ดาการ์ แรลลี 2017 ได้เวลาแรลลีอันดับหนึ่ง

ดาการ์ แรลลี 2017 ได้เวลาแรลลีอันดับหนึ่ง

2 ม.ค. ที่จะถึงนี้ คือวันแรกที่วงล้อของมอเตอร์สปอร์ตโลก จะเริ่มต้นหมุนสำหรับฤดูกาลใหม่

 ไปพร้อมกับการแข่งขันแรลลีระดับตำนาน ที่อยู่คู่วงการมาเกือบสี่ทศวรรษ ใน ดาการ์ แรลลี 2017”

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าการหลงทางในทะเลทรายของชายผู้หนึ่ง จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของรายการมอเตอร์สปอร์ต ที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดของโลก ที่ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน...

เธียร์รี ซาบีน

จุดเริ่มต้นของ ดาการ์ แรลลี (หรือชื่อเดิม ปารีส-ดาการ์ แรลลี) ต้องย้อนกลับไปในตอนปลายทศวรรษที่ 70 เมื่อ เธียร์รี ซาบีน หลงทางกลางทะเลทรายเตเนเร ในประเทศไนเจอร์

มีคำกล่าวว่า เตเนเร เป็น ทะเลทรายในทะเลทราย ด้วยความที่เป็นดินแดนรกร้างลึกเข้าไปในทะเลทรายซาฮารา มีขนาดใหญ่เทียบเท่ากับรัฐแคลิฟอร์เนียในสหรัฐ ที่สำคัญ นอกจากไม่มีทางออกทะเลแล้ว ยังเต็มไปด้วยเนินทรายต่อเนื่องสุดลูกหูลูกตา

ซาบีน หลงทางเข้าไปในดินแดนดังกล่าว ระหว่างแข่งขันบนเส้นทางจาก อาบีจาน (โกตดิวัวร์) สู่ นีซ (ฝรั่งเศส) และพบว่าที่นี่คือสถานที่ที่เหมาะสม สำหรับการแข่งแรลลีประจำปีที่จะเป็นบททดสอบ สำหรับเหล่านักแข่งสมัครเล่นผู้ต้องการผจญภัย

นับแต่นั้นมา ซาบีน ก็อุทิศตนให้กับการแข่งขันรายนี้โดยตลอด กระทั่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก เพราะพายุทรายในมาลี ในเดือนม.ค. 1986 และเพื่อเป็นการรำลึก เถ้ากระดูกของ ซาบีน จึงถูกนำไปโปรยยังต้นอคาเซียต้นหนึ่ง ที่ถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญในทะเลทรายซาฮารา และได้รับการขนานนามว่า “ลอสท์ ทรี”

38 ปีแห่งความทรหด

ปารีส-ดาการ์ แรลลี ครั้งแรก จัดขึ้นในเดือนธ.ค. ปี 1978 โดยมีจุดเริ่มต้น ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ผ่าน แอลจีเรีย, ไนเจอร์, มาลี และอัปเปอร์วอลตา (บูร์กินาฟาโซ ในปัจจุบัน) ไปสิ้นสุดที่กรุงดาการ์ เมืองหลวงของเซเนกัล ในวันที่ 14 ม.ค. 1979 รวมระยะทางทั้งสิ้น 10,000 กิโลเมตร

รายการนี้ มีผู้สมัครเข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 182 ราย (รถยนต์ 80 คัน มอเตอร์ไซค์ 90 คัน และรถบรรทุก 12 คัน) ก่อนจบลงด้วยชัยชนะของ ซีริล เนโว ชาวฝรั่งเศส ด้วยมอเตอร์ไซค์ ยามาฮา XT 500 ขณะที่ อแลง เฌอเนสติเยร์ ในรถเรนจ์ โรเวอร์ คือผู้ที่มีผลงานดีที่สุดในประเภทรถยนต์

ชื่อเสียงของ “ปารีส-ดาการ์” เริ่มขยายวงกว้างขึ้นในแต่ละปี แม้ ซาบีน จะเสียชีวิตอย่างกะทันหันในปี 1986 แต่ ชิลแบร์ พ่อของผู้ก่อตั้งชาวฝรั่งเศส ก็ยังสานต่อปณิธานของลูกชายด้วยความมุ่งมั่น กระทั่งมีผู้สมัครเข้าร่วมแข่งขันถึง 603 รายในปี 1988 หรือสามเท่าจากการแข่งในครั้งแรก อันเป็นผลจากการที่ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลกเริ่มหันมาส่งทีมเข้าแข่งขัน

ในปี 1991 (พ.ศ. 2534) พรสวรรค์ ศิริวัฒนกุล คือนักขับไทยคนแรกที่มีโอกาสเข้าร่วมแข่งขันรายการนี้ โดยการสนับสนุนจากทาง มิตซูบิชิ และประสบความสำเร็จได้แชมป์ในประเภท T2 – 1 CLASS WINNER ในปีถัดมา ตามด้วยแชมป์ T2 OVERALL WINNER 2 สมัย ในปี 1993 และ 1994

จากนั้นในปี 2009 (พ.ศ. 2552) มานะ พรศิริเชิด ก็เป็นนักขับไทยคนที่สองที่เข้าร่วมแข่งขันในรายการนี้ และฝ่าฟันอุปสรรคจนแข่งขันจบในอันดับ 73 จากผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 194 คัน

ตลอดเวลาที่ผ่านมา อโมรี สปอร์ต ออร์แกไนเซชัน (เอเอสโอ) ซึ่งรับช่วงในการจัดต่อจากพ่อของ ซาบีน ปรับเปลี่ยนเส้นทางการแข่งขันเป็นระยะตามสถานการณ์ และปี 2001 ก็เป็นปีสุดท้ายของเส้นทาง “ปารีส-ดาการ์” ที่เป็นตำนาน แต่ความนิยมของรายการยังพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในปี 2005 ที่มีผู้เข้าแข่งมากถึง 688 ราย เป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่จัดมา

อย่างไรก็ดี จากเหตุก่อการร้ายในมอริทาเนียที่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 4 รายและบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ทาง เอเอสโอ จึงตัดสินใจระงับไม่จัด ดาการ์ แรลลี 2008 ก่อนโยกไปจัดในทวีปอเมริกาใต้แทน ตั้งแต่ปี 2009 จนถึงปัจจุบัน

ดาการ์ 2017

ใน ดาการ์ แรลลี 2017 ซึ่งเป็นครั้งที่ 39 ของรายการนี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงจุดสตาร์ทอีกครั้ง โดยสลับกรุงบัวโนส ไอเรส ที่เป็นจุดสตาร์ทในสองปีหลังสุดไปเป็นเส้นชัยแทน ส่วนจุดสตาร์ทถูกย้ายไปที่อซุนซิโอน ในปารากวัย กับระยะทางเกือบ 9,000 กิโลเมตร ใน 12 สเตจ ที่ยานพาหนะทั้ง 316 คน จะต้องเผชิญหน้า ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. เป็นต้นไป

ไฮไลต์สำคัญในประเภทรถยนต์ ที่มีผู้เข้าแข่งขัน 83 คัน คงหนีไม่พ้นการขับเคี่ยวกันของ มิสเตอร์ ดาการ์สเตฟาน ปีเตอร์อองเซล แชมป์เก่าจากทีมเปอโยต์ และผู้ท้าชิงอย่าง นาสเซอร์ อัล อัตติยาห์ จากโตโยต้า และ มิคโค เฮอร์โวเนน เจ้าของอันดับ 4 เมื่อปีที่แล้วของทีมมินิ

ขณะที่ขาประจำอย่าง คาร์ลอส ไซนซ์, เซบาสเตียน โลบ หรือ ซีริล เดส์เปรส์ แชมป์ในรุ่นจักรยานยนต์ 5 สมัยที่ผันตัวมาลงแข่งในประเภทรถยนต์เป็นปีที่ 3 ต่างก็มีเป้าหมายที่จะโค่น ปีเตอร์อองเซล ลงจากบัลลังก์ให้ได้ด้วยกันทุกราย

นอกจากนี้ รถจักรยานยนต์ ก็เป็นอีกประเภทที่มองข้ามไม่ได้ ด้วยจำนวนผู้เข้าแข่งขันมากที่สุดถึง 149 ราย นำโดย โทบี ไพรซ์ แชมป์เก่า จากทีม เคทีเอ็ม

ในปีที่แล้ว ไพรซ์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งที่เพิ่งลงแข่งเป็นปีที่ 2 จนคว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ แต่การจะป้องกันตำแหน่งไว้ได้ คงไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อบรรดาผู้ท้าชิงที่นำโดย สเตฟาน สวิทโก ชาวสโลวัก คงต้องการแก้ตัวหลังจากปีก่อน ไม่อาจไล่กวด ไพรซ์ ได้ทัน

นอกจากนี้ ในทีม เคทีเอ็ม ด้วยกันเอง ยังมีนักแข่งที่น่าจับตามอง ซึ่งพร้อมก้าวขึ้นมาทาบรัศมี ไพรซ์ อย่าง แม็ทเธียส วอล์คเนอร์ และ แซม ซันเดอร์แลนด์

ด้าน มอนสเตอร์ เอเนอร์จี ฮอนด้า ก็มีนักบิดฝีมือดีอย่าง โฆอัน บาร์เรดา, เปาโล กอนคัลเวส รองแชมป์ปี 2015, ริคกี บราเบค และ มิเชล เมทเช ส่วน ยามาฮา ก็มีตัวแทนอย่าง เอลแดร์ โรดริเกส, อาเดรียน ฟาน เบเวอเรน และ อเลสซานโดร บอตตูรี ขณะที่ ทีมฮัสควาร์นา นำมาโดย ปาโบล กินตานิญา ที่มีผลงานดีขึ้นเรื่อยๆใน 2 ปีหลังสุด (อันดับ 4 ปี 2015 และอันดับ 3 ปีที่แล้ว)

13 วันในการฟันฝ่าอุปสรรคทางธรรมชาตินานาชาติ บนเส้นทางหฤโหดจากปารากวัยไปสิ้นสุดที่อาร์เจนตินา ดาการ์ แรลลี คือหนึ่งในตำนานของวงการมอเตอร์สปอร์ต และจะยังคงเป็นเช่นนั้นต่อไป ตราบใดที่เหล่านักขับจากทั่วโลกยังพร้อมแลกทุกอย่างกับการผจญภัยที่ไม่เหมือนรายการใดในโลก