เกษตรกรจ.เลย ปลูกแตงกวาขาย รายได้กว่าสามแสนบาทต่อปี
ริมถนนสายเลย-ท่าสวรรค์ อ.นาด้วงบ้านเจริญสุข ต.นาดินดำ อ.เมือง จ.เลย เกษตรกรกำลังเก็บและขนแตงกวา ส่งขายตลาดใน จ.อุดรธานี
นายบุญชัย พลศักดิ์เดช อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 303 หมู่ 8 บ้านเจริญสุข ต.นาดินดำ อ.เมือง จ.เลย กล่าวว่า ปลูกแตงมากว่า 2 ปีแล้ว ก่อนปลูกได้สำรวจความต้องการของตลาด และตรวจสอบคุณภาพดินว่าเหมาะสำหรับปลูกพืชชนิดใด จนมีข้อมูลว่า แตงกวาเป็นพืชที่น่าสนใจ เพราะตลาดเปิดกว้าง มีการซื้อขาย บริโภคได้ทั้งดิบและนำไปประกอบอาหาร นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในอุตสาหกรรมทำอาหารดอง แตงกวาเป็นพืชที่ปลูกง่าย อายุสั้น การเจริญเติบโตเป็นพุ่มและมีเถาเลื้อย
“แตงกวาเป็นพืชที่ชอบขึ้นในดินร่วนปนทราย มีการระบายน้ำที่ดี ชอบอากาศร้อน แดดจัด ถ้าปลูกในที่เย็นจัดเมล็ดแตกจะไม่งอกแต่จะพักตัวอยู่ในดิน หากอุณหภูมิเริ่มอบอุ่นขึ้น เมล็ดนั้นจะกลับมางอกขึ้นอีก และหากอากาศเย็นก็จะให้ผลผลิตช้า อุณหภูมิที่เหมาะสมกับการปลูกแตงกวาอยู่ที่ประมาณ 25-30 องซาเซลเซียส หรือถ้าอุณหภูมิสูงกว่านี้ก็สามารถโตได้ตามปกติ ประเทศไทยนับว่าเป็นประเทศที่เหมาะสมกับการปลูกแตงกวามาก ยกเว้นในพื้นที่ที่มีอากาศเย็นจัดโดยเฉพาะกระแสการบริโภคพืชผักปลอดสารพิษ เงื่อนไขทางตลาดมีจำกัดไว้ทั้งคุณภาพความสมบูรณ์ และปลอดสารพิษยิ่งทำให้แตงกวาได้รับความนิยม เพราะที่สวนไม่ได้ใช้สารเคมี” นายบุญชัย กล่าว
สวนราคาขายนายบุญชัย บอกว่า แต่ละต้นให้ผลผลิต 5 กิโลกรัม แต่ละปีเก็บขายได้ 8 ครั้งขายกิโลกรัมละ 5-10 บาท โดยในช่วงเดือนมี.ค.-พ.ค. ราคาขายจะสูงกว่าช่วงอื่น เพราะเกษตรกรไม่นิยมปลูกช่วงนี้ เฉลี่ยมีรายได้ปีละกว่า 300,000 บาท โดยพ่อค้าคนกลางมารับซื้อที่ไร่ แล้วนำไปส่งต่อยังห้างสรรพสินค้าที่ จ.อุดรธานี ทั้งนี้ต้องมีการคัดเกรดและตรวจสอบสารพิษตกค้าง โดยนักวิชาการจากทางห้างสรรพสินค้าด้วย ที่ผ่านมาจึงได้รับความไว้วางใจว่าเป็นผักปลอดสารพิษ ทำให้ตลาดรับซื้อไม่อั้น







