ร้านตัดผมอ่างทอง ทำความดีเพื่อพ่อหลวง ตัดผม-ย้อมผมฟรี

ร้านตัดผมอ่างทอง ทำความดีเพื่อพ่อหลวง ตัดผม-ย้อมผมฟรี

ช่างตัดผมอ่างทอง ทำความดีเพื่อพ่อหลวง ตัดผม-ย้อมผม พร้อมแจกอาหารฟรีให้ประชาชน

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบยังร้านตัดผม“ออดบาร์เบอร์”ของนายประภาสยามสุข หรือ“ลุงออด”อายุ 56 ปี ตั้งอยู่เลขที่ 75/2 หมู่ 3 ต.บางระกำ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง หลังทราบว่าที่ร้านดังกล่าว ลุงออดได้เปิดตัดผม-ย้อมผมฟรีให้กับประชาชนในหมู่บ้าน พร้อมทั้งแจกอาหารได้แก่ผัดไท ขนมจีนน้ำยา และเครื่องดื่มฟรีให้กับประชาชนที่มาตัดผมและประชาชนในละแวกหมู่บ้านได้ทานฟรี โดยเมื่อเดินทางไปถึงพบว่าร้านของลุงออดนั้น เป็นร้านตัดผมเล็ก ๆ ภายในหมู่บ้าน ภายในร้านมีพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชติด พร้อมทั้งคำสอนพ่อติดไว้รอบรอบเป็นจำนวนมาก โดยภายในร้านมีเก้าอี้นั่งตัดผมอยู่ 2 ตัว โดยมีลุงออด และหลานชายอีกคนกำลังช่วยกันตัดผมให้กับประชาชนที่มาใช้บริการอย่างขะมักเขม้น ส่วนบริเวณข้าง ๆ ร้านนั้นได้มีการเปิดรับย้อมผมฟรีให้กับประชาชนเช่นกัน โดยมีหลานสาวของลุงออดเป็นคนย้อมให้ ซึ่งผู้ขอรับบริการย้อมผมนั้นส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง ซึ่งนอกจากจะย้อมผมแล้ว หลานสาวลุงออดยังช่วยกันคิ้วให้ด้วย

นอกจากนั้น ประชาชนที่มารับบริการตัดผม ย้อมผม ทางร้านลุงออดยังได้มีอาหารไว้แจกฟรีให้รับประทานด้วย โดยอาหารที่แจกฟรี ได้แก่ ผัดไท ขนมจีนน้ำยา เครื่องดื่ม เช่น โอเลี้ยง กาแฟเย็น ซึ่งนอกจากจะหล่อสวยกันไปแล้ว ยังอิ่มท้องกันไปด้วย

จากการสอบถามนายประภาส หรือลุงออด กล่าวว่า ตนนั้นยึดอาชีพตัดผมมานานเกือบ 30 ปีแล้ว หลังจากที่ตนทราบข่าวพระบาทสมเด็จพระปรมินทร์มหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต ตนและคนในครอบครัวต่างเศร้าโศกเสียใจมาก จนมาวันนี้ครบ 1 เดือนที่พระองค์ท่านทรงเสด็จสวรรคต ตนพร้อมกับญาติพี่น้อง จึงร่วมกันทำความดีโดยการตัดผม-ย้อมผมฟรีให้กับประชาชนในหมู่บ้าน พร้อมทั้งทำอาหารแจกจ่ายให้รับประทานฟรีด้วย ซึ่งทั้งหมดที่ทำไม่ต้องการจะเด่นดังอะไรเลย ที่ทำก็เพื่อทำดีถวายพ่อหลวง รวมทั้งถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ โดยจนจะตัดวันนี้ทั้งวัน จนหมดคน หรือมืด ส่วนอาหารก็ทำแจกไปจนกว่าอาหารจะหมด

นายประภาส กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ตนโตขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้ตนก็ยึดแนวทางของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ในการดำเนินตามเศรษฐกิจพอเพียงมาโดยตลอด ทำมาหาเลี้ยงชีพโดยซื่อสัตย์สุจริต ตนมีอาชีพตัดผมก็ไม่ได้ไปเบียดเบียนใครเลย ตอนแรกที่ตัดก็คิดค่าบริการที่เป็นเอง ผู้ใหญ่ 10 บาท เด็ก 5 บาท ส่วนตอนนี้คิดค่าบริการผู้ใหญ่ 20 เด็ก 10 บาท ตัดมาแบบนี้แต่ไหนแต่ไร มีคนมาตัดเป็นจำนวนมาก ช่วยเหลือกันไปเราอยู่ได้ ประชาชนในหมู่บ้านไม่เดือดร้อน ทำแบบนี้ก็มีความสุข เงินที่ได้หาเลี้ยงครอบครัวจนลูกจบปริญญาตรีไปหมดแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่ร้านเป็นไปอย่างอบอุ่นแบบชาวบ้าน มีพี่น้องประชาชนทยอยกันมาตัดผม ย้อมผม มาทานอาหารภายในร้าน บางคนมายังไม่ถึงคิวตัดผมก็นั่งทานอาหารไปคุยกันไปบรรยากาศภายในร้านมีทั้งรอยยิ้มของผู้ให้และรอยยิ้มของผู้รับ