นราฯน้ำท่วมขยาย11อำเภอ แม่น้ำสายหลัก3สายล้นตลิ่ง

นราฯน้ำท่วมขยาย11อำเภอ แม่น้ำสายหลัก3สายล้นตลิ่ง

สถานการณ์น้ำท่วมนราธิวาส ขยายวงกว้าง11อำเภอแล้ว หลังแม่น้ำสายหลัก3สายล้นตลิ่ง เดือดร้อน 27,547 ครัวเรือน

ความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า ล่าสุดฝนก็ยังคงตกแพร่ปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ แต่หนักเป็นช่วงๆ ส่งผลทำให้แม่น้ำสายหลัก 3 สาย คือ แม่น้ำสุไหงโกลก บางนราและสายบุรี ล้นตลิ่งและไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ทางเกษตรเกษตรของประชาชน รวมถึงโรงเรียนต่างๆ และมีแนวโน้มระดับน้ำท่วมขังสูงอย่างต่อเนื่อง

จากการตระเวนนั่งเรือยนต์ตรวจสอบในแม่น้ำสุไหงโกลก พบว่า พื้นที่ 2 ฟากฝั่งด้าน อ.สุไหงโกลกและฝั่งตรงกันข้ามซึ่งเป็นเมืองรันตูปันหยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย บ้านเรือนของประชาชนที่ปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มริมตลิ่งถูกน้ำท่วมขัง โดยมีระดับสูงโดยภาพรวมเฉลี่ย 1 ถึง 1.50 ม. ส่งผลทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 9 ชุมชน เขตเทศบาลเมืองสุไหงโกลก ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก ประกอบด้วย ชุมชนท่าประปา ชุมชนท่าโรงเลื่อย ชุมชนท่าชมพู่ ชุมชนท่าเจ๊ะกาเซ็ง ชุมชนท่ากอไผ่ ชุมชนหัวสะพาน ชุมชนหลังด่าน ชุมชนท่าบือเร็งและชุมชนกือดาบารู ซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่ จำนวนกว่า 100 ครัวเรือน ถูกสภาวะน้ำท่วมขังเป็นระลอกที่ 3 แล้ว โดยส่วนหนึ่งยังคงอาศัยอยู่ที่บ้านพักชั้น 2 และอีกส่วนหนึ่งได้อพยพครอบครัวไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพโรงเรียนเทศบาล 4 จำนวน 7 ครัวเรือน รวม 24 คน

แต่ถึงอย่างไรก็ตามผลพวงของฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 2 วัน ยังส่งผลทำให้กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกัดเซาะถนนยางมะตอยทางเข้าบ้านค่าย ม.2 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมืองนราธิวาส ในช่วงคืนที่ผ่านมา จนขาดเป็นทางยาวกว่า 5 เมตร ยานพาหนะทุกชนิดไม่สามารถแล่นผ่านไปมาได้ ซึ่งในขณะนี้เจ้าหน้าที่ อบต.กะลุวอเหนือ เตรียมนำอุปกรณ์เครื่องมือกลมาทำการซ่อมแซม ซึ่งต้องรอกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากลดระดับลง โดยประชาชนที่ต้องการเดินทางไปทำกิจธุระในตัวเมือง ต้องขับและขี่ยานพาหนะอ้อมไปอีกทางหนึ่งซึ่งไกลกว่า 2 ก.ม.

นอกจากนี้แล้ว อีกพื้นที่หนึ่งซึ่งได้รับผลกระทบจากสภาวะน้ำท่วมขังในรอบ 10 ปี คือ ที่หมู่บ้านละหาร ม.1 ต.ละหาร อ.ยี่งอ ซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่ จำนวน 200 ครัวเรือน มีน้ำท่วมขังสูง 80 ถึง 100 ซ.ม.ชาวบ้านต้องใช้เรือเป็นยานพาหนะแทนรถยนต์ โดยทาง น.อ.สุบรรณ ดีนอก รอง ผบ.ฉก.นาวิกโยธินภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ ได้นำกำลังพลตระเวนเดินลุยน้ำแจกถุงยังชีพให้กับประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว

ซึ่งล่าสุดจังหวัดนราธิวาส ได้สรุปสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในระลอกที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. 60 ที่ผ่านมา ได้เกิดสภาวะน้ำท่วมขังพื้นที่ 11 อำเภอ 50 ตำบล 315 หมู่บ้าน 2 เขตเทศบาล 42 ชุมชน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 27,547 ครัวเรือน รวม 100,866 คน โรงเรียนถูกน้ำท่วม 32 แห่ง บ้านเสียหายบางส่วน 2 หลัง ถนนสายหลักและสายรองถูกน้ำท่วม 16 สาย พื้นที่เกษตรเสียหาย 1,543 ไร่