ถกสางคดีแก๊งพาสปอร์ตปลอม-ฆ่าหั่นศพ สอบหญิงสนิท'ปีเตอร์'แล้ว

ถกสางคดีแก๊งพาสปอร์ตปลอม-ฆ่าหั่นศพ สอบหญิงสนิท'ปีเตอร์'แล้ว

ผบช.น. เรียกถกชุดทีมสืบสวนคลี่คดีแก๊งพาสปอร์ตปลอม-ฆ่าหั่นศพแช่แข็ง ระบุสอบหญิงใกล้ชิด “ปีเตอร์” แล้ว

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 1 ตุลาคม ที่สน.พระโขนง พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น.เดินทางเรียกประชุมตำรวจชุดคลี่คลายคดีแก๊งต่างชาติปลอมพาสปอร์ตและฆ่าหั่นสพแช่แข็ง โดยมี พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.ท.เสถียร วิชญ์ธนมาลา รอง ผกก.(สอบสวน) สน.พระโขนง

พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยก่อนเข้าประชุมว่า ทางเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการสืบสวนตามขั้นตอน โดยเรียกพยานปากสำคัญซึ่งเป็นผู้หญิงมาสอบปากคำแต่ไม่ขอเปิดเผยข้อมูล เพื่อเชื่อมโยงทั้ง พยานบุคคล พยานวัตถุ และนิติวิทยาศาสตร์ ให้ปราศจากข้อสงสัย ซึ่งหลักฐานทุกอย่างจะทำให้เป็นรูปธรรมเชิงประจักษ์ ขณะนี้มีความพอใจพยานหลักฐานที่มีอยู่ เพราะหากต้องการทราบนิสัยใจคอ นายปีเตอร์ ก็ต้องสอบถามจากคนใกล้ชิดเพื่อหาข้อเท็จจริง คาดว่าต้องใช้เวลาเพราะต้องรอบคอบทุกมิติ นอกจากนี้บางเรื่องอาจกระทบถึงความปลอดภัยและสภาพจิตใจของผู้อื่น จึงขอสงวนสิทธิไว้ อย่างไรก็ตามจะหาคนผิดมาลงโทษให้ได้

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวอีกว่า คดีนี้ต้องทำอย่างละเอียด รอบคอบแน่นหนา หาจุดเชื่อมโยงทุกอย่าง อีกทั้ง ได้ตั้งข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับการเสียชีวิตว่าตายเองหรือผู้อื่นทำให้ตาย จากนั้น ให้เจ้าหน้าที่ค้นหาหลักฐานให้ได้ผลพิสูจน์ออกมาว่าสอดคล้องกับหลักฐานของตำรวจที่มีอยู่ ส่วน นายปีเตอร์ ให้การปฎิเสธนั้นไม่เป็นปัญหา

“สำหรับการสอบปากคำ นายปีเตอร์ นั้น ได้แบ่งรับแบ่งสู้ รวมทั้งได้ขอทนายความเพื่อเป็นตามกระบวนการยุติธรรมของหลักสากล ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อคำให้การของนายปีเตอร์ ส่วนการตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงที่ถุงพลาสติกยังไม่ได้ส่งมาให้และการระบุสัญชาติกับเชื้อชาติของศพยังไม่ชัดเจนเพราะอาจเป็นคนที่อพยพย้ายถิ่นฐานไปมาก็ได้” ผบช.น. กล่าว

 ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า จากการที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนทำการสอบปากคำนายปีเตอร์ อย่างละเอียด เจ้าตัวยังคงให้การภาคเสธ ว่า วันที่เกิดเหตุที่บ้านหลังหนึ่งย่านเอกมัยเมื่อปี 2551 นั้น หลังตนตื่นนอนตอนเช้าเดินลงมาจากชั้นสองของตัวบ้านพบว่า เพื่อนตนที่เป็นมะเร็งเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้วกำลังร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน ลงมือหั่นชิ้นส่วนผู้ตายอยู่ โดยเจ้าตัวอ้างว่าเพื่อนตนที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้เป็นผู้ลงมือฆาตกรรมโหด ทั้งนี้จากการสอบปากคำหลายๆประเด็น เจ้าตัวยังคงยืนยันว่าไม่ใช่เป็นผู้ลงมือฆ่าแต่อย่างใด และโยนความผิดให้เพื่อนรายนี้เท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวอีกว่า จากการที่ทางพนักงานสอบสวนส่งพยานวัตถุเป็นอาวุธปืน จำนวน 3 กระบอกของคนร้าย ประกอบไปด้วย อาวุธปืนก็อก ขนาด 9 มม. อาวุธปืนยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน ขนาด .32 และอาวุธปืนยี่ห้อบราวนี่ ขนาด .22 ไปให้ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ทำการตรวจสอบก่อนหน้านี้ พบว่าปืนทั้ง 3 กระบอกได้ถูกลบเลขทะเบียนไปแล้วทั้งหมด แต่เมื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว จนทราบว่าปืนทั้ง 3 กระบอกได้ถูกขึ้นทะเบียนไว้ที่ กรุงเทพมหานคร จ.นนทบุรี และจ.อุดรธานี ทั้งนี้เมื่อสอบถามเรื่องอาวุธกับทางนายปีเตอร์นั้น เจ้าตัวอ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใด ให้การเพียงเป็นอาวุธปืนของเพื่อนที่เสียชีวิตไปแล้วก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม ทางชุดสืบสวนยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การต้องทำการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ สำหรับที่ทางสื่อมวลชนนำเสนอชื่อนายชาร์ล เอ็ดวาร์ด ลิทเทลเซน (MR.CHARLES EDWARD DITLEFSEN )ชาวอเมริกัน ซึ่งอยู่ระหว่างพิสูจน์เชื้อชาติใดนั้น รวมทั้งมีภาพถ่ายผู้ตาย ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานทางเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ เพื่อยืนยันความชัดเจนอีกครั้ง เพื่อสามารถระบุตัวผู้เสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป