คอมมานโดรวบ 'ต้น ห้องน้ำ' คดีดวลปืนอริตาย6ช่วงวันปีใหม่57

คอมมานโดรวบ 'ต้น ห้องน้ำ' คดีดวลปืนอริตาย6ช่วงวันปีใหม่57

ตร.หน่วยคอมมานโด กองปราบฯ ตามรวบ "ต้น ห้องน้ำ" ตามหมายจับ คดียกพวก ดวลปืนอริที่หมอชิต มีคนตาย6เจ็บ5ราย ช่วงวันปีใหม่57

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 26 เมษายน ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผกก.ปพ.บก.ป. หรือ คอมมานโดกองปราบ และพ.ต.ท.ปิยรัช สุภารัตน์ รอง ผกก.ปพ.บก.ป. ร่วมกันแถลงการจับกุม นายสุรชัย สร้อยทอง หรือฉายา “ต้น ห้องน้ำ” อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5/2557 ลงวันที่ 3 มกราคม 2557 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น , ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร จับกุมได้ที่ร้านตัดผมแห่งหนึ่ง ใกล้หมู่บ้านปูนซีเมนต์ไทย ถนนประชาชื่น แขวงและเขตจตุจักร กทม.

พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหารายนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ วันที่ 1 มกราคม 2557 กลุ่มคนร้าย 2 แก๊งใหญ่ คือ กลุ่ม กม.11 กับกลุ่มวินจักรยานยนต์รับจ้างขนส่งหมอชิต ซึ่งเป็นคู่อริกันและเคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน รวมทั้งยังมีปัญหาขัดแย้งเกี่ยวกับการจัดคิวรถตู้โดยสาร ได้ก่อเหตุยกพวกใช้อาวุธปืนยิงถล่มใส่กันที่บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต แขวงและเขตจตุจักร กทม. อย่างอุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย จนเป็นข่าวถูกนำเสนอผ่านสื่อมวลชนหลายแขนง ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 5 คน ก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนี

โดยภายหลังเกิดเหตุตำรวจ สน.บางซื่อ ได้สืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนทราบตัวคนร้ายกลุ่ม กม.11 ที่ร่วมกันก่อเหตุดังกล่าว จึงขออำนาจศาลอาญา ออกหมายจับผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย นายสุรชัย สร้อยทอง อายุ 34 ปี , นายวราวุธ จันทนะสุคนธ์ อายุ 35 ปี และ นายอโณทัย เกิดสันติ อายุ 30 ปี

พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวอีกว่า ต่อมาทางตำรวจ สน.บางซื่อ สามารถติดตามจับกุม นายอโณทัย ไว้ได้ที่บริเวณแผงค้าตลาดนัดสุเหร่าบ้านเกาะ เขตมีนบุรี กทม. เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2558 แต่ขณะนี้ทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีคดีในระหว่างขอประกันตัวในชั้นศาล กระทั่งชุดสืบสวน กก.ปพ.บก.ป.สืบทราบว่า นายสุรชัย หรือฉายา “ต้น ห้องน้ำ” 1 ใน 3 ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีคดี ได้หลบหนีมาอาศัยอยู่ที่ย่านงามวงศ์วาน และได้ออกมาตัดผมที่ร้านตัดผมย่านถนนประชาชื่น เขตจตุจักร จึงเฝ้าติดตามจับกุมไว้ได้ พร้อมกับขยายผลเข้าตรวจค้นที่พักแต่ไม่พบอาวุธปืนและสิ่งผิดกฎหมาย คดีนี้จึงเหลือเพียงนายวราวุธ ที่ยังหลบหนี

จากการสอบสวนนายสุรชัย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาโดยอ้างว่าจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวนายสุรชัย ส่งพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ รับไว้ดำเนินคดีและขยายผลติดตามจับกุมผู้ต้องหาอีกรายที่ยังหลบหนีต่อไป