วิเคราะห์เกม ฝรั่งเศส VS ไอซ์แลนด์ รอบ8ทีม ยูโร 2016

วิเคราะห์เกม ฝรั่งเศส VS ไอซ์แลนด์ รอบ8ทีม ยูโร 2016

ฝรั่งเศส เจอปัญหานักเตะโดนแบน ต้องปรับทัพใหม่ทั้งแนวรับและแดนกลาง ก่อนฟาดแข้งรอบ 8 ทีมสุดท้ายกับ ไอซ์แลนด์ ในศึกยูโร 2016

ศึกยูโร 2016 รอบ 8 ทีมสุดท้ายคู่สุดท้าย วันที่ 4 กรกฎาคม ที่สนามสตาด เดอ ฟรองซ์ เวลา 02.00 น. “ตราไก่” ฝรั่งเศส เจ้าภาพที่เอาชนะ “ยักษ์เขียว” ไอร์แลนด์ 2-1 ในรอบที่แล้วจะลงสนามพบ ไอซ์แลนด์ ที่พลิกล็อกเอาชนะ “สิงโตคำราม” อังกฤษ มาได้ 2-1 โดยที่ผ่านมาฝรั่งเศสยังไม่เคยแพ้ไอซ์แลนด์แม้นัดเดียวก็จริง แต่การมาพบกันในทัวร์นาเมนต์นี้อาจจะแตกต่างออกไปเพราะไอซ์แลนด์ เพิ่งจะชนะอังกฤษได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เช่นกัน

ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือเจ้าภาพมีปัญหาพอสมควรก่อนจัดเกมนัดนี้เนื่องจากต้องปรับทีมทั้งในแนวรับและแดนกลาง เนื่องจาก อาดิล รามี กับ เอ็นโกโล กองเต ติดโทษแบน โดยแนวรับน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเพียงตำแหน่งเดียว ซามูเอล อุมติตี กองหลังจากโอลิมปิก ลียง น่าจะได้โอกาสก่อน เอเลียควิม มองกาลา ของแมนฯ ซิตี ที่ลงมายืนเซ็นเตอร์แบ็กคู่กับ โลรองต์ กอสเซลนี ขณะที่ฟูลแบ็กทั้งสองข้างยังเป็น บาคารี ซาญา กับ ปาทริซ เอฟรา เหมือนทุกเกมที่ผ่านมาในทัวร์นาเมนต์นี้

แดนกลางเมื่อไม่มี กองเต จะเป็น โยอัน กาบาย ที่ลงมาเป็นตัวจริงในตำแหน่งมิดฟิลด์เกมรับ หลังจากที่ได้ลงสนามเป็นตัวจริงมาแล้ว 1 นัดในเกมรอบแรกนัดสุดท้ายกับสวิตเซอร์แลนด์ ขณะที่มิดฟิลด์อีก 2 คนไม่มีการเปลี่ยนแปลงจะเป็น ปอล ป็อกบา กับ แบลส มาตุยดี

สำหรับแนวรุกแม้ว่า โอลิวิเยร์ ชิรูด์ หัวหอกของอาร์เซนอลจะเล่นไม่ออกในเกมกับไอร์แลนด์ และถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 73 ของเกม แต่เดส์ชองส์ ยังคงไว้ใจให้เป็นกองหน้าตัวจริงมากกว่า อองเดร ปิแอร์ ชีญัก ส่วนเกมรุกสองข้างไม่มีการเปลี่ยนแปลงแน่นอนจะเป็น อองตวน กรีซมันน์ ทางขวา และดิมิทรี ปาเยต์ ทางซ้าย

ฝั่งไอซ์แลนด์ที่มี ลาร์ส ลาเกอร์บัค กุนซือชาวสวีดิชที่ดูเรื่องการวางแท็กติกเกม ไม่ให้นักเตะต้องกดดันมากนักสำหรับเกมนี้จึงให้มีการซ้อมแบบผ่อนคลาย และเชื่อว่าลูกทีมจะทุ่มเทเต็มที่แบบไม่มีอะไรต้องเสีย เนื่องจากการเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากแล้ว แต่ทีมก็ยังมีความมุ่งมั่นที่จะก้าวต่อไป

ในส่วนของตัวผู้เล่นจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเกมที่เอาชนะ อังกฤษ แนวรับยังเป็น รักนาร์ ซิกูร์ดส์สัน กับ คารี อาร์นาสัน คู่เซ็นเตอร์แบ็กที่รู้ใจและเล่นลูกกลางอากาศได้ดีทั้งเกมรุกและเกมรับเป็นหัวใจสำคัญ และมี เบียร์เคียร์ ซาวาร์สสัน กับ อารี สคูลาสัน เป็นสองฟูลแบ็กเพราะไม่มีใครติดโทษแบน

แดนกลาง กิลฟี ซิกูร์ดส์สัน จะมิดฟิลด์คู่กลางร่วมกับ อารอน กุนนาร์สสัน กัปตันทีมจอมทุ่มไกล และเกมนี้จะยังใช้เป็นอาวุธเด็ดในการลุ้นประตูของทีมเหมือนเดิม ขณะที่เกมริมเส้นจะเป็น โยฮันน์ กุดมุนด์สสัน กับ เบียร์เคียร์ บียาร์นาร์สสัน และคู่กองหน้าจะเป็น โคลเบนน์ ซิกธอร์สสัน กับ ยอน บอดวาร์สสัน ที่ประสานงานกันจน ซิกธอร์สสัน ยิงประตูชัยให้ทีมในเกมที่ชนะอังกฤษ

สำหรับสถิติที่พบกันมาของคู่นี้ พบกันมาแล้ว 11 ครั้ง ฝรั่งเศสไม่เคยแพ้แม้แต่นัดเดียวเอาชนะได้ถึง 8 ครั้ง และเสมอกันอีก 3 ครั้ง อีกทั้งฝรั่งเศสยังทำได้ถึง 30 ประตู ส่วนไอซ์แลนด์เคยทำประตูฝรั่งเศสได้เพียงแค่ 8 ประตู ซึ่ง 2 ครั้งหลังสุดที่พบกันจบลงด้วยชัยชนะของฝรั่งเศสด้วยสกอร์ 3-2 และครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนพฤษภาคม 2012 ฝรั่งเศสแซงกลับมาชนะได้หลังจากที่ถูกไอซ์แลนด์ นำก่อนถึง 2-0

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามมีดังนี้

ฝรั่งเศส ในระบบ 4-3-3

ผู้รักษาประตู - อูโก ยอริส

กองหลัง - บาคารี ซาญา, ซามูเอล อุมติตี, โลรองต์ กอสเซลนี, ปาทริซ เอฟรา

กองกลาง - โยอัน กาบาย, ปอล ป็อกบา, แบลส มาตุยดี

กองหน้า - อองตวน กรีซมันน์, โอลิวิเยร์ ชิรูด์, ดิมิทรี ปาเยต์



ไอซ์แลนด์ ในระบบ 4-4-2

ผู้รักษาประตู - ฮันเนส ฮัลล์ดอร์สสัน

กองหลัง - เบียร์เคียร์ ซาวาร์สสัน , รักนาร์ ซิกูร์ดส์สัน, คารี อาร์นาสัน, อารี สคูลาสัน

กองกลาง - โยฮันน์ กุดมุนด์สสัน, อารอน กุนนาร์สสัน, กิลฟี ซิกูร์ดส์สัน, เบียร์เคียร์ บียาร์นาร์สสัน

กองหน้า - โคลเบนน์ ซิกธอร์สสัน, ยอน บอดวาร์สสัน