รองนายกฯเปิดอุทยานการเรียนรู้ TK park นครสงขลา

"พล.อ.อ.ประจิน" รองนายกฯเปิดอุทยานการเรียนรู้ TK park นครสงขลา ดึงภาครัฐ เอกชน และท้องถิ่น ร่วมสร้างแหล่งเรียนรู้ครบวงจร
ที่โรงสีแดง หับ โห้หิ้น ถนนนครนอก อ.เมือง จ.สงขลา พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดอุทยานการเรียนรู้นครสงขลา หรือ TK park ระยะที่ 1 ณ โรงสีแดงแห่งนี้ เกิดซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่างสำนักงานอุทยานการเรียน เทศบาลนครสงขลา และ ปตท.สผ. โดยเปิดให้บริการเพื่อสร้างการรับรู้แก่เด็กเยาวชนและประชาชนในท้องถิ่นในเบื้องต้น ก่อนการจัดตั้งอุทยานการเรียนรู้นครสงขลา หรือ Songkhla Smart Center พื้นที่แห่งการเรียนรู้ขนาดใหญ่ใจกลางเมืองสงขลาที่จะเปิดให้บริการในอีก 2 ปีข้างหน้า
นายราเมศ พรหมเย็น รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ กล่าวว่า อุทยานการเรียนรู้ หรือ TK park ได้เริ่มต้นเมื่อปี 2548 ได้ดำเนินงานตามภารกิจหลัก 3 ประการ คือ สร้างและพัฒนาต้นแบบสิ่งเรียนรู้ ส่งเสริมนิสัยรักการอ่านการเรียนรู้ และเป็นเวทีเปิดให้เด็กและเยาวชนได้เกิดกิจกรรมเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์และยังต่อยอดออกไปอย่างกว้างขวางตามวิถีโลกที่เปลี่ยนแปลง
ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่าน TK park ได้ผนึกกำลังกับหน่วยงานท้องถิ่นทุกภาคส่วนของประเทศไทยสร้างแผนพัฒนาแหลางเรียนรู้สู่ภูมิภาคในรูปแบบ ห้องสมุดมีชีวิต จวบจนปัจจุบันได้ขยายผลสู่อุทยานการเรียนรู้เครือข่าย 30 แห่ง ในพื้นที่ 28 จังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งอุทยานการเรียนรู้นครสงขลา ระยะที่ 1 ซึ่งเปิดตัวในวันนี้ด้วย
ด้านนายสมศักดิ์ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา กล่าวว่า อุทยานการเรียนรู้นครสงขลา ระยะที่ 1 เกิดขึ้นได้เพราะความตั้งใจของท้องถิ่นเป็นหลักสำคัญ เพราะชุมชนมีความต้องการที่จะสร้างโอกาสทางการเรียนรู้และเข้าถึงห้องสมุดที่ทันสมัยสำหรับเด็ก เยาวชนและประชาชนในท้องถิ่น โดยปรับปรุงอาคารเก่าโรงสีแดง หับ โห้หิ้น ซึ่งเป็นโรงสีข้าวเก่าแก่เป็นที่ตั้งของภาคีคนรักเมืองสงขลาสมาคม ซึ่งตั้งริมทะเลสาบสงขลาให้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน ตลอดจนสร้างสรรค์นวัตกรรมและกิจกรรมการเรียนรู้ใหม่ๆ จากการผสมผสานด้านศิลปะ วัฒนธรรม ค่านิยมหรือวิถีชีวิต รวมทั้งวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีในรูปแบบที่หลากหลาย
ปัจจุบันที่ตังอุทยานการเรียนรู้นครสงขลา ยังได้ประกาศให้เป็นเมืองเก่า 1 ใน 10 เมืองของไทย จากคุณลักษณะพิเศษทางศิลปะ สถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต และวัฒนธรรมท้องถิ่นที่หลากหลาย ทั้งไทย จีนและมุสลิม ซึ่งได้รับการผสมผสานกันอย่างลงตัวมาหลายร้อยปี จึงมีการเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวเมืองเก่าสงขลาอีกด้วย







