นกยูงหนีหนาวออกจากป่า รำแพนผิงแดด จับคู่ผสมพันธ์ที่อ.ลี้

นกยูงหนีหนาวออกจากป่า รำแพนผิงแดด จับคู่ผสมพันธ์ที่อ.ลี้

นกยูง อ.ลี้ จ.ลำพูน หนีหนาว ออกจากป่ารำแพนเพื่อผิงแดดอุ่น และจับคู่ผสมพันธุ์ หลังเจอสภาพอากาศที่หนาวเย็น

ภายในศูนย์อนุรักษ์นกยูงไทย ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวสัมผัสความหนาวเย็น และส่องดูนกนานาชนิดได้แล้วตอนนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานจากศูนย์ศึกษาและอนุรักษ์นกยูงไทยในถิ่นกำเนิด บ้านแม่ป๊อกใน ต.ศรีวิชัย อ.ลี้ จ.ลำพูน ว่า ในช่วงนี้ จังหวัดทางภาคเหนือ เริ่มมีอากาศที่หนาวเย็นแล้วจากความหนาวเย็นดังกล่าว เป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่สนใจจะเข้ามาเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ อย่างล้นหลาม โดยเฉพาะที่ จ.ลำพูนแห่งนี้ ผู้ที่ชื่นชอบความเป็นธรรมชาติ ชอบดูนกหนีหนาว และชอบนกยูงไทยที่อาศัยอยู่ตามป่าภายในศูนย์อนุรักษ์ฯ ก็สามารถที่จะเข้ามาชมได้แล้ว เนื่องจากขณะนี้นกยูงเกือบ 70 ตัว ที่มีอยู่ตามป่าเขาเริ่มออกมารำแพนอยู่กลางแดด เพื่อรับไออุ่นทั้งนี้อากาศที่บริเวณศูนย์อนุรักษ์นกยูงไทยมีอากาศหนาวแล้ว

นายภูไท ศรีเสน นักวิจัยโครงการศึกษาพฤติกรรมทั่วไปและการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ของนกยูงไทย ณ อ.ลี้ จ.ลำพูน คณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ช่วงนี้ยกยูงที่มีอยู่ประมาณ 70 ตัว อาศัยอยู่ตามป่าบ้านแม่ป๊อกใน ต.ศรีวิชัย อ.ลี้ จ.ลำพูน แห่งนี้ เริ่มออกจากป่ามาให้นักท่องเที่ยวชมความน่ารักของพวกมันแล้ว ซึ่งทั้งตัวผู้และตัวเมียออกมาเกี้ยวหาคู่สืบพันธุ์กันตามธรรมชาติแล้ว ซึ่งตัวผู้จะรำแพนเพื่อดึงดูดให้ตัวเมียเข้าใกล้เพื่อสืบพันธุ์ตอนที่รำแพนจะสามารถมองเห็นงดงามมาก ขณะเดียวกันยังได้เกาะอยู่บนต้นไม้สามารถมองเห็นได้ 2 ช่วง คือช่วงเช้าตรู่ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เป็นต้นไปจนถึง 10 โมง และในช่วงเย็น ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ไปจนถึงเวลา18.00 น. ของทุกวัน ตั้งแต่ช่วงนี้ยาวไปจนถึงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า

ในส่วนปัจจัยที่มีผลกระทบที่มีต่อนกยูง ซึ่งทางศูนย์การศึกษานกยูงไทยจะต้องดำเนินการ ก็คือปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อนกยูงไทยโดยตรงก็คือ เรื่องของชาวบ้านที่ทำอาชีพทำไร่ทำสวน และใช้สารเคมี จุดนี้ ทำให้จำนวนนกยูงไทยลดลงเนื่องจากไปกินพืชไร่ที่ใช้สารเคมีทำให้นกยูงเกิดอันตราย อีกทั้งในช่วงหน้าแล้งก็จะได้รับผลกระทบในเรื่องของไฟป่า ที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ จากปัญหาไฟป่าจะทำให้นกยูงที่วางไข่ฟักตัวถูกไฟไหม้เสียหาย ตรงจุดนี้ก็เป็นปัญหาที่มีผลกระทบกับนกยูงไทยโดยตรง

ทางด้านนาย วรพงษ์ หงษ์ทอง ผู้จัดการศูนย์อนุรักษ์นกยูงไทยในถิ่นกำเนิด บ้านแม่ป๊อกใน ต.ศรีวิชัย อ.ลี้ จ.ลำพูน กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่หนาวเย็น นกยูงที่ทางศูนย์ได้ร่วมอนุรักษ์ กำลังออกจากป่ามาให้ชมความสวยงาม เนื่องจากอยู่ในช่วงสืบพันธุ์ ตัวผู้จะรำแพนสวยงามมาก อีกทั้งจะสามารถมองเห็นได้ในระยะใกล้ ๆ บางกลุ่มก็เกาะตามกิ่งไม้ บางกลุ่มก็ออกมาหากินตามชายป่าออกมารำแพนหาคู่เหมาะสำหรับนักส่องดูนก ที่ชอบลุ้นความตื่นเต้นที่จะเห็นพวกมัน ซึ่งในศูนย์แห่งนี้ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดจนนักเรียนนัก

ศึกษามาส่องดูพวกมันก็จะเหมาะในช่วงนี้เป็นต้นไป เนื่องจากอากาศหนาว พวกมันจะออกมา ตากแดดอุ่น ก่อนจะกลับเข้าไปหากินในป่าพอตกเย็นก็จะออกมารำแพนเกี้ยวพาราสีหาคู่กัน บางครั้งตัวผู้ก็ต่อสู้แย่งนกยูงตัวเมียกันด้วย

นอกจากนี้ นักดูนกยังสามารถที่จะส่องดูนกที่หนีหนาวมาจากต่างประเทศอาศัยอยู่ในป่าและพื้นที่ศูนย์อนุรักษ์ฯ แห่งนี้ด้วยมีนกนานาชนิด ตอนนี้เริ่มมาอาศัยแหล่งน้ำแห่งนี้มากขึ้น เพราะเราจะมีระบบนิเวศน์ที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด ที่สำคัญจะไม่มีการใช้สาร เคมีที่อันตรายต่อสัตว์ทั้งหลายแน่นอน ดังนั้นที่แห่งนี้จึงมี ทั้ง กบ เขียด อึ่งอ่าง แมลงต่าง ๆ รวมทั้งแย้ ก็มี ขณะที่นักเรียนนักศึกษาประชาชนทั่วไป ที่สนใจจะมาจัดกิจกรรมก็ยินดีต้อนรับ เรามีลานกางเตนท์สัมผัสหนาว มีห้องน้ำ มีสถานที่กราบไหว้ครูบาศรีวิชัย ผู้ที่มีตำนานเล่าว่าเป็นผู้ที่อนุรักษ์นกยูงไทยด้วย