พิษณุโลกเดินหน้าสร้างสะพาน ข้ามสี่แยกอินโดจีน

กรมทางหลวงเดินหน้า สร้างสะพานข้ามสี่แยกอินโดจีน ต.สมอแข อ.เมืองพิษณุโลก หลังภาคเอกชนร้องศาลปกครองพิษณุโลก
ขอคุ้มครองการประกวดราคาก่อสร้าง ผอ.แขวงทางหลวงที่1 พิษณุโลกเปิดเผย ศาลพิเคราะห์แล้วให้ดำเนินการก่อสร้างได้ เตรียมเปิดเวทีรับฟังความเห็นประชาชนครั้งสุดท้าย 23 กพ.นี้ ก่อนเซ็นต์สัญญาจ้างด้วยวงเงิน 849 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 2 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการก่อสร้าง สะพานลอยข้ามสี่แยกดินโดจีน ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก ขณะนี้เริ่มมีความคืบหน้ามากขึ้นตามลำดับ หลังจากช่วงเดือนกันยายน 2559 ที่ผ่านมา ภาคเอกชนในจ.พิษณุโลก ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองจังหวัดพิษณุโลกขอคุ้มครองชั่วคราว ระงับการประกวดราคารับเหมาก่อสร้าง พร้อมกับยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมทางหลวง ขอคัดค้านคัดค้านทางยกระดับบริเวณสี่แยกอินโดจีน ด้วยเหตุผลอยากให้เป็นแบบทางลอด เพราะความน่าสนใจ หรือ อัตลักษณ์สี่แยกอินโดจีนหายไป ผิดเจตนารมณ์ วัตถุประสงค์ในการพัฒนาพื้นที่ให้เห็นจุดเด่น (Landmark) ของเมืองพิษณุโลก
นายอวิรุทธิ์ ทับทิมแท้ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงพิษณุโลกที่1เปิดเผยว่า ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 นี้กรมทางหลวงจะเปิดเวทีรับฟังความเห็นภาคประชาชน เกี่ยวกับการสร้างสะพานลอยข้ามสี่แยกอินโดจีนจ.พิษณุโลก เป็นเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะดำเนินการเซ็นต์สัญญาก่อสร้าง สถานที่อาจจะเป็นที่โรงแรมอมรินทร์ลากูน ซึ่งขณะนี้ กรมทางหลวงได้ตัวบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างแล้ว จากการประกวดราคา คือ บริษัท คริสตินี่ ฯ การทำประชาพิจารณ์ประชาชนมีส่วนร่วมครั้งสุดท้ายนี้ ในเรื่องผลกระทบและการแก้ไขผลกระทบระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ข้อเสนอแนะของผู้ได้รับผลกระทบ และเมื่อผ่านการทำเวทีประชาชนมีส่วนร่วมครั้งสุดท้ายเสร็จ ก็จะมีการเซ็นต์สัญญาจ้าง วงเงินงบประมาณ 849 ล้านบาท และดำเนินการก่อสร้างได้เลย ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี
สำหรับรูปแบบการก่อสร้างนั้น นายอวิรุทธิ์ เปิดเผยว่า ทำตามรูปแบบที่ทำเวทีประชาชนมีส่วนร่วมได้เลือกและสรุปกันมา คือ รูปแบบการสร้างสะพานลอยข้าม และด้านในเป็นวงเวียน ส่วนในเฟสสองในอนาคตอาจจะทำเป็นทางลอด แต่ ณ ขณะนี้ต้องทำเป็นสะพานลอยข้ามก่อน
ส่วนการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองจังหวัดพิษณุโลก ขอคุ้มครองการประกวดราคาก่อสร้าง คัดค้านการก่อสร้างในรูปแบบสะพานลอยนั้นนายอวิรุทธิ์เปิดเผยว่า ศาลปกครองจังหวัดพิษณุโลกได้รับฟ้อง และได้ให้กรมทางหลวงไปจี้แจงในหลายประเด็น ทางศาลปกครองได้พิเคราะห์แล้วว่าให้ดำเนินการก่อสร้างได้ เป็นประโยชน์ต่อประชาชน หากศาลปกครองไม่อนุญาต งบประมาณในส่วนนี้ก็จะต้องถูกตีกลับไป ส่วนภาคเอกชนจะดำเนินการต่อไปอย่างไรนั้นตนไม่ทราบ ซึ่งยังมีโอกาสฟ้องที่ส่วนกลางได้อีก แต่ขั้นตอน ณ ปัจจุบัน ยังคงดำเนินต่อไป เหลือแค่ทำเวทีประชาชนมีส่วนร่วมครั้งสุดท้าย ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ นี้ และเซ็นต์สัญญาจ้างกับเอกชน จึงจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้
สำหรับสี่แยกอินโดจีน อ.เมือง จ.พิษณุโลก เป็นจุดตัดสำคัญของทางหลวงหมายเลข11 และทางหลวงหมายเลข12 ในอดีตคือสามแยกร้องโพธิ์ ต่อเมื่อสร้างทางเลี่ยงเมืองพิษณุโลกเชื่อมต่อไปกับ ถ.พิษณุโลก-นครสวรรค์ จึงมีการตั้งชื่อเรียกว่า สี่แยกอินโดจีน เป็นสี่แยกเชิงสัญลักษณ์ ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดพิษณุโลก ที่ขับเคลื่อนด้วยภาครัฐและภาคเอกชนจ.พิษณุโลก ที่กำหนดยุทธศาสตร์จังหวัด เป็นเมืองบริการสี่แยกอินโดนจีน และเป็นสี่แยกสำคัญบนถนนเลี่ยงเมืองวงแหวนรอบเมืองพิษณุโลก ที่ยังไม่ได้ดำเนินการก่อสร้างสะพานลอย หรือ ทางลอด การจราจรในช่วงวันหยุดเทศกาลจะติดขัดอย่างมาก ช่วงปี 2556-2557 กรมทางหลวงได้โครงการสำรวจและออกแบบทางแยกต่างระดับ จุดตัดทางหลวงหมายเลข 12 กับทางหลวงหมายเลข 126 (แยกอินโดจีน)ทำเวทีรับฟังความเห็นจากภาครัฐ ภาคประชาชน ภาคเอกชนมาหลายครั้ง จนได้ข้อสรุป เลือกรูปแบบการก่อสร้างในการก่อสร้างทางยกระดับในแนวทางหลวงหมายเลข 12
พร้อมทั้งควบคุมการจราจรที่ทางแยกด้วยวงเวียน มีความเหมาะสมมากที่สุด ซึ่งมีจุดเด่น คือ ไม่มีการเวนคืนที่ดิน มีผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมน้อย และยังมีค่าก่อสร้างที่ต่ำกว่ารูปแบบอื่นในกันยายนปี 2559 คณะกรรมการร่วมภาคเอกชนจังหวัดพิษณุโลกยื่นหนังสือคัดค้านการก่อสร้างแบบสะพานลอยกับกรมทางหลวง พร้อมกับยื่นต่อศาลปกครองจังหวัดพิษณุโลกให้คุ้มครองชั่วคราวการประกวดราคาก่อสร้าง ด้วยต้องการให้เป็นแยกที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของจังหวัดพิษณุโลก ต้องการให้ทำทางลอด คล้ายกับสี่แยกวังสีสูบ ของ จ.อุตรดิตถ์ กระทั่งวันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ เตรียมทำเวทีการมีส่วนร่วมของประชาชนครั้งสุดท้าย ก่อนจะเซ็นต์สัญญาก่อสร้าง







