โหด! แทงสาวเปลือยดับสยอง คาห้องน้ำหอพักคาดปมหึงหวง
สะเทือนขวัญประชาชื่น! คนร้ายแทง5แผลโหด สาวเปลือยดับสยอง คาห้องน้ำในหอพัก คาดปมหึงหวง
เมื่อเวลา 10.00น. วันที่ 12 กันยายน ร.ต.ท.จิระวัฒน์ จันทะโรจน์ รองสว. (สอบสวน) สน.ประชาชื่น ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกแทงเสียชีวิตภายในหอพัก เลชที่4/7ถนนกำแพงเพชร2แขวงและเขตจตุจักรกรุงเทพฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชา ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. แพทย์เวรรพ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต๊กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นหอพักสูง3ชั้น ที่ชั้น2ห้องเลขที่9ภายในห้องน้ำพบศพ.น.ส.วรรณทนี อธิจร อายุ29ปี สภาพศพเปลือยถูกแทงด้วยของมีคมทั้งหมด5แผล เข้าที่กลางหน้าผาก หางคิ้วขวา ข้อมือซ้าย และหน้าอกอีก2แผล ภายในห้องพบร่องรอยข้าวของกระจัดกระจาย โต๊ะรีดผ้าล้มระเนระนาด ขณะที่เตารีดยังคงเสียบปลั๊กไว้ ตรวจสอบพบอาวุธมีด2เล่มปลายแหลม ขนาดความยาวประมาณ1ฟุตทั้งสองเล่ม โดยมีคราบเลือดที่ถูกล้างด้วยน้ำ ถูกซุกในกองผ้าห่มริมห้อง
จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ให้การว่า ผู้ตายทำงานเป็นพนักงานต้อนรับบนรถทัวร์ วิ่งเส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยทำงานมาได้1ปีกว่า ๆ และพักอาศัยที่หอพักแห่งนี้ได้1เดือน ก่อนเกิดเหตุผู้ตาย เพิ่งจะเลิกงานจากรถทัวร์ที่เดินทางกลับจากจ.กาฬสินธ์ มาที่สถานีขนส่งหมอชิตในตอนเช้า และกลับห้องพัก
ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ09.00น. มีคนได้ยินเสียงตะโกนออกมาจากห้องของผู้ตายว่า ช่วยด้วย หลายครั้ง ก่อนที่จะมีเสียงประตูปิดเสียงดัง จึงมีพยานออกมาดู เห็นชายต้องสงสัยใส่เสื้อโค้ชแขนยาวสีดำ กางเกงขาสั้นสีแดง รองเท้าแตะแบบหนีบ วิ่งออกจากหอพักไปข้ามรางรถไฟหลบหนีไป
อย่างไรก็ดีพยานเห็นหน้า เห็นแต่แผ่นหลังของชายต้องสงสัยเท่านั้น จากนั้นทางคนในหอพักได้ไปเคาะประตูห้องเรียกผู้ตายแต่ไม่มีใครตอบ จึงโทรศัพท์หาเจ้าของหอพักเพื่อให้มาเปิดห้องผู้ตาย ทางเจ้าของหอพักให้งัดบานเกล็ดและปลดล็อกประตู เมื่อเปิดเข้าไปก็พบศพผู้ตาย ทั้งนี้ผู้ตายคบหากับแฟนหนุ่มซึ่งทำงานขับรถทัวร์ แต่ขณะเกิดเหตุ แฟนหนุ่มทำงานขับรถไปที่จ.บุรีรัมย์ตั้งแต่เมื่อคืนก่อน ยังไม่ได้เดินทางกลับมากรุงเทพฯแต่อย่างใด
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานสาเหตุการเสียชีวิตว่าเป็นเรื่องส่วนตัวมุ่งไปที่ปมประเด็นความรัก เนื่องจากผู้ตายทำงานเป็นพนักงานต้อนรับบนรถทัวร์อาจมีหนุ่ม ๆ มาติดพันจนเกิดปัญหาและนำไปสู่การสังหารโหดในที่สุด ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกำลังไล่กล้องตรวจสอบจุดเกิดเหตุโดยรอบเพื่อจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว