จับแล้วผู้ต้องหาร่วมเผานั่งยางนายทุนเงินกู้ อุดรฯ
ตำรวจภาค 4 แถลงข่าวจับผู้ต้องหาร่วมเผานั่งยางนายทุนเงินกู้อุดรฯ สารภาพอดีต “ด.ต.บ้านผือ” จับหักคอ เพราะแค้นไม่ให้ยืมเงิน
ตำรวจภาค 4 แถลงข่าวจับผู้ต้องหาอุ้มฆ่าเจ้าแม่เงินกู้นอกระบบ หนึ่งในเหยื่อที่ถูกเผานั่งยางป่าบ้านผือ อ้างถูกบังคับให้ร่วมลงมือก่อเหตุเพราะหากไม่ทำจะถูกฆ่าตาย โดยนายปราโมทย์ อดีตดาบตำรวจโรงพักบ้านผือเป็นคนวางแผนและหักคอ จนเสียชีวิตก่อนนำศพไปเผาอำพรางและเอาทรัพย์สินหลบหนีไป ซึ่งขณะนี้นายปราโมทย์ ติดคุกตลอดชีวิตในคดีอื่น
พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมตำจภูธรภาค 4 ร่วมแถลงข่าวจับกุมนายบุญหนา ทองงาม อายุ 57 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล จ.อุดรธานี ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีอาวุธตั้งแต่สองคนขึ้นไป เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ร่วมกันซ่อนเร้น ทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย ในคดีเผานั่งยาง จุดที่ 1 ใน 23 จุด ที่สุสานเผานั่งยาง ป่าสงวนแห่งชาติกุดจับ-โคกเฒ่าคำภา บ้านคำบอนเวียงชัย ตำบลหนองแวง อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี หลังร่วมกับ นายปราโมทย์ บุพศรี อดีตตำรวจยศดาบตำรวจ สภ.บ้านผือ ร่วมกันฆ่า นางบังอร ทองอ่อน อายุ 49 ปี ชาวบ้านดงบัง ตำบลโนนทอง อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี นายทุนเงินกู้ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2557
พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ถือเป็นความคืบหน้าครั้งแรกในการรื้อคดีการเผานั่งยางที่พบร่องรอยการเผาในสุสานกลางป่าจำนวน 23 จุด เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งการจับกุมนายบุญหนา ครั้งนี้หลังจากตำรวจสืบทราบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการอุ้มฆ่านางบังอร ที่ได้หายตัวไป ก่อนพบว่าถูกเผานั่งยาง และทราบว่าเป็นการฆ่าชิงทรัพย์แล้วนำศพไปเผาอำพรางคดี โดยผู้ต้องหาร่วมกับ นายปราโมทย์ ที่มีการก่อเหตุลักษณะนี้บ่อยครั้ง ซึ่งขณะนี้ดาบตำรวจปราโมทย์ ถูกศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตในคดีฆ่า น.ส.วารุณี ชัยริน หน.ส่วนการคลัง อบต.จำปาโมง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เมื่อปี2554
ด้านผู้ต้องหา สารภาพว่า นายปราโมทย์โมโหที่นางบังบังอร ไม่ให้ยืมเงิน 10,000 บาท เพราะก่อนหน้านี้นายปราโมทย์เคยยืมไปแต่ไม่ใช้คืน จึงชวนให้ตนอุ้มฆ่านางบังอร เพื่อจะชิงทรัพย์ พร้อมขู่ว่าหากตนไม่ช่วยจะฆ่าตนให้ตาย โดยนายโมทย์เป็นผู้ลงมือจับตัวนางบังอร ที่กระท่อมนาใกล้บ้านพัก ที่นางบังอร จะขี่รถจักรยานยนต์ ออกมาในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นประจำ จากนั้นได้ทำร้ายร่างกายนางบังอร ด้วยการหักคอ มีตนเองเป็นคนคอยดูต้นทางให้
ก่อนที่นำร่างนางบังอร ขึ้นรถกระบะ ไปเผานั่งยางทำลายศพที่บริเวณป่าดังกล่าว ก่อนเอาทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตไป และยังย้อนกลับมานำยางรถยนต์และน้ำมันไปเผาศพของนางบังอร ซ้ำอีกรอบจนไหม้หมด และแยกย้ายกันใช้ชีวิตตามปกติ โดยที่ผ่านมาก็รู้จักกับนางบังอร เพราะบ้านใกล้กัน แต่ก็ไม่เคยมีอะไรผิดใจกัน ที่ทำไปเพราะถูกนายโมทย์ บังคับให้ทำ เพราะหากไม่ทำ จะถูกฆ่า
ด้าน พลตำรวจตรีขจรศักดิ์ ปานสาคร รองผู้บังชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า คดีนางบังอรฯ เป็น 1 ในคดีสุสานเผานั่งยาง มีการยืนยันศพถูกนำไปเผาจริง ผู้ต้องหารับสารภาพและซัดทอด นายปราโมทย์ ซึ่งจะให้พนักงานสอบสวน ไปสอบปากคำในเรือนจำคลองไผ่ และหวังว่าผู้ต้องหาจะให้ความร่วมมือสามารถที่จะขยายผลไปสู่คดีอื่น ๆ ต่อเนื่องได้
และในวันพรุ่งนี้เวลา 09.00 น. ตำรวจจะคุมตัวนายบุญหนาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุอีกครั้ง







