'ไอดอล-แรงบันดาลใจ' ตัวแปรธุรกิจโรงเรียนกีฬา

'ไอดอล-แรงบันดาลใจ' ตัวแปรธุรกิจโรงเรียนกีฬา

ภราดร ศรีชาพันธุ์ อดีตนักเทนนิสหมายเลข 9 ของโลก

 เยาวภา บุรพลชัย จอมเตะหญิงเหรียญโอลิมปิกคนแรกของไทย หรือ รัฐพงษ์ ศิริสานนท์ ฉลามหนุ่มเจ้าของเหรียญทองเอเชียนเกมส์ประวัติศาสตร์ 

ชื่อเหล่านี้คือนักกีฬาไอดอลของเมืองไทย ที่สร้างแรงบันดาลใจมากมายให้กับนักกีฬารุ่นหลัง และจุดกระแสให้พ่อแม่พาบุตรหลานไปเรียน และฝึกฝนกีฬาตามตามแบบอย่าง เพื่อหวังจะก้าวไปถึงจุดเดียวกันในอนาคต 

ภราดร ฟีเวอร์ 

สมัยนั้น ใครๆก็มาหาผมหมดเลย ทุกคนอยากเป็นภราดรกันหมด” วิรัช แบรอฮีม เจ้าของสถาบันสอนเทนนิส “เทนนิส บาย โปร” ที่เปิดสอนอยู่ภายใน ม.รามคำแหง หัวหมาก เล่าย้อนถึงช่วงเวลากว่าสิบปีที่แล้ว 

ภราดร ศรีชาพันธุ์ สร้างผลงานสะท้านโลก ไต่ขึ้นถึงอันดับท็อปเทน เป็นนักเทนนิสชายชาวเอเชียที่มีอันดับโลกสูงที่สุดในขณะนั้น และคว่ำนักหวดชื่อดังในยุคนั้นคนแล้วคนเล่า ตั้งแต่ อังเดร อากัสซี, เลย์ตัน ฮิววิตต์, แอนดี ร็อดดิค หรือแม้แต่ ราฟาเอล นาดาล และทะลุเข้าถึงรอบ 16 คนสุดท้ายแกรนด์สแลม ถึง 3 รายการ จนความฮอตฮิตของ”ซูเปอร์บอล”กระหึ่มไปทั่วโลก แน่นอนว่าในไทย ความฟีเวอร์ของกีฬาเทนนิสในช่วงเวลานั้น ทำให้เหล่านักหวดรุ่นจิ๋วเข้ามาสมัครเรียนกันมหาศาล

ช่วงนั้น ต่อหนึ่งคอร์ตจะมีเด็กประมาณ 10 คน ผมสอนอยู่อีกที่นึงมีอยู่ 5 คอร์ต คอร์สนึง 2 ชั่วโมง ก็จะมีเด็ก50คน ทุกคนอยากจะเป็นภราดรหมด ดูจากเงินรางวัลที่เขาได้รับ ขนาดเด็กอายุ 17-18 หรือผู้ใหญ่ ก็ยังอยากจะเป็นภราดร แต่เวลาได้มาเล่นแล้ว เขาเพิ่งได้รู้ว่าเทนนิสไม่ใช่เรื่องง่าย มันยาก โดยเฉพาะปีที่พีคที่สุด อย่างชิงแชมป์ประเทศไทยที่ชมรมผู้ปกครองเทนนิสแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัด มีเยาวชนสมัครเข้าแข่งขันถึง 1,700 คน โค้ชวิรัช เล่าพร้อมรอยยิ้ม 

ในช่วงเวลาเดียวกัน อีกหนึ่งชนิดกีฬาก็สร้างบทบันทึกหน้าใหม่ใน โอลิมปิกเกมส์ “เอเธนส์ 2004” ก็ทำให้เยาวชนไทยมีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้นในการเลือกเรียน

เหรียญโอลิมปิก 4 สมัย

จาก เยาวภา บุรพลชัย จอมเตะสาวที่คว้าเหรียญทองแดงแรกให้เทควันโดไทย ใน โอลิมปิก เกมส์ ปี 2004 ที่กรีซ จนถึงผลงาน 1 เหรียญเงินและ 1 เหรียญทองแดง ของ เทวินทร์ หาญปราบ และ พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ในรีโอเกมส์2016 ที่บราซิล นับเป็นผลงานสุดยอดของจอมเตะไทยที่คว้าเหรียญโอลิมปิกกลับแผ่นดินเกิดได้ถึง4สมัยติดต่อกัน

ตอกย้ำกระแส เทควันโด ฟีเวอร์ ให้ยิ่งติดลมบน แต่ละปี มีเยาวชนไทยแห่เรียนกีฬาต่อสู้สายพันธุ์เกาหลีกันมหาศาล ทำให้มีโรงเรียนสอนกีฬาเทควันโด ผุดขึ้นรองรับความต้องการจอมเตะหน้าใหม่นับไม่ถ้วนทั่วประเทศ 

หนึ่งในนั้น คือสโมสรเทควันโด เดอะ แชมเปียนส์ ของ พิเชฐ พิบูลย์คณารักษ์ อดีตนักกีฬาและผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย ที่เวลานี้ความนิยมของเยาวชนทำให้ขยายไปแล้วถึง 4 สาขา ทั้งที่ กทม. และ เชียงใหม่ ซึ่ง “โค้ชเชฐ” เอง ก็ยอมรับว่าเหรียญโอลิมปิก เป็นปัจจัยส่งผลต่อจำนวนนักเรียนที่เพิ่มมากขึ้น

ก็แน่นอนครับ ได้เหรียญมาก็ส่งผลดีแน่นอนอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ถึงกับจะบูมมาก ผมคิดว่าส่วนหนึ่งเพราะเทควันโดยังไม่ใช่กีฬาหลักของเมืองไทย หรือกีฬาหลักๆของสากล อย่างฟุตบอลหรือว่ายน้ำ มันเป็นกีฬาที่แยกย่อยออกมาเป็นกีฬาศิลปะป้องกันตัว ทำให้เป็นตัวเลือกที่รองลงไป แต่เดี๋ยวนี้ก็มีเด็ก มีกระแสเรียนมากขึ้น โดยเฉพาะตอนได้เหรียญโอลิมปิก แม้จะยังไม่ได้เหรียญทองก็ตาม ผมเชื่อว่า ถ้าได้เหรียญทองก็น่าจะบูมกว่านี้

ขาดไอดอล เหมือนขาดใจ

สวนทางกับ เทควันโด ที่ผลิตจอมเตะเข้าสู่ทำเนียบทีมชาติรุ่นต่อรุ่น จนหยิบเหรียญโอลิมปิกได้ 4 สมัยซ้อน แต่ เทนนิส หลังยุครุ่งโรจน์ของ ภราดร ศรีชาพันธุ์, แทมมารีน ธนสุกาญจน์ รวมถึง ดนัย อุดมโชค กลับซบเซา ขาดนักหวดรุ่นใหม่ที่ต่อยอดผลงานเทียบเท่ารุ่นพี่ที่เคยสร้างชื่อในอดีตได้ ส่งผลต่อจำนวนเยาวชนที่สนใจในกีฬาชนิดนี้ลดลงอย่างน่าใจหาย 

ปีล่าสุด มีนักหวดเยาวชนสมัครเข้าแข่งขันรายการชิงแชมป์ประเทศไทยเพียงแค่ 550 คนเท่านั้น เทียบกับช่วงพีคแล้ว น้อยกว่าเกิน 3 เท่าตัว “โค้ชวิรัช” ก็ยอมรับตามตรงว่าการขาดนักกีฬาที่เป็นไอดอล คือปัจจัยหลักที่เด็กให้ความสนใจลดลง

 "ทุกอย่างมันมีไอดอลของมัน ตอนนี้เราไม่มีนักกีฬาที่มีชื่อเสียงทั่วโลก ทุกวันนี้ ปรัชญา หรือนักเทนนิสคนอื่นๆ อันดับโลกอยู่ที่ 900 แต่สมัยก่อนแรงกิงของ ภราดร อยู่อันดับ9 มันแตกต่างกันมาก ทำให้พ่อแม่เด็กที่ส่งไปเรียน ก็รู้สึกว่ามันมีแต่ค่าใช้จ่าย เพราะเทนนิสมีค่าใช้จ่ายสูงมาก” อดีตนักเทนนิสทีมชาติไทยยังกล่าวเสริมว่า สุดท้ายแล้ว การจะทำให้กีฬาเทนนิสกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง สมาคมกีฬาเทนนิส จำเป็นต้องลงเข้ามาช่วยเหลือ

ต้องพึ่งสมาคมว่าจะมีวิธียังไงที่จะพัฒนานักกีฬาให้เป็นเลิศให้มากขึ้น เพื่อเด็กๆข้างล่างจะมีไอดอล เท่าที่ได้คุยกับนายกสมาคม ก็มีแพลนจะทำอะคาเดมีทั่วประเทศรวม 5 ที่ เพื่อรองรับเด็กๆที่จะมาเรียนอะคาเดมี เพื่อส่งเสริมเด็กๆให้ได้เรียนรู้อย่างถูกวิธี” 

ไม่หยุดพัฒนา+เรียนรู้ 

ขณะที่ “โค้ชเชฐ” ก็มองว่า แม้เทควันโดยังได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน แต่คุณภาพของผู้สอน ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจโรงเรียนกีฬาอยู่รอดได้ นั่นหมายถึง จำเป็นต้องพัฒนาหาความรู้ตลอดเวลา 

ทุกวันนี้ มีโรงเรียนสอนเทควันโดเยอะมากในประเทศ ภาพรวมก็อยู่ที่ว่า ในแต่ละที่มีการแข่งขันสูงมากน้อยแค่ไหน อย่างกรุงเทพแข่งขันสูง ก็ต้องพยายามพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ไม่งั้นอาจจะสู้คนอื่นไม่ได้ เรื่องของตัวผู้สอน เราก็ต้องพัฒนาความรู้ให้ทันระดับนานาชาติ หมั่นอัปเดตข้อมูล รูปแบบการซ้อมต่างๆ ถ้าเป็นเรื่องออกกำลังกาย ก็ต้องพยายามหาอะไรที่มันสนุกๆมาให้เด็กเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

ผมเชื่อว่าถ้าผู้ฝึกสอนทุกคน มีความรู้ความสามารถจริงๆ ยังไงธุรกิจก็อยู่ได้ ถ้าจะล้มหาย ผมคิดว่าเพราะความรู้ไม่เพียงพอ ความสามารถไม่เพียงพอ ก็ต้องพัฒนาให้มากขึ้น

......................................

@ยศภาคย์ เรืองไพศาล