ศาลตัดสินประหารชีวิต'แต๋ม'ฆ่าน้องเพลง

ศาลชั้นต้นตัดสินประหารชีวิตเพื่อนบ้านคดีฆ่าอำพรางโหด"น้องเพลง"ขณะที่พ่อและแม่ยิ้มทั้งน้ำตาขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและกำลังใจจากสังคม
ศาลจังหวัดตรัง ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นจังหวัดตรัง ได้ออกนั่งบัลลังก์ที่ 7 เพื่ออ่านคำพิพากษาคดีที่ จ.177/2557 ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2557 ที่อัยการจังหวัดตรัง กับมารดาของน้องเพลง เด็กหญิงวัย 11 ขวบ รวมเป็นโจทย์ยื่นฟ้องนายประถมพงษ์ หมื่นบาน หรือแต๋ม อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นญาติห่างๆ และเพื่อนบ้านตกเป็นผู้ต้องหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและบิดบังอำพรางซ่อนเร้นศพ โดยใช้เวลาอ่านคำพิพากษาประมาณ 30 นาทีเท่านั้น
ทั้งนี้ ศาลได้ใช้ดุลยพินิจพิจารณาจากพยานหลักฐานต่างๆ เช่น พยานบุคคลซึ่งเป็นเด็กหญิงวัย 8 ขวบ บุตรสาวของของผู้ต้องหา รวมทั้งเด็กชายเพื่อนเล่น และเพื่อนบ้านที่น้องเพลงเดินผ่านหน้าบ้านไปที่บ้านผู้ต้องหาก่อนที่จะหายตัวไป พยานเพื่อนบ้านที่ยืนยันคำพูดของเด็กหญิง ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้ต้องหา รวมทั้งนายตำรวจสัญญาบัตร ผู้รับผิดชอบงานสอบสวนสืบสวนคดีนี้ และนักจิตวิทยา ที่ยืนยันผลจากการสอบปากคำของบุตรสาวผู้ต้องหาตรงกันว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุหลังจากน้องเพลง นั่งวาดภาพระบายสีอยู่ที่บ้าน และเดินออกจากบ้านไปหาบุตรสาวผู้ต้องหา เพื่อเอาแผ่นซีดีที่บุตรสาวผู้ต้องหาขอยืมไป และเกิดทะเลาะแย่งแผ่นซีดีกับบุตรสาวผู้ต้องหา จึงถูกนายประถมพงษ์ โมโหทุบน้องเพลงเข้าที่บริเวณศีรษะด้านขวา จากนั้นน้องเพลง ก็ล้มลงนอนสลบ
โดยศาลได้เชื่อมโยงคำให้การของทั้งสองฝ่าย รวมทั้งข้อมูลจากนิติวิทยาศาสตร์ และพิสูจน์หลักฐานที่พบรอยเลือดเป็นทางยาวในบ้าน เก้าอี้โยก รวมทั้งบริเวณหลังบ้าน แม้ผู้ต้องหาและคนในครอบครัวจะช่วยกันล้างทำความสะอาดคราบเลือดทั้งหมดออกแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ใช้สารเคมีตรวจสแกนพบรอยเลือดจำนวนมากดังกล่าว แม้จะไม่สามารถตรวจพิสูจน์ได้ว่า ดีเอ็นเอ ตรงกับน้องเพลงก็ตาม
รวมทั้งรอยครูดบริเวณแผ่นหลังของผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์และพิสูจน์หลักฐานระบุว่า เกิดจากรอยครูดกับผนังท่อซีเมนต์ ไม่ใช่รอยเกาขณะคัน จากพยานหลักฐานเชื่อมโยงทั้งหมด ทำให้ศาลเชื่อว่านายประถมพงษ์ เป็นผู้ต้องหาในคดีนี้จริง จึงพิพากษาตัดสินตามความผิด คือ ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 ศาลพิพากษาลงโทษประหารชีวิต และข้อหาปิดบังการตาย และเหตุแห่งการตาย ซ่อนเร้นทำลายศพ ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกตลอดชีวิต และให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทย์ร่วม (นางพนมวรรณ) จำนวน 840,000 บาท
ทั้งนี้ หลังจากฟังคำพิพากษาแล้ว พ่อของน้องเพลง กล่าวทั้งน้ำตาว่า ดีใจเป็นอย่างมากที่ศาลให้ความเป็นธรรมกับครอบครัว ซึ่งหากผู้ต้องหายื่นอุทธรณ์ทางครอบครัวก็จะให้ทนายยื่นแก้คำอุทธรณ์อย่างแน่นอน
เช่นเดียวกับมารดาของน้องเพลง ก็กล่าวทั้งน้ำตาว่า ดีใจที่ความยุติธรรมมีจริง ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ขอบคุณเพื่อนๆ และสังคมที่ให้กำลังจนทำให้มีพลังยืนต่อสู้มาได้จนถึงทุกวันนี้ และหลังจากนี้ก็เชื่อว่าคนร้ายจะต้องได้รับการถูกลงโทษอย่างแน่นอน
ขณะที่นายสุทธิชัย หมื่นบาน อายุ 44 ปี พี่ชายนายประถมพงษ์ กล่าวว่า หลังจากนี้ก็จะปรึกษากับครอบครัวและทนายว่าจะทำอย่างไรต่อไป ซึ่งอาจจะทำการยื่นอุทธรณาภายใน 30 วันหรือไม่ ก็ต้องปรึกษากันก่อน
สำหรับน้องเพลง หายตัวออกไปจากบ้านพักเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2557 ญาติๆและเพื่อนบ้านได้ออกติดตามหาตัวแต่ไม่พบ จนกระทั่งวันที่ 12 พฤษภาคม หลังหายตัวไปจากบ้านเพียงเพียง 3 วัน ก็มีคนไปพบถูกคนร้ายอุ้มฆ่าอย่างโหดเหี้ยมและนำศพไปทิ้งอำพรางคดีไว้ในท่อระบายน้ำใต้ถนน ห่างจากบ้านพักไปประมาณ 1 กม. จนกระทั่งศาลได้ออกหมายจับนายประถมพงษ์ หรือแต๋ม ซึ่งเป็นญาติห่างๆ และเป็ฯเพื่อนบ้าน
คดีนี้ถือว่าเป็นคดีสะเทือนขวัญและอยู่ในความสนใจของประชาชนและสังคมเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่เกิดเหตุในปี 2557 ที่ผ่านมา เพราะผู้ตายเป็นเด็กหญิง สังคมต่างก็เฝ้าติดตามสอบถามถึงความคืบหน้าของคดีจากครอบครัวและสื่อมวลชนตลอดเวลา ทั้งนี้ พบว่าศาลได้นัดครอบครัวซึ่งเป็นโจทย์ร่วมกับอัยการและพยานฝ่ายจำเลยสืบพยานติดต่อกันมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม รวมประมาณ 2 เดือน โดยไม่หยุดพัก โดยสืบพยานฝายโจทย์ทั้งหมดประมาณ 15 ปาก ประกอบด้วย นายตำรวจ 3 นาย พยานบุคคล เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน นักจิตวิทยา รวมทั้ง รศ.นพ.สุวิทย์ เรืองกิตติสกุล หัวหน้านิติเวชศาสตร์และพิษวิทยา ภาควิชาพยาธิ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลสงขลานรินทร์ ซึ่งเป็นผู้ผ่าพิสูจน์ศพของน้องเพลงขณะนั้น พยานฝ่ายจำเลยประมาณ 5 ปาก และในที่สุดศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาในวันนี้







