‘รอยสตัน เดรนเธ’ จากนักเตะสู่ศิลปินแร็ปเปอร์

ช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว เกิดข่าวที่ถือว่าเป็นกระแสในวงการลูกหนังเมื่อ รอยสตัน เดรนเธ อดีตฟูลแบ็กของ เรอัล มาดริด ได้ประกาศจบอาชีพการค้าแข้งด้ว
หากย้อนไปเมื่อช่วง 10 ปีก่อน ดาวเตะชาวดัตช์รายนี้ ถือเป็น 1 ในดาวรุ่งที่น่าจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งในวงการ เนื่องจากเจ้าตัวได้รับยกย่องว่าเป็น “วันเดอร์คิด” ที่จะขึ้นเป็นตำนานลูกหนังคนต่อไป รวมถึงได้ไปอยู่ในทีมอย่าง “ราชันชุดขาว” ในวัยเพียง 20 ปีเท่านั้น
แล้วทำไมเจ้าตัวถึงได้ปิดฉากอาชีพการค้าแข้งอย่างรวดเร็วเช่นนี้ รวมถึงเบนเข็มไปทำอย่างอื่นซึ่งห่างไกลจากวงการลูกหนังเป็นอย่างมาก?
ดาวรุ่งระดับโลก
เดรนเธ เข้าสู่วงการลูกหนังเป็นครั้งแรกในอะคาเดมีของทีม เฟเยนูร์ด ร็อตเธอร์ดัม ตั้งแต่อายุ 13 ปี และอีก 6 ปีถัดมาในฤดูกาล 2006-2007 เขาก็ขึ้นเป็นตัวหลักของทีมได้ ซึ่งถึงแม้ว่า เฟเยนูร์ด จะจบซีซั่นเพียงแค่ที่ 7 ของตาราง แต่ผลงานส่วนตัวของ เดรนเธ นั้นโดดเด่นเป็นอย่างมาก จนทำให้เขามีชื่อเป็น 1 ในขุนพลของทีม “อัศวินสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ ชุดยู-21 เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรุ่นอายุไม่เกิน 21 ในปี 2007
ผลปรากฏว่า เนเธอร์แลนด์ คว้าแชมป์ไปครองด้วยการถล่ม เซอร์เบีย ไป 4-1 โดยทัวร์นาเมนต์นี้ ถือว่าเป็นการแจ้งเกิดของ เดรนเธ อย่างเต็มตัว เพราะนอกจากจะมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทีมชาติคว้าแชมป์แล้ว เขายังคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์มาครอง โดยเอาชนะนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ในรุ่นเดียวกัน ทั้ง บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอร์จิโอ คิเอลลินี และ แยน แฟร์ต็องเกน ได้อย่างเป็นเอกฉันท์
จากฟอร์มดังกล่าว ทำให้หลังจบทัวร์นาเมนต์มีหลายสโมสรชั้นนำยื่นข้อเสนอให้เพื่อขอคว้าตัวเขาไปร่วมทัพ ซึ่งถึงแม้ว่า เฟเยนูร์ด จะไม่อยากปล่อยตัวนักเตะรายนี้ แต่ด้วยความทะเยอทะยานของ เดรนเธ จึงออกมาขู่ทีมว่าจะใช้กระบวนการทางกฎหมายหากไม่ให้เขาย้ายทีม ซึ่งสุดท้ายแล้วเจ้าตัวก็ย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งสเปนด้วยค่าตัว 14 ล้านยูโร (514 ล้านบาท)
จุดหักเหในวงการลูกหนัง
หลังจากที่ เดรนเธ ย้ายเข้าสู่ถิ่นซานติอาโก เบอร์นาเบว ในปี 2007 แม้ผลงานโดยรวมเจ้าตัวจะทำได้ดีในทุกครั้งที่ลงสนาม แต่โชคร้ายที่เขาได้รับโอกาสไม่มากนักในแดนกระทิงดุ เพราะมี มาร์เซโล แบ็กซ้ายทีมชาติบราซิลเป็นตัวจริงอยู่
และการต้องตกเป็นตัวสำรองอยู่บ่อยครั้ง ก็ส่งผลให้เขามีปัญหากับ แบรนด์ ชูสเตอร์ กุนซือของ เรอัล มาดริด ในขณะนั้น จนถูกปล่อยไปเล่นให้ เอร์กูเลส แบบยืมตัวในปี 2010 ก่อนจะมาอยู่กับ เอฟเวอร์ตัน ในปีต่อมา อย่างไรก็ตามจากนั้น เดรนเธ มีปัญหาด้านพฤติกรรม เช่น การมาซ้อมสาย และการชอบไปปาร์ตี้ ทำให้ เดวิด มอยส์ เฮดโค้ช “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ตัดสินใจไม่เซ็นสัญญากับเขาถาวร
จากนั้น อดีตแข้งทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ก็พเนจรไปอยู่กับอีกหลายสโมสร ทั้ง อลาเนีย วลาดีคาฟคาซ (รัสเซีย), เรดดิง, เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ (อังกฤษ), เคย์เซริ เอร์ซิเยสปอร์ (ตุรกี) และ บานิยาส (ยูเออี) จนกระทั่งแขวนสตั๊ดในที่สุด
สู่เส้นทางแร็ปเปอร์
ระหว่างการเล่นฟุตบอลอาชีพ เดรนเธ ก็มีกิจกรรมหลายอย่างที่เจ้าตัวชอบทำไม่น้อยกว่าการเล่นฟุตบอล เช่น การแต่งตัว และแฟชั่น ทำให้ในปี 2014 เขาร่วมหุ้นกับ มิเชล โพลเดอร์สวาร์ด อดีตเพือนร่วมทีม เฟเยนูร์ด เปิดร้านขายเสื้อผ้าที่เมือง ร็อตเธอร์ดัม
นอกจากนั้น หลังจากถูก บานิยาส ยกเลิกสัญญาในปี 2016 เขาได้จับมือกับ ยู-นิกซ์ แร็ปเปอร์ที่เคยเป็นอดีตนักฟุตบอลฝึกหัดของ เฟเยนูร์ด เช่นเดียวกัน ร่วมกันทำเพลงแนวแร็ปขึ้นมา ซึ่งสอดคล้องกับในเวลานั้นที่กระแสเพลงแนวดังกล่าวกำลังได้รับความนิยมอย่างสูง โดยมีผลสำรวจออกมาว่า นักร้องแร็ปเปอร์ส่วนใหญ่มีรายได้มากกว่า 56,000 ดอลลาร์ (1.8 ล้านบาท) ต่อเดือน รวมถึงยังมีการระบุเพิ่มเติมว่า ศิลปินแร็ปเปอร์ที่ทำรายได้สูงสุด นั่นก็คือ เจย์-ซี มีรายได้ 1 ล้านดอลลาร์ (33.9 ล้านบาท) ต่อการโชว์ 1 ครั้ง ซึ่งมากกว่า คาร์ลอส เตเบซ หัวหอกชาวอาร์เจนไตน์ของทีม เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว ในไชนีส ซูเปอร์ลีก ที่ได้รับค่าเหนื่อยต่อสัปดาห์สูงที่สุดในโลกถึง 250,000 ดอลลาร์ (8,4 ล้านบาท) จึงมีหลายคนมองว่า เดรนเธ จะใช้ชื่อเสียงของตนเอง หันมาโกยรายได้ทางด้านนี้แทน
อย่างไรก็ตาม อดีตดาวเตะวัย 29 ปีได้ออกมาโต้ในเรื่องดังกล่าว โดยเผยว่าตนเองต้องการทำตามความฝันเพียงเท่านั้น ซึ่งหลังจากใช้เวลากว่า 1 ปี เขาก็ได้มีซิงเกิลแรกของตัวเอง คือ “พาราโนอา” ลงเผยแพร่ในยูทูป พร้อมใช้ชื่อในวงการศิลปินว่า “โรยาทูเฟส” อีกด้วย
ถึงกระนั้นแม้ เดรนเธ จะตัดสินใจผันตัวไปเป็นศิลปินอย่างเต็มตัวแล้ว แต่ เฟเยนูร์ด ร็อตเธอร์ดัม ต้นสังกัดแรกในอาชีพ ยังต้องการให้เขากลับมาค้าแข้งกับทีมอีกครั้ง แต่แร็ปเปอร์หน้าใหม่ได้ประกาศผ่านสื่อว่า “ผมได้ตัดสินใจที่จะหันหลังให้กับวงการฟุตบอลแล้ว เพราะผมต้องการไปทำสิ่งใหม่ๆ นั่นก็คือ การเป็นศิลปิน และขอให้ เฟเยนูร์ด เลิกตามตื้อผมได้แล้ว”
และทั้งหมดนี้ คือชีวิตของอดีตดาวโรจน์ระดับโลก ที่ผันตัวเองมาเป็นศิลปินตามความฝันซึ่งจากนี้เส้นทางใหม่ที่เจ้าตัวเลือกจะเป็นเช่นไร คงต้องรอติดตาม และให้กำลังใจเขาคนนี้ไปด้วยกัน







