ฝนตกหนักถล่ม'นายูง-น้ำโสม' วุ่นน้ำป่าแรงสังเวยดับ1สูญหายอีก1

ฝนตกหนักถล่ม'นายูง-น้ำโสม' วุ่นน้ำป่าแรงสังเวยดับ1สูญหายอีก1

ชาวอุดรฯเจอฝนตกหนัก เผยถล่ม2อำเภอ "นายูง-น้ำโสม" ทำให้น้ำป่าแรง สังเวยมีคนตายแล้ว1 และสูญหายอีก1ราย

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน จากอิทธิพลความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้คืนที่ผ่านมามีฝนตกลงมาอย่างหนัก วัดปริมาณน้ำฝนได้ที่ อ.นายูง 218 มม. อ.น้ำโสม 214 มม. ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก จากพื้นที่ป่าสงวนบนภูเขาสูง เขตติดต่อ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู และ อ.สังคม จ.หนองคาย ลงสู่ลำน้ำห้วยโสม และลำห้วยสาขา เกิดภาวะน้ำล้นตลิ่ง

นายสามารถ หมั่นนอก นายอำเภอน้ำโสม เปิดเผยว่า ฝนตกลงมาตั้งแต่บ่ายวานนี้ ทำให้น้ำในลำห้วยโสม ไหลแรง และสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนล้นตลิ่ง เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรพื้นที่ บ.น้ำปด ต.น้ำโสม,บ.ศรีวิราช ต.โสมเยี่ยม บ.นาเก็น ต.หนองแวง โดยบ้านเรือนที่อยู่ริมลำห้วยพังเสียหาย คอสะพานบ้านศรีวิราชขาด ช่วงแรกระดับน้ำลดลงเล็กน้อย แต่ฝนยังตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นมาอีก ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และองค์กรปกครองท้องถิ่น ได้เข้าช่วยเหลือราษฎรแล้ว และขอความช่วยเหลือจากจังหวัดเพิ่มเติม ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ สูญหาย หรือเสียชีวิต

นายไชยา ภูมิเขต นายก อบต.โนนทอง อ.นายูง เปิดเผยว่า ฝนตกลงมาตั้งแต่เย็นวานนี้อย่างหนัก และตกลงมาอย่างต่อเนื่องทำให้ อบต.โนนทอง ออกประกาศเตือนน้ำป่า ตามที่ได้มีการซักซ้อมเตือนภัยไว้แล้ว จนกระทั่งตี 2 ไฟฟ้าเกิดดับเป็นบริเวณกว้าง และเกิดน้ำป่าไหลหลาก จากลำห้วยโป่ง และห้วยสาขาลำห้สวยโสม ลงมาสู่ลำห้วยโสม ราษฎรอาศัยตามริมห้วยต้องอพยพ รับรายงานว่าราษฎร 6 หมู่บ้าน คือ ม.2-3-1-5-6 และ 9 ได้รับความเดือดร้อนมาก

“ช่วงเกิดน้ำป่าไหลล้นห้วยโป่ง ผ่านบ้านท่าโปงทอง ม.5 ต.โนนทอง ได้พัดเอานายไพรวัลย์ ขันทอง และ ด.ช.ณัฐพล หรือน้องคิม ขันทอง อายุ 11 ขวบ ที่นอนหลับอยู่ในบ้านไปกับกระแสน้ำ ชาวบ้านไปติดตามพบนายไพรวัลย์ฯ เกาะติดอยู่กับต้นยางใหญ่จึงช่วยขึ้นมาได้ ขณะนี้กำลังติดตามหาน้องคิมอยู่ โดยพ่อเด็กบอกว่าน้ำมาเร็วมากคว้ามือลูกไม่ทัน ซึ่งได้ขอความช่วยเหลือไปยังอำเภอ และจังหวัดแล้ว บางส่วนเข้ามาในพื้นที่ช่วยชาวบ้านแล้ว”

นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า รับรายงานจากพื้นที่แล้ว ได้สั่งการให้นายสุชัย บุตรสาระ รองผู้ว่าฯ เดินทางลงพื้นที่ด้วยตนเอง เพื่ออำนวยการให้ความช่วยเหลือ พร้อมให้ฝ่ายปกครอง ร่วมกับทหาร ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย และองค์กรปกครองท้องถิ่น เข้าไปให้ความช่วยเหลือแล้ว โดยเฉพาะการส่งทีมเข้าไปตามหาเด็กที่สูญหาย ซึ่งอุดรธานีกำลังรวบรวมข้อมูล ประมวลสถานการณ์ให้เสร็จก่อนเที่ยงวันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ลำห้วยโสม และลำน้ำสาขา เคยเกิดเหตุน้ำป่าหลายครั้ง แต่ครั้งนี้มีความรุนแรงมากที่สุด โดยลำห้วยโสมจะไหลลงแม่น้ำโขงที่อ.สังคม จ.หนองคาย ซึ่งขณะนี้หน่วยปฏิบัติการลำน้ำโขง กองทัพเรือ ที่ประจำอยู่ อ.สังคม ได้เข้ามาช่วยเหลือราษฎร ในเขตติดต่อกับอุดรธานี แต่ต้องพบกับสภาพเส้นทางคมนาคมขาด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน แม้กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฉบับที่ 16 ลงวันที่วันนี้ว่า ฝนในภาคตะวันวันออกเฉียงเหนือตอนบนจะลดลง แต่สภาพในพื้นที่ อ.นายูง และ อ.น้ำโสม ยังคงมีฝนตกลงมาเป็นระยะแต่ไม่รุนแรง ขณะที่ระดับน้ำในลำห้วยโสม บริเวณต้นน้ำในเขต อ.น้ำโสม น้ำได้เริ่มลดลงช้าๆ ซึ่งมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นหญิงอายุ 44 ปี ไปยกยอถูกกระแสน้ำพัดจมน้ำ แต่ในพื้นที่ ต.โนนทอง อ.นายูง ระดับน้ำได้สูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะที่บ้านปากราง ต.นายูง และบ้านวังเลา ต.โนนทอง

นายชคเวก์ ทองดี หน.ชุดเผชิญเหตุ ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยอุดรธานี พร้อมกำลังจากอาสาสมัครมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม มูลนิธิส่งเสริมธรรม รวม 45 คน ลงให้ความช่วยเหลือราษฎร บ.ปากราง ที่มีน้ำท่วมบริเวณสามแยกไปที่ว่าการ อ.นายูง กับไป ต.โนนทอง ที่น้ำไม่เคยท่วมสูงถึงบริเวณนี้มาก่อน และไปที่บ้านวังเลา บ.วังเลา ก็มีระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหมู่บ้านทั้งสองเป็นหมู่บ้านเป้าหมาย มีแผนอพยพขึ้นที่สูงอยู่แล้ว แต่มีประกาศเพียงให้ยกของขึ้นที่สูงเท่านั้น

นายไชยา ภูมิเขต นายก ทต.โนนทอง อ.นายูง เปิดเผยว่า หลายหมู่บ้านของ ต.โนนทอง ถูกตัดขาดจากภายนอก จนถึงช่วงบ่ายกระแสไฟฟ้ายังมีปัญหา มาบ้างไม่มาบ้างการสื่อสารลำบาก ถนนที่เข้าหาเราสามทางคอสะพานขาดหมด สะพานแรกของกรมทางหลวง เชียงดี-สังคม สะพานที่สองของทางหลวงชนบท นาเมืองไทย-สมประสงค์ และสะพานที่สามของ อบจ.อุดรธานี กุดเซื่อม-นายูง ก่อนถูกตัดขาดรถกู้ภัยของ ปภ.ผ่านมาได้คอสะพานก็พัง นอกจากนี้ระดับน้ำในลำห้วยโสม ที่นำน้ำมาจากเขต อ.น้ำโสม เริ่มสูงขึ้น ทำให้น้ำเริ่มท่วมสะพานทางเข้าบ้านวังเลา ซึ่งทาง ปภ.นำเชือกมาขึง เพื่อให้ชาวบ้านได้เกาะเชือกลุยกระแสน้ำออกมา และได้ขอเรือท้องแบนมาช่วยชาวบ้าน ซึ่งที่ผ่านมาที่บ้านวังเลา ถูกน้ำท่วมครั้งสุดท้ายในปี 54 จนถึงวันนี้ได้ท่วมอีกครั้ง โดยมีชาวบ้านประมาณ 200 ครัวเรือน

นายเอนก สุวรรณภูเต ผอ.แขวงการทางอุดรธานีที่ 1 เปิดเผยว่า มีคอสะพานที่อยู่ในพื้นที่อุทกภัย ได้รับความเสียหายจากน้ำป่า บนทางหลวง 2376 ซึ่งเป็นเส้นทางไม่มีมีทางเบี่ยงไป อ.นายูง แห่งแรกที่สะพานบ้านห้วยทราย ต.นายูง รถยนต์ไม่สามารถผ่านได้ แจ้งศูนย์สร้างสะพานมาติดตั้งสะพานแบลี่ แห่งที่สองสะพานบ้านเชียงดี ต.นายูง ผ่านได้เพียงรถจักรยานยนต์ กำลังส่งเครื่องจักรเข้าซ่อม บนทางหลวง 2348 แห่งที่สามสะพานบ้านวังแข้ ต.นาแค แจ้งศูนย์สร้างสะพานมาติดตั้งสะพานแบลี่ และแห่งที่สี่สะพานบ้านน้ำซึม ต.หนองแวง อยู่ระหว่างการเฝ้าระวัง

นายสุชัย บุตรสาระ รอง ผวจ.อุดรธานี นายสมัคร บุญปก รองนายก อบจ.อุดรธานี เดินทางตรวจสภาพน้ำท่วมที่ ทต.น้ำโสม อ.น้ำโสม และเดินทางมายังบ้านปางราง ต.นายูง รับฟังรายงานเบื้องต้นจากผู้รับผิดชอบ ก่อนเข้าประชุมที่ ทต.นายูง เนื่องจากระดับน้ำยังสูงขึ้นอยู่โดยกำหนดให้ ทต.นายูง เป็นศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะที่คณะเหล่ากาชาดอุดรธานี เดินทางเข้าพื้นที่มอบถุงยังชีพ ปลอบขวัญผู้ประสบภัย และนำเงินช่วยครอบครัวผู้เสียชีวิต 1 ราย เบื้องต้นจำนวน 5,000 บาท

นายสุชัย บุตรสาระ รอง ผวจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ทุกฝ่ายได้เข้ามาช่วยเหลือประชาชน ทั้งพลเรือน ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองท้องถิ่น ตลอดจนอาสาสมัคร ทั้งการช่วยเหลือเบื้องต้น ซ่อมแซมแก้ไขสิ่งสาธารณูปโภค ให้กลับมาใช้งานได้เร็วที่สุด โดยเฉพาะการติดตั้งสะพานชั่วคราว บริเวณคอสะพานขาดหลายแห่ง สำหรับพื้นที่ อ.น้ำโสม ตั้งศูนย์ช่วยเหลืออยู่ที่ว่าการอำเภอ ส่วน อ.นายูง ตั้งอยู่ที่ ทต.นายูง เพราะเส้นทางเข้าที่ว่าการถูกตัดขาด เพื่ออำนวยการช่วยเหลือ รวมทั้งการสำรวจความเสียหาย ที่ชาวบ้านจะได้รับการเยี่ยวยาต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าก่อนหน้านี้ในช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ตำรวจ และชาวบ้าน ได้ร่วมกันช่วยเหลือนายวิชิต เยาวนิต อายุ 70 ปี ราษฎรบ้านชุมพล ม.7 ต.นายูง ถูกน้ำป่าพัดไปติดอยู่กับต้นลำไย โดยใช้เชือกผูกชาวบ้านและห่วงยางในรถยนต์ ไปช่วยนำนายวิชิตฯกลับขึ้นมาได้ ท่ามกลางกระแสน้ำไหลเชี่ยว โดยนายวิชิตฯมานอนเฝ้าร้านปลาเผา บริเวณสามแยกทางขึ้นวัดป่าภูก้อน ช่วงตี 2 ขณะนอนหลับ น้ำป่าพัดถล่มร้านตกลงน้ำ โชคดีไหลไปติดต้นอยู่ลำไย เกาะไว้จนสว่างคนผ่านมา จึงตะโกนขอความช่วยเหลือ

นอกจากนี้ที่บ้านห้วยทราย ต.นายูง อ.นายูง มีชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ได้ดำน้ำเพื่อทำการเก็บเกี่ยวข้าวที่จมน้ำ หลังจากที่ตั้งใจจะเกี่ยวข้าวในวันนี้ แต่นาข้าวทั้งแปลงถูกน้ำป่าท่วมมิดต้นข้าว ทำให้ชาวบ้านตัดสินใจดำน้ำลงไปเกี่ยวข้าวขึ้นมา และได้นำข้าวไปสีทันที ซึ่งชาวบ้านยอมรับว่า ข้าวที่เปียกน้ำน่าจะยังเก็บไว้เพื่อใช้กินได้ ดีกว่าที่ข้าวจะจมน้ำเสียหายไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ และคงไม่นำไปขาย เพราะคงไม่ได้ราคา