พ่อค้าเขียงหมูน่าน150ราย ต่อต้าน 'บ.เอกชน' ขายตัดราคา

เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ (2 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวงานว่า ที่ศาลากลางจังหวัดน่าน กลุ่มพ่อค้าหมูรายย่อย (เขียงหมู) ยกป้ายประท้วงขอเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เพื่อยื่นเรื่องขอตรวจสอบบริษัทเอกชนรายหนึ่งที่ ขายเนื้อหมูถูกกว่าราคาเขียงหมูในตลาดถึงกิโลกรัมละ 20-30 บาทโดย นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน รับเรื่องแทน ทั้งนี้ กลุ่มพ่อค้าหมูรายย่อยในจังหวัดน่านรวมตัวกันขอตรวจสอบและร้องเรียนให้ปรับสมดุลราคาในตลาด เพื่อที่จะให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ โดยนายวิบูรณ์ แววบัณฑิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว และจะนำไปปรึกษาหารือกับพานิชจังหวัด รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เพื่อปรับสมดุลในตลาดและป้องกันความขัดแย้งภายในกลุ่มผู้ค้าเนื้อสุกรในจังหวัดน่าน

โดยบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ได้เปิดให้บริการขายเนื้อสุกร และได้ขายในราคาถูกกว่าท้องตลาด กว่ากิโลกรัมละ 20-30 บาท ทำให้กลุ่มเขียงหมูในตลาดในอำเภอเมือง และ ต่างอำเภอ ไม่พอใจ และ แครงใจในที่มาที่ไปของสุกร ที่นำมาขายโดยขอตรวจสอบและให้อธิบายถึงที่มาที่ไปของสุกรที่นำมาขาย ว่า ทำไมถึงขายได้ราคาที่ต่ำกว่าในตลาด โดยทางด้าน ผู้จัดการบริษัทแห่งหนึ่ง ได้ชีแจงดังนี้ว่า หมูที่นำมาขายนั้นมีทั้งเนื้อสุกรในจังจังหวัดน่าน และ เนื้อสุกรชำแหละ ที่รับซื้อมาจาก บริษัทแห่งหนุ่ง และได้นำมาขายจำนวนมาก ทำให้ราคาถูก โดย เนื้อสุกรที่จำแหละในจังหวัดน่านนั้น ชำแหละที่อำเภอเวียงสาจังหวัดน่าน เป็นสุกรที่เลี้ยงในจังหวัด โดยจะสั่งชำแหละครั้งละ 10-15 ตัว ต่อครั้งเพื่อนำมาจำหน่าย และ สังมาจากบริษัทอีกจำนวนหนึ่ง จึงได้ราคาถูกกว่า การชำแหละแบบทั่วไปเนื่องจากสั่งมาเป็นจำนวนมาก และราคาที่ขายหน้าร้าน จะอ้างอิงจากราคา จากสหพันธ์ค้าเนื้อสุกร ตามที่ตัวแทนบริษัทได้กล่าวออกมา

ในส่วนทางด้าน กลุ่มพ่อค้าเนื้อสุกรในจังหวัดน่าน ยังแครงใจเรื่องราคา ที่ขายได้ต่ำกว่าราคาท้องตลาดได้อย่างไร และในส่วนของเขียงหมูบางราย ที่ขายเนื้อสุกรเลี้ยงตัวเองเป็นอาชีพส่งลูกเรียนส่งบ้านผ่อนรถ ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ราคาที่ บริษัทเอกชนแห่งนี้ขายนั้น แทบจะไม่ได้กำไรอะไรเลย โดยเนื้อสุกรชำแหละ เขียงหมูในตลาดขายกิโลกรัมละ 130-140 บาท แต่ทางด้านบริษัทเอกชนแห่งนี้นั้น ขายในราคากิโลกรัมละ 105 - 107 บาท ทำให้เจ้าของเขียงหมูต่างๆ ขายเนื้อสุกรชำแหละ ได้น้อยลงและ บางวัน แทบขายไม่ได้เลย จึงรวมตัวกันเข้ามาร้องเรียน ขอให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าตรวจสอบ ที่มาที่ไป ของบริษัทดังกล่าว และ ขอให้บริษัทดังกล่าว ปรับราคาให้สมดุลกับราคาตลาดเพื่อให้อยู่ร่วมกัน ได้

ซึ่งตอนนี้ ทางจังหวัดได้รับเรื่องเรียบร้อยแล้ว และ บริษัทเอกชนรายนี้ก็รับทราบแล้วและจะปรับปรุงแก้ไขในราคาขายหน้าร้าน อีกครั้งในวันที่ 2 เมษายน 2560 นี้ เนื่องจากต้องเข้าระบบของบริษัท