รวบ'ตร.เก๊'เจอ5ข้อหาหนัก เหตุบุกค้นบ้านเอาทรัพย์สิน-ข่มขืน
ตำรวจสน.จรเข้น้อย รวบ "ตร.ปลอม" แจ้ง 5 ข้อหา หลังก่อเหตุบุกค้นบ้านประชาชน ฉกเอาทรัพย์สิน จะข่มขืนทำกระทำอนาจาร
ที่สน.จรเข้น้อย - เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 มี.ค. พ.ต.อ.อรรถวินทร์ เกษแก้ว ผกก.สน.จรเข้น้อย พร้อมด้วย พ.ต.ท.พยงค์ เอี่ยมสกุล รอง ผกก.สส.สน.จรเข้น้อย พ.ต.ท.อนุชาทองสว่าง สว.ป.สน.จรเข้น้อย พ.ต.ต.โกวิท ผิวผ่อง สว.สส.สน.จรเข้น้อย ร.ต.อ.ชัดชาย กรอบทอง รอง สวป.สน.จรเขน้อย ร.ต.อ.ทิรัตน์ ฤทธิภักดี ร.ต.ท.สมยศ นาคะ ร.ต.ท.วัชระ ลิ้มเส็ง รอง สว.สส.สน.จรเข้น้อย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน
ได้นำกำลังจับกุมนายวิเชษฐ หรือยุ๊ฟ บางใหญ่ อายุ 33 ปีอยู่บ้านเลขที่ 38/6 ซอยขุมทองลำต้อยติ่ง 1 แขวงขุมทอง เขตลาดกระบัง กทม. พร้อมของกลางยาไอซ์ 0.44 กรัม สิ่งเทียมอาวุธปืนพกสั้นแบบออโตเมติก สีเทา 1 กระบอก เครื่องวิทยุสื่อสาร ยี่ห้อ โมโตโรล่า รุ่นจีที 668 สีดำ 1 เครื่อง กระเป๋าผ้าขนาดเล็กสีดำมีสัญลักษณ์ POLICE 1 ใบ ชุดฟาร์ติกสีน้ำเงินมีเครื่องหมาย POLICE จำนวน 1 ชุด รถยนต์โตโยต้า รุ่นโคโลร่า สีเทา ทะเบียน ฉฐ 5961 กทม. สายไฟสีเทา 1 เส้น เชือกไนล่อนสีเขียว สายเคเบิ้ลไทร์สภาพใช้งานขาดเป็นท่อน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง เครื่องเล่นเอ็มพี 3 และเงินสดจำนวน 560 บาท โดยจับกุมได้ในบ้านเลขที่ 15 ถนนหลวงแพ่ง แขวงขุมทอง เขตลาดกระบัง กทม. เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 24 มี.ค.
พ.ต.ต.โกวิท กล่าวว่า เวลา 05.00 น. วันที่ 24 มี.ค.ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากประชาชนว่า มีบุคคลเป็นเพศชายอ้างตัวเป็นตำรวจ ใช้อาวุธปืนข่มขู่และทำร้ายร่างกายผู้เสียหายจำนวน 2 ราย มัดตัวเจ้าของบ้านไว้กับเสาบ้านพร้อมรื้อค้นเอาทรัพย์สินภายในบ้านพัก ย่านลาดกระบัง จึงรุดไปตรวจสอบเมื่อมาถึงช่วงบริเวณกลางซอย พบชายฉกรรจ์แต่งเครื่องแบบคล้ายตำรวจมีท่าทางมีพิรุธ กำลังจะขึ้นรถยนต์ของกลางออกไปจึงแสดงตัวขอตรวจค้นพบของกลางทั้งหมดข้างต้น จึงยึดไปตรวจสอบ
ระหว่างนั้น มีนายสำเริง แซ่ฉั่ว อายุ 51 ปีและ น.ส.แพรวพรรณ พรรณีสะ อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน ได้แสดงตัวเป็นผู้เสียหายพร้อมให้การว่า นายวิเชษฐ บุกเข้าไปในบ้านอ้างตัวเป็นตำรวจนครบาล ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้เข้ามาตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย
“ขณะเดียวกัน ได้ใช้อาวุธปืนบังคับให้นายสำเริง นอนคว่ำหน้าลงกับพื้นเอามือทั้งสองข้างไพล่หลังแล้วมัดด้วยสายไฟ จากนั้นลากออกมานอกห้องนอนแล้วใช้เท้าเตะที่หน้าท้องพร้อมทั้งใช้อาวุธปืนตีหัว ก่อนลากตัวมามัดไว้กับเสาไม้กลางบ้านด้วยเชือกไนลอนอีกครั้ง ขณะนั้นคนร้ายได้ขู่กรรโชกให้ผู้เสียหายนำเงินสดจำนวน 1 หมื่นบาท แต่ผู้เสียหายกลับปฏิเสธบอกเพียงว่า มีเงินสดแค่ 400 กว่าบาท วางอยู่บนโต๊ะด้านหน้าโทรทัศน์ คนร้ายกลับเปลี่ยนใจ เดินเข้าไปในตัวบ้านก่อนจับ น.ส.แพรวพรรณ มัดมือไพล่หน้าด้วยสายรัดเคเบิ้ลไทร์ พร้อมทั้งข่มขู่ว่า ห้ามหลบหนี จากนั้นคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายออกไปที่รถยนต์ซึ่งจอดทิ้งไว้อยู่บริเวณกลางซอยเพื่อไปเอาบุหรี่ ” พ.ต.ต.โกวิท กล่าว
ขณะนั้นน.ส.แพรวพรรณ ได้ใช้ความพยายามหยิบกรรไกรที่วางอยู่บริเวณใกล้ตัว นำมาตัดสายรัดเคเบิ้ลไทร์จนขาด พร้อมทั้งรีบวิ่งไปตัดเชือกให้สามีที่ถูกมัดอยู่บริเวณกลางบ้านจนสำเร็จ โดยทั้งสองวิ่งหลบหนีออกมาและแอบดูความเคลื่อนไหวคนร้าย เมื่อพบเห็นคนร้ายเดินทางกลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมด้วยอาวุธปืนด้วยความกลัวจึงกระโดดน้ำข้ามฝั่งไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านให้แจ้งตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งระหว่างนั้นนายวิเชษฐเดินปรี่เข้าไปหา น.ส.แพรวพรรณ พร้อมกระทำอนาจารและข่มขืน
จากการสืบสวนทราบว่า นายวิเชษฐ ทำอาชีพรับจ้างขายไอศกรีมย่านลาดกระบัง ก่อนหน้าที่เคยก่อเหตุข่มขู่เอาทรัพย์สินจากเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวมาแล้วรวม 3 ครั้ง โดยแต่ละครั้งได้ทรัพย์สินไปไม่มาก ส่วนเจ้าของบ้านไม่ยอมเข้าแจ้งความเพราะกลัวอันตราย จนมาครั้งนี้ทำร้ายทำรุนแรงจึงร้องขอความช่วยเหลือ
เจ้าหน้าที่แจ้ง 5 ข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาไอซ์ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ข้อหา มีและใช้ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ข้อหาแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น ข้อหาลักทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์นั้นหรือเพื่อให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือพาทรัพย์นั้นไปโดยมีและใช้อาวุธปืน ข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำการด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพ และร่างกาย ข้อหากระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยใช้กำลังประทุษร้ายและ ข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น” นำตัวส่ งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี







