มาของชื่อ “จิบบัส” ลำตัวปกคลุมด้วยเกล็ดรูปสี่เหลี่ยมและมีเกล็ดตรงสันกลางหลังที่ยาวแหลมคล้ายหนาม มีกระดูกปิดส่วนแก้ม กระดูกที่ล้อมรอบเบ้าตา มีน้อยชิ้น และกระดูกปิดเหงือกมีรูปร่างเป็นทรงสี่เหลี่ยม การศึกษาถึงความสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการของปลากระดูกแข็งที่มีก้านครีบในกลุ่มจิงกลีโมเดียนคือกลุ่มปลามีเกล็ดสี่เหลี่ยม ทั้งหมด 25 สกุล พบว่า ปลาสกุลโคราชอิกธิส แสดงลักษณะพื้นฐานที่สุดของปลาในอันดับ เลปิซอสติฟอร์ม )หรืออันดับอัลลิเกเตอร์การ์ หรือปลาปากจระเข้ เป็นพวกปลากลุ่มแรกสุด หรือมีวิวัฒนาการต่ำสุดในอันดับปลา
นอกจากนี้ ปลาโคราชอิกธิส ยังเป็นหลักฐานที่แสดงถึงความหลากหลายของปลาจิงกลีโมเดียน ที่พบในหมวดหินภูกระดึงของไทยอีกด้วย และจากความหลากชนิดของปลาจิงกลีโมเดียนดังกล่าวซึ่งพบในสภาพแวดล้อมน้ำจืดของช่วงเวลาตั้งแต่กลางยุคจูแรสซิกถึงต้นยุคครีเทเชียสของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการครอบครองพื้นที่แหล่งน้ำจืดของปลาเหล่านี้ได้เป็นอย่างดีตลอดเวลากว่า30ปีที่ผ่านมา
“ประเทศไทยมีการค้นพบฟอสซิลปลาจิงกลีโมเดียนในปลายยุคจูแรสซิกถึงต้นยุคครีเทเชียส หลานพื้นที่บริเวณที่ราบสูงโคราช ชนิดแรกที่ค้นพบและตีพิมพ์โดยCavinและคณะ ในปี2003มาจากแหล่งภูน้ำจั้น หมวดหินภูกระดึง จ.กาฬสินธุ์ เคยตั้งชื่อว่า “เลปิโดเทส” พุทธบุตรเอนซิส ซึ่งต่อมาพบตัวอย่างที่สมบูรณ์มากขึ้น จึงทำการศึกษาใหม่โดยCavinและคณะ ในปี2013และตั้งเป็นปลาสกุลใหม่ว่า ไทยอิกธิส อีกชนิดต่อมา คือ อิสานอิกธิส พาลัสทริส พบในแหล่งเดียวกันกับ ไทยอิกธิส และอีกชนิดคือ อิสานอิกธิส เลิศบุศย์ศรี พบในแหล่งภูน้อย จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งจากข้อมูลการศึกษาลำดับความสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการ พบว่า ทั้ง ไทยอิกธิส และ อิสานอิกธิส จัดเป็นพวก เลปิซอสติฟอร์ม แต่ โคราชอิกธิส นี้ปรากฏลำดับความสัมพันธ์ที่บ่งบอกว่าเป็นพวกแรกสุด ทำให้การค้นพบปลากระดูกแข็งโคราชครั้งนี้ เป็นหลักฐานบ่งชี้ถึงการแพร่กระจายพันธุ์ปลาน้ำจืดในอันดับเลปิซอสติฟอร์มจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สู่ภูมิภาคอื่นของโลก”ดร.อุทุมพร กล่าว




