เจ้าอาวาสยอมสึกรับผิดทาสีหลวงพ่อองค์ดำ ยันรู้เท่าไม่ถึงการณ์
พระครูปลัดกิ่ง เจ้าอาวาสวัดโกโรโกโส วัย 83 ปี ยอมรับรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เปลี่ยนสีหลวงพ่อดำเป็นสีทองเพราะความสดใส ไม่คิดจะเป็นเรื่องราวใหญ่โต เตรียมลาสิกขาแสดงความรับผิดชอบ
จากกรณีที่วัดโกโรโกโส ริมคลองข้าวเม่า ม.5 ต.ข้าวเม่า อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสของวัดได้ทำการเปลี่ยนสีของหลวงพ่อแก้วหรือหลวงพ่อองค์ดำ พระประธาน พระพุทธรูปเก่าแก่ สมัยกรุงศรีอยุธยา ที่ชาวบ้านเคารพ ซึ่งต่อมานายสมพร คามีศักดิ์ รองนายก อบต.ข้าวเม่า เดินทางไปตรวจสอบ ในอุโบสถ พบว่าหลวงพ่อแก้ว หรือ หลวงพ่อองค์ดำ ถูกเปลี่ยนสี ซึ่งแต่เดิม องค์พระเป็นสีดำ แต่ได้ถูก ทางวัดทำการบูรณะ เปลี่ยนสีใหม่ เป็นสีทอง ซึ่งทำให้ ชาวบ้าน ไม่เห็นด้วย ที่ทางวัด ได้เปลี่ยนสี หลวงพ่อแก้วหรือหลวงพ่อองค์ดํา โดยไม่มี การแจ้ง หรือทำประชาคม ซึ่งชาวบ้านที่ไปดูต่างแสดงความไม่พอใจ
โดยพระครูปลัดกิ่ง คุณวโร อายุ 83 ปี รักษาการเจ้าอาวาสวัดโกโรโกโส เปิดเผยว่า สาเหตุ ที่ทางวัด ได้ทำการเปลี่ยนสี เพราะมีญาติโยม จากกรุงเทพฯ ได้มาทำบุญที่วัดและเห็นว่า องค์หลวงพ่อแก้วหรือหลวงพ่อองค์ดำทรุดโทรม จึงอยากจะบูรณะ ทาสีหลวงพ่อใหม่ ให้เป็นสีทองจึงได้ แจ้งความประสงค์มาทางวัดซึ่งทางวัดก็เห็นว่า หลวงพ่อนั้นมีความเก่าและทรุดโทรมจริง จึงเห็นควรกับญาติโยมที่จะมาทำบุญ จึงได้ให้ลงมือบูรณะใหม่ ซึ่งชาวบ้านก็เห็นด้วย แต่ถ้ามีชาวบ้าน ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยทางวัด ก็ยินดีที่จะเปลี่ยนกลับไปเป็นสีตามเดิม
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 28 มี.ค. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ พร้อมผู้เกี่ยวข้องได้เดินทางไปยัง สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยตัวแทนวัดและชาวบ้าน เพื่อหารือการดำเนินการเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น โดยตัวแทนคณะสงฆ์ อำเภออุทัย ได้มี ข้อยุติ คือ ให้พระปลัดกิ่ง ออกนอกพื้นที่วัดโกโรโกโส โดยให้มาจำ วัดสะแก ให้ดำเนินการไม่เกิน 20 วัน หลังจากนั้นจะหารือ กับ กรมศิปากรมาขึ้นทะเบียนไว้ เพื่อให้ทำการเปลี่ยนสีหลวงพ่อดำกลับไปเป็นสีเดิม :ซึ่งหลังจากนี้จะได้หารือกับทางอุทยานประวัติศาสตร์ เพื่อดำเนินการในเรื่องการซ่อมแซมส่วนอื่นๆ
ด้านพระปลัดกิ่ง ยืนยันขอเวลา 20 วัน ในการจัดการภายในวัด แล้วจะลาสิกขา เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อไป




