ตามรอยพ่อหลวง เสด็จน้ำตกปาโจ

น้ำตกปาโจ ในพื้นที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เป็นประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่ง ที่ชาวบาเจาะภูมิใจจนถึงทุกวันนี้ ที่ครั้งหนึ่งในอดีตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จและฉายพระรูปหรือพระบรมฉายาลักษณ์ ที่ค่อยข้างหายากในอดีตไว้ และยังคงหลงเหลือให้ประชาชนได้ชมพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในขณะเสด็จมาเสวยพระกระยาหารกลางวัน ณ พลับพลาที่ประทับน้ำตกปาโจ เมื่อวันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2502 หรือ เมื่อประมาณ 57 ปี ที่ผ่านมา ขณะเสด็จมาแปรพระราชฐานที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์เป็นครั้งแรก และทั้ง 2 พระองค์ ทรงจารึกลายพระหัสต์พระปรมาภิไธยย่อ ภปร. และพระนามาภิไธยสิริกิติ์ สีทองประทับไว้บนก้อนหินใหญ่หน้าผาของน้ำตกปาโจ ซึ่งพบเห็นได้เด่นชัด 

ซึ่งน้ำตกปาโจในปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันลือชื่อแห่งหนึ่งของ จ.นราธิวาส มีน้ำตลอดปีมีทางขึ้นไปสู่ต้นน้ำ รวม 9 ชั้น นับว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนราธิวาส โดยทั้ง 9 ชั้น มีความสวยงามแตกต่างกันไป ในแต่ละชั้นจะมีกระแสน้ำไหลลัดเลาะมาตามก้อนหินเล็กใหญ่ และมีแอ่งน้ำขังขนาดใหญ่ให้ประชาชนได้เลือกเล่นน้ำตามใจชอบ แถมน้ำที่ขังนั้นนอกจากจะมีความเยือกเย็นแล้วยังใสจนเห็นตัวปลาว่ายไปมา ซึ่งชั้นที่ 1 ของน้ำตกปาโจ จะได้รับความนิยมมีประชาชนมาเล่นน้ำในจุดนี้มากที่สุด เนื่องจากจะเห็นน้ำตกไหลลงจากผาหินสูงกว่า 60 เมตร และได้รับความนิยมของประชาชน จะถ่ายรูปตัวเองติดกับทิวทัศน์ในจุดนี้ ซึ่งมีการจารึกลายพระหัสต์พระปรมาภิไธยย่อ ภปร. และพระนามาภิไธยสิริกิติ์ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เก็บไว้เป็นที่ระลึก ว่าครั้งหนึ่งเคยมาเที่ยวน้ำตกปาโจ 

จุดสนใจอีกอย่างหนึ่งของน้ำตกแห่งนี้คือ มีใบไม้สีทอง หรือ ย่านดาโอ๊ะ พันธุ์ไม้เลื้อยชนิดนี้ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกในโลกที่นี่ เมื่อปี พ.ศ. 2531 ใบไม้สีทองเป็นไม้เลื้อย มีลักษณะใบคล้ายใบชงโคหรือใบเสี้ยว แต่มีขนาดใหญ่กว่า บางใบใหญ่กว่าฝ่ามือ มีขอบหยักเว้าเข้าทั้งที่โคนใบและปลายใบ ลักษณะคล้ายวงรีสองอันอยู่ติดกัน ทุกส่วนของใบเมื่อแก่เต็มที่จะมีลักษณะเหมือนขนกำมะหยี่เนียนนุ่ม มีสีทองหรือสีทองแดงเหลือบรุ้งเป็นประกายงดงามยามต้องแสงอาทิตย์ 

นอกจากนี้บริเวณป่าโดยรอบก็ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์หายากนานาชนิด เช่น ชะนีมือดำ นกเงือกพันธุ์หายากที่ใกล้จะสูญพันธุ์ ได้แก่ นกเงือกหัวแรด และนกเงือกชนหิน ซึ่งในช่วงสายๆถ้าใครโชคดีมาเที่ยวน้ำตกปาโจ อาจจะพบเห็นนกเงือกบินโฉบเฉี่ยวไปมา เพื่อหาอาหารในบริเวณป่ารกทึบที่สมบูรณ์แห่งนี้ 

ด้านนายสนธยา กาญจนะ พนักงานราชการอุทยานแห่งชาติบูโด สุไหงปาดี บอกว่า เมื่อคราวที่ท่านเสด็จมาแปรพระราชฐานที่ตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ท่านก็ได้มาเสวยพระกระยาหารกลางวันที่น้ำตกปาโจ และท่านก็ได้ทรงจารึกอักษรย่อ ภปร.ไว้ที่โขดหินก้อนนี้