'ไทสัน ฟิวรี' แชมป์โลกตกสวรรค์

ไม่ว่ายุคสมัยใด ตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นเฮฟวีเวท เปรียบเสมือน “ห่านทองคำ”
สำหรับสถาบันมวยระดับโลก ด้วยความเป็นที่สุดของกีฬาหมัดมวย ทั้งพละกำลัง และสีสันจากคาแรกเตอร์ของเหล่านักชกรุ่นยักษ์ ที่ดึงดูดสัญญาจากสปอนเซอร์ และเม็ดเงินมหาศาลจากการถ่ายทอดสดได้เสมอ
แม้ในระยะหลัง สีสันของ เฮฟวีเวท จะจืดจางไปบ้าง เพราะนอกจากสองพี่น้อง วิตาลี และ วลาดิเมียร์ คลิทช์โก ที่แทบยึดเข็มขัดแชมป์โลกเป็นสมบัติของตระกูลแล้ว ก็แทบไม่มีคาแรกเตอร์ใดๆชวนให้จดจำอีก
กระทั่งการมาถึงของ ไทสัน ฟิวรี เจ้าของส่วนสูง 6 ฟุต 9 นิ้ว (206 ซม.) จากแมนเชสเตอร์
ด้วยบุคลิกดิบๆห่ามๆ ตามแบบฉบับยิปซี รวมกับสายเลือดนักมวยเต็มตัว - ชื่อ “ไทสัน” ซึ่งมีที่มาจาก “มฤตยูดำ” ไมค์ ไทสัน สุดยอดมวยโลกรุ่นเฮฟวีเวท จากทศวรรษที่ 80 - และที่ขาดไม่ได้คือฝีปาก ที่มักพูดจาท้าทายคู่แข่งในลักษณะ Trash Talk เสมอทุกครั้งที่มีโอกาส
ทั้งหมดนี้ หลอมรวมให้ “ยิปซี คิง” เป็นคาแรกเตอร์ในอุดมคติของเหล่าโปรโมเตอร์ และสถาบันมวยทั้งหลายอย่างไม่ต้องสงสัย
สู่จุดสูงสุด
หลังพลาดการเป็นตัวแทนรุ่นซูเปอร์เฮฟวีเวทของสหราชอาณาจักร ในโอลิมปิก 2008 ฟิวรี ก็หันเหเข้าสู่วงการมวยอาชีพอย่างเต็มตัว และไต่ระดับพร้อมสั่งสมชื่อเสียงอย่างต่อเนื่อง
โอกาสสำคัญที่สุดในชีวิตของ ฟิวรี คือการถูกเลือกให้ขึ้นชกชิงเข็มขัด 5 สถาบัน (ดับเบิลยูบีเอ / ไอบีเอฟ / ดับเบิลยูบีโอ / เดอะริง) กับ วลาดิเมียร์ คลิทช์โก ยอดมวยจากยูเครน ที่ครองตำแหน่งมานานเกือบทศวรรษ หลังพยายามท้าทายอีกฝ่ายเป็นแรมปี
“มวยรุ่นเฮฟวีเวทไม่มีอะไรน่าสนใจมาเป็นสิบปีแล้ว ผมจะทำให้มันกลับมามีสีสันอีกครั้ง” คือคำประกาศของ ฟิวรี ก่อนขึ้นเวทีที่ เอสปรีต์ อารีนา ในเยอรมนี เมื่อ 28 พ.ย. ปีที่แล้ว
ไฟต์หยุดโลกครั้งนั้น จบลงด้วยการชนะคะแนนอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ของ ฟิวรี หยุดสถิติไม่แพ้ใครของ คลิทช์โก ที่ยืนยาวมานานกว่า 11 ปีลงได้สำเร็จ
รีแมตช์ที่ไม่เกิดขึ้น
เมื่อบทสรุปไม่ชัดเจน ย่อมต้องมีการล้างตากัน โดยมีข้อสรุปที่ แมนเชสเตอร์ อารีนา ในวันที่ 9 ก.ค. แต่ก่อนถึงวันชกเพียงสองสัปดาห์ ทางฝั่ง ฟิวรี ก็ขอเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 29 ต.ค. แทน โดยให้เหตุผลว่าบาดเจ็บระหว่างซ้อม
สุดท้าย รีแมตช์ครั้งนี้ ก็ถูกเลื่อนออกไปแบบไม่มีกำหนด ด้วยเหตุผลที่ว่า ฟิวรี กำลัง “มีปัญหาเรื่องสภาพจิต”
12 เดือนแห่งหายนะ
กลายเป็นว่าความสำเร็จของ ฟิวรี กลายเป็น “ของร้อน” สำหรับคนที่ไม่พร้อมรับมือกับชื่อเสียง เงินทอง และอีกหลายปัจจัยที่ถาโถมเข้าใส่
เริ่มจากการถูก ไอบีเอฟ ริบเข็มขัดหลังจบไฟต์กับ คลิทช์โก ได้เพียงสองสัปดาห์ เพราะปฏิเสธจะขึ้นชกกับ เวียเชสลาฟ กลาซคอฟ ผู้ท้าชิงชาวยูเครน ต่อด้วยการถูกคณะกรรมการต่อต้านสารกระตุ้นของสหราชอาณาจักรพิจารณาโทษ หลังตรวจพบสารต้องห้ามในตัวอย่างปัสสาวะที่เก็บไปเมื่อเดือน มิ.ย.
คงจะดีกว่า หาก ฟิวรี สงบปากสงบคำในเรื่องนี้ แต่เจ้าตัวกลับเติมเชื้อไฟด้วยการรับว่าสารต้องห้ามดังกล่าว คือ โคเคน ที่ตนเสพ เพื่อบรรเทาอาการป่วยทางจิต และแทบไม่ได้ซ้อมลงนวมนานหลายเดือน
อนาคตที่ไม่ชัดเจน
คำให้สัมภาษณ์เรื่อง โคเคน ของ ฟิวรี กลายเป็นประเด็นใหญ่ที่สถาบันต่างๆต้องหวนกลับมาพิจารณาสถานะของแชมป์โลกรายนี้อีกครั้ง เพราะตลอดเวลาเกือบหนึ่งปี นับแต่ได้เข็มขัดไปครอง “ห่านทองคำ” ของสถาบันทั้งหลาย ไม่ได้ก่อประโยชน์ใดๆเลย
หลุยส์ บาติสตา-ซาลาส ประธานของ ดับเบิลยูบีโอ กำลังรอคำตอบจาก ฟิวรี ก่อนตัดสินใจอนาคตของ “ยิปซี คิง” ในอีก 10 วันข้างหน้า ขณะที่ จิลแบร์โต เมนโดซา ประธานดับเบิลยูบีเอ เลือกพุ่งประเด็นไปถึง “สารต้องห้าม” ที่เป็นปัญหา
ทางออกของ ฟิวรี ตามคำแนะนำของเทรนเนอร์คู่ใจ คือแจ้งกับสถาบันต่างๆว่า “ขอเว้นวรรค” เพื่อเปิดทางให้นักชกคนอื่นๆได้ชิงตำแหน่งที่ว่างลง เพราะหากพร้อมเมื่อไหร่ ฟิวรี ก็สามารถใช้สิทธิ์ในการท้าชิงเพื่อทวงตำแหน่งคืนได้ทันที
ปัญหาของ ฟิวรี ตอนนี้ คือยังพร้อมจะกลับมาขึ้นสังเวียนอีกครั้งหรือไม่ และน่าจะเป็นคำถามที่แม้แต่เจ้าตัวยังให้คำตอบไม่ได้ด้วยซ้ำ







