มนุษย์เหล็กแห่งโคนา ชัยชนะที่มากกว่าแค่สถิติ

มนุษย์เหล็กแห่งโคนา ชัยชนะที่มากกว่าแค่สถิติ

คุณทำอะไรได้บ้าง ภายในเวลา 8 ชั่วโมง 6 นาที 30 วินาที?

สำหรับหนุ่มเยอรมนี วัย 35 ปี ยาน โฟรเดโน นี่คือเวลาที่ใช้ไปในการว่ายน้ำ ระยะทาง 2.4 ไมล์ (3.8 กม.) ปั่นจักรยาน 112 ไมล์ (180 กม.) และวิ่ง 26.2 ไมล์ (42.195 กม.) ในการแข่งขันไตรกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก “ไอรอนแมน เวิลด์ แชมเปียนชิพ 2016” ที่โคนา ในฮาวาย เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ไตรกีฬา เป็นกีฬาประเภทเอนดูรานซ์ (endurance) ที่ถูกจับตามองมากที่สุดในช่วงที่ผ่านมา เห็นได้จากกระแสของคนรุ่นใหม่ รวมถึงเซเลบริตีที่ผันตัวมาสู่กระแส “ว่าย-ปั่น-วิ่ง” จนชินตา ทั้งในโลกโซเชียล และสื่อกระแสหลัก 

สำนักข่าว เอพี ระบุเหตุผลหลักๆที่ทำให้ ไตรกีฬา เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ดังนี้

นักกีฬาเอนดูรานซ์ และผู้รักสุขภาพทั้งหลาย ต้องการความท้าทายใหม่ๆที่มากกว่าแค่การวิ่ง หรือขี่จักรยาน

เหล่ามิลเลนเนียลส์ (Millenials) หรือ คนในเจน วาย ต้องการบางสิ่งที่ตอบสนองทั้งความสนใจส่วนตัว และรักษาสภาพร่างกายให้คงความหนุ่มสาวได้ยาวนาน

ขณะที่คนรุ่นเจน เอ็กซ์ จำนวนหนึ่ง ได้แรงบันดาลใจจากการแข่งขัน ไอรอนแมนชิงแชมป์โลก ที่โคนา ที่ถูกเล่าผ่านรายการทางสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีซี ของสหรัฐ

ว่าย-ปั่น-วิ่ง

ไม่มีใครสามารถระบุได้ถึงต้นกำเนิดแท้จริงของไตรกีฬา มีเพียงเรื่องเล่าว่าเพื่อนสนิทสามคนที่ถนัดแข่งขันกีฬาคนละประเภท ท้าทายกันว่าใครเก่งที่สุด และลงเอยด้วยการแข่งขันกีฬาทั้งสามประเภท เพื่อพิสูจน์ว่าใครเหนือกว่า

ส่วนไตรกีฬาอย่างเป็นทางการครั้งแรก ถูกบันทึกไว้ว่ามีขึ้นที่ฝรั่งเศส ในราวทศวรรษที่ 20-30 ในชื่อ “เลส์ ตรัวส์ สปอร์ตส์” ขณะที่ ไตรกีฬาสมัยใหม่ ย้ายไปปักหลักที่สหรัฐ ในตอนปลายยุคเซเวนตีส์ จนปลายทศวรรษที่ 80 ก็มีการจัดตั้งสหพันธ์ไตรกีฬานานาชาติ หรือ ไอทียู ขึ้น พร้อมเป้าหมายในการผลักดันเข้าสู่กีฬาโอลิมปิก และสำเร็จเป็นรูปธรรมที่ ซิดนีย์ ในปี 2000 โดยระยะ “สแตนดาร์ด” ว่าย 1.5 กม., ปั่น 40 กม. และวิ่ง 10 กม. ถูกเลือกให้เป็นระยะอย่างเป็นทางการ 

แต่ไตรกีฬา ก็ยังมีทางเลือกอีกมากมาย ทั้งสำหรับผู้เริ่มต้นใหม่อย่าง ระยะ “สปรินท์” (ว่าย 750 ม., ปั่น 20 กม. วิ่ง 5 กม.) หรือขยับไปเท่าตัว อย่าง ฮาล์ฟ ไอรอนแมน ไปจนถึงระดับ “ฟูล ดิสแทนซ์” คือว่ายน้ำ 3.9 กม. จักรยาน 180 กม. และวิ่ง 42.195 กม. 

มนุษย์เหล็ก   

แม้จะได้รับการบรรจุในโอลิมปิกนานเกือบสองทศวรรษ แต่ไตรกีฬาที่มีชื่อเสียงที่สุด ยังเป็น ไอรอนแมน เวิลด์ แชมเปียนชิพ ที่ฮาวาย ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1978 ต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน และเป็นที่มาของเรื่องราวน่าประทับใจที่เกิดขึ้นมากมาย

จูลี มอสส์ นักศึกษามหาวิทยาลัยที่ชนะใจคนทั้งโลก ระหว่างการแข่งขันในปี 1982 เมื่อลากสังขารที่หมดสภาพจนจบการแข่งขันสำเร็จ แม้จะเสียตำแหน่งแชมป์ให้ แคธลีน แม็คคาร์ทนีย์ ไป แต่ภาพของ มอสส์ กลับเป็นที่จดจำและเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนจำนวนมากยิ่งกว่า

“ไอรอน วอร์” การขับเคี่ยวกันอย่างสุภาพบุรุษของสองนักกีฬาระดับตำนานแห่งโคนา ทั้ง เดฟ สกอตต์ และ มาร์ค อัลเลน ในปี 1989 ที่ผลแพ้ชนะหลังจากขับเคี่ยวนานกว่า 8 ชั่วโมง ตัดสินกันด้วยระยะห่างเพียง 58 วินาที 

มากกว่าแค่สถิติ

การแข่งขันเมื่อคืนวันเสาร์ ตอกย้ำว่า ยาน โฟรเดโน คือซูเปอร์สตาร์แห่งไตรกีฬายุคปัจจุบันตัวจริง ด้วยผลงานที่กวาดแชมป์ระดับสูงสุดมาแล้วทุกระยะ ทั้งโอลิมปิก, ไอรอนแมน 70.3 เวิลด์แชมเปียนชิพ ส่วนการแข่งขันที่โคนา เจ้าตัวคือเจ้าของแชมป์ 2 ปีซ้อน โดยเฉพาะครั้งนี้ ที่เจ้าตัวทำเวลาได้ดีขึ้นกว่าปีก่อนถึง 8 นาที

ในประเภทหญิง แดเนียลา ไรฟ์ จากสวิตเซอร์แลนด์ ก็ป้องกันตำแหน่งไว้ ด้วยเวลา 8:46.46 ชั่วโมง ทำลายสถิติเดิมของ มิรินดา คาร์เฟร เกือบ 6 นาที 

ทั้งหมดเป็นตัวเลขที่น่าทึ่ง แต่สำหรับนักไตรกีฬาอีกหลายคน การฝึกฝน รวมถึงประสบการณ์รายทางต่างหาก ที่ทำให้ไตรกีฬามีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง

เจย์ บราวน์ ที่ปรึกษา และโค้ชกรีฑา วัย 31 ปี ให้ทรรศนะว่าความหลากหลายของกีฬาชนิดนี้คือสิ่งดึงดูด ทั้งที่ ณ จุดเริ่มต้น เจ้าตัวไม่เคยว่ายน้ำไกลเกิน 50 เมตร ก่อนจะค่อยๆหันมาใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่สเต็ปการวิ่ง ไปจนถึงอุปกรณ์อื่นๆอย่างจักรยาน และการจ้างโค้ชมาดูแล

เพราะปลายทางของกีฬาเอ็นดูรานซ์ ไม่ได้มีบทสรุปที่สถิติหรือผลแพ้ชนะเสมอไป เพราะการบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ ก็สำคัญไม่แพ้กัน