กทม.ถือฤกษ์ 12 ส.ค. เปิดสวนสาธารณะ 2 แห่ง

นางสาววีนา วงศ์สินธุ์เชาว์ ผู้อำนวยการสำนักงานสวนสาธารณะสำนักสิ่งแวดล้อมกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันสำนักสิ่งแวดล้อมได้ดำเนินการเพิ่มพื้นที่สีเขียวได้จำนวน 4,421ไร่ คิดเป็นร้อยละ88 เปรียบเทียบจากเป้าหมาย 5,000 ไร่ในปี 2560 ซึ่งเมื่อรวมพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯ มีจำนวนทั้งหมด 21,853ไร่ 2งาน 59.68 ตารางวา คิดเป็นอัตราส่วนพื้นที่สีเขียวต่อประชากร 6.14 ตารางเมตรต่อคน โดยวันที่ 12 ส.ค.นี้ กทม.จะเปิดให้บริการสวนสาธารณะในพื้นที่กรุงเทพฝั่งตะวันออกจำนวน 2 แห่งได้แก่

1.สวนราษฎร์ภิรมย์ซอยสุวินทวงศ์ 47 เขตหนองจอกพื้นที่ 7 ไร่ 2 งาน 49 ตารางวา และ 2.สวนพระยาภิรมย์ถนนราษฎร์อุทิศเขตมีนบุรีพื้นที่ 10 ไร่ 3 งาน 27 ตารางวาเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถโดยทั้ง 2 แห่งเป็นสวนที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่ เป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกายของประชาชนเนื่องจากในอนาคตพื้นที่ดังกล่าวจะมีการขยายตัวของชุมชุนเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ กทม.อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างสวนสาธารณะขนาดใหญ่ได้แก่สวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา7รอบเขตบางบอนพื้นที่ 100 ไร่งบก่อสร้าง 366.5 ล้านบาทซึ่งจะแล้วเสร็จในสมัยม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.ในพื้นที่เฟสแรกจำนวน 20 ไร่ขณะเดียวกันกทม.ยังได้ดำเนินโครงการสวนแนวตั้ง ซึ่งเป็นการจัดสวนในลักษณะเป็นแนวตั้งเหมาะสำหรับพื้นที่ที่จำกัดโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯที่มีอาคารสูงผนังอาคารสามารถเติมสีสันด้วยต้นไม้ใบไม้ เพื่อเปลี่ยนพื้นที่แออัดคับแคบให้กลายเป็นพื้นที่ธรรมชาติ

โดยปัจจุบันกทม.ได้ดำเนินโครงการสร้างสวนแนวตั้งโดยแบ่งเป็นสวนบนอาคาร128แห่งคิดเป็นพื้นที่ 48 ไร่ 3 งาน 5.65 ตารางวา แบ่งเป็นสำนักงานเขตดำเนินการ 18 แห่งคิดเป็นพื้นที่ 4 ไร่ 32.15 ตารางวาเอกชนดำเนินการ 110 แห่งคิดเป็นพื้นที่ 44 ไร่ 3 งาน 18.5 ตารางวา

“ขณะที่สวนแนวตั้งบริเวณป้ายรถประจำทางและเสาตอม่อจำนวน 204 แห่งแบ่งเป็นสำนักงานเขตดำเนินการ 66 แห่งคิดเป็นพื้นที่ 6 ไร่ 2 งาน 79.03 ตารางวา เอกชนดำเนินการ 138 แห่งคิดเป็นพื้นที่ 30 ไร่ 1 งาน 68.60 ตารางวา อย่างไรก็ตามได้เน้นย้ำให้เขตดำเนินการดูแลรักษาสวนแนวตั้งแบบยั่งยืนโดยให้เน้นจัดทำสวนแนวตั้งที่บริเวณรอบกำแพงของอาคารต่างๆซึ่งก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการจัดทำสวนแนวตั้งที่ป้ายรถประจำหรือตอม่อรถไฟฟ้าแต่กลับพบว่าเป็นสวนแนวตั้งแบบไม่ยั่งยืน”ผู้อำนวยการสำนักงานสวนสาธารณะ กล่าว