เผย 6 อาการเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตแจ้งสายด่วน1669 ได้ทันที

เผย 6 อาการเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตแจ้งสายด่วน1669 ได้ทันที
ภายหลังจากได้มีการประกาศใช้ “นโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่” (Universal Coverage for Emergency Patients : UCEP)ตั้งแต่วันที่1เมษายนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนับระยะรวมของการดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวคือ 4 วันแล้ว ล่าสุดศูนย์ประสานคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (ศคส.สพฉ.) หรือUCEP Coordination Centerได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลถึงสถิติการใช้งานตามสิทธิUCEPของประชาชน
ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสพฉ. ระบุว่า ได้ดำเนินโครงการตามแนวนโยบาย เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่ หรือUCEPมาได้4วันแล้ว ซึ่งจากเก็บรวบรวมสถิติข้อมูลการดำเนินการของศูนย์ ตั้งแต่วันที่1-3เม.ย.ที่ผ่านมามีจำนวนผู้ป่วยที่เข้ามาในระบบ235ราย และเป็นผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์UCEP 113ราย
โดยเป็นผู้ป่วยจากสิทธิกองทุนประกันสุขภาพถ้วนหน้า70ราย ผู้ป่วยจากกองทุนสิทธิประกันสังคม70ราย ผู้ป่วยจากกองทุนสิทธิข้าราชการ20ราย สิทธิจากกองทุนอื่นๆอีก7ราย และเป็นผู้ป่วยที่ไม่เข้าเกณฑ์ใดๆ อีก122ราย นอกจากนี้ และมีประชาชนโทรเข้ามาขอคำปรึกษาอีกกว่า307สาย อย่างไรก็ตามเราได้พยายามเร่งทำความเข้าใจให้กับประชาชนเข้าในถึงขั้นตอนต่างๆ ในการใช้สิทธิ โดยเฉพาะการสร้างความเข้าใจเรื่องอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตที่สามารถใช้สิทธิUCEPได้
ร.อ.นพ.อัจฉริยะกล่าวว่าอยากย้ำข้อมูลกับประชาชนอีกครั้งว่า ผู้ที่จะใช้สิทธินี้ได้ต้อง เป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน ในพื้นที่ที่อยู่ใกล้และเป็นโรงพยาบาลเอกชนนอกคู่สัญญากับกองทุนที่ผู้ป่วยมีสิทธิ์
โดยเริ่มที่สามกองทุนก่อน คือ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ,กองทุนประกันสังคม,กองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ ผู้ที่จะใช้สิทธินี้ได้ต้องเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ตามหลักเกณฑ์การคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉิน ที่ กพฉ.ประกาศกำหนด และ รายละเอียดเกณฑ์การคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ที่ สพฉ. กำหนดกรณีกลุ่มอาการฉุกเฉินวิกฤต
คือ หมดสติ ไม่รู้สึกตัว ไม่หายใจ หายใจเร็ว หอบเหนื่อยรุนแรง หายใจติดขัดมีเสียงดัง ซึมลง เหงื่อแตก ตัวเย็น หรือมีอาการชักร่วม เจ็บหน้าอกเฉียบพลัน รุนแรง แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก พูดไม่ชัด แบบปัจจุบันทันด่วน หรือชักต่อเนื่องไม่หยุด หรือมีอาการอื่นร่วม ที่มีผลต่อการหายใจระบบการไหลเวียนโลหิตและระบบสมองที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต โดยให้ประชาชนยึดหลักของกลุ่ม6อาการนี้ไว้สำหรบการคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต
อย่างไรก็ตามการทำงานของสายด่วน1669ในระบบปรกตินั้นก็ยังดำเนินต่อไป โดยประชาชนที่เจ็บป่วยฉุกเฉินก็สามารถโทรเข้ามาเพื่อขอใช้บริการสายด่วนของเราได้ ซึ่งจะมีนิยามในการคัดแยกอาการเจ็บป่วยฉุกเฉิน 25 กลุ่มอาการเหมือนเดิมอาทิ 1.ปวดท้องบริเวณหลัง เชิงกราน และขาหนีบ 2.แพ้ยา แพ้อาหาร แพ้สัตว์ต่อย แอนาฟิแล็กซิส ปฏิกิริยาภูมิแพ้ 3.สัตว์กัด 4.เลือดออกโดยไม่ได้มีสาเหตุมาจากการบาดเจ็บ
5.หายใจลำบาก หายใจติดขัด 6.หัวใจหยุดเต้น 7.เจ็บแน่นทรวงอก หัวใจ มีปัญหาทางด้านหัวใจ 8.สำลัก อุดกั้นทางเดินหายใจ 9.เบาหวาน 10.ภาวะฉุกเฉินเหตุสิ่งแวดล้อม 11.ปวดศีรษะ ภาวะผิดปกทางตา หู คอ จมูก 12.คลุ้มคลั่ง ภาวะทางจิตประสาท อารมณ์
13.พิษ รับยาเกินขนาด 14.มีครรภ์ คลอด นรีเวช 15.ชัก มีสัญญาณบอกเหตุการชัก 16.ป่วย อ่อนเพลีย อัมพาตเรื้อรัง ไม่ทราบสาเหตุจำเพาะ 17.อัมพาต กล้ามเนื้ออ่อนแรง สูญเสียความรู้สึก ยืนหรือเดินไม่ได้เฉียบพลัน 18.ไม่รู้สติ ไม่ตอบสนอง หมดสติชั่ววูบ
19.เด็ก กุมารเวช 20.ถูกทำร้าย 21.ไหม้ ลวกเหตุความร้อน สารเคมี ไฟฟ้าช็อต 22.ตกน้ำ จมน้ำ บาดเจ็บทางน้ำ 23.พลัดตกหกล้ม อุบัติเหตุ เจ็บปวด 24.อุบัติเหตุยานยนต์ และ 25.อื่นๆ ซึ่งหากประชาชนท่านใดที่เจ็บป่วยฉุกเฉินระบบก็จะดำเนินการให้ผู้ป่วยทุกท่านได้รับการรักษาที่ทั่วถึงและเท่าเทียมกันทุกคน
“ อยากให้ประชาชนจำ 6 อาการเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตไว้ให้แม่น และหากพบเห็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ตาม 6 อาการเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต ให้รีบโทรสายด่วน 1669 เพื่อเข้าให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลที่เหมาะสมทันที หากประชาชนท่านใดยังมีความไม่เข้าใจในการดำเนินการตามนโนบายUCEPนี้ก็สามารถโทรเข้ามาสอบถามได้ที่เบอร์ 02- 872- 1669 หรืออีเมล์ [email protected]“ร.อ.นพ.อัจฉริยะกล่าว







