ปมรุมฆ่าโหดเหยื่อวัย19 แค้นฝังลึกระหว่าง 'ชุกโดน-เตาปูน'

ปมรุมฆ่าโหดเหยื่อวัย19 แค้นฝังลึกระหว่าง 'ชุกโดน-เตาปูน'

ผู้กำกับฯเมืองกาญจนบุรี เผยปมรุมฆ่าโหดเหยื่อวัย19 แค้นฝังลึกระหว่าง "ชุกโดน-เตาปูน" ไล่ตีกันตั้งแต่รุ่นพ่อ

ความคืบหน้ากรณีกลุ่มคนร้ายวัยรุ่นจำนวน 6 คน รุมทำร้ายวัยรุ่ยอายุ 19 ปี อย่างรุนแรง จนกระทั่งเหยื่อเสียชีวิต บริเวณหน้าสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในเมืองกาญจนบุรี ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุได้ 2 คนคือนายไพศาล จันเมธากุลวัฒน์ อายุ 20 ปี และนายติณห์ เทวกุล อายุ 20 ปี

ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา นายพงศ์วิทย์ เทพกาวีระ หรือ “วิท” อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งก็ได้เดินทางมาพร้อมญาติเพื่อเข้ามอบตัวกับพล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รอง ผบช.ภ.7

ผู้ต้องหาคนที่เข้ามอบตัวคนล่าสุด ให้การรับสารภาพยอมรับว่า ไม่เคยมีปัญหาส่วนตัวกับนายกฤษดาหรือเอิร์ต ผู้ตายมาก่อน พร้อมอ้างว่าทีพวกตนถูกทำร้ายเด็กเตาปูนก็เหมารวมว่าเป็นเด็กชุกโดนเหมือนกัน และเมื่อหลายปีก่อนเด็กเตาปูนก็เคยใช้อาวุธปืนไล่ยิงเด็กชุกโดนไม่สนใจว่าเป็นใคร โดยเหมารวมทั้งหมดเช่นกัน

ส่วนคดีนี้้ยังมีผู้ต้องหาหลบหนีอยู่อีก 3 ราย ประกอบด้วย1.นายนิตินัย หรือมอส วัชรานุทัศน์ อายุ 25 ปี หมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ มจ.854/2558 ลงวันที่ 6 ธ.ค.58 2.นายปริญญ์ ปิ่นโรจน์ อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ มจ.485/2558 ลงวันที่ 6 ธ.ค.2558 และ 3.นายชัยอนุวัต หรือต้น รอดภัย อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ มจ.486/2558 ลงวันที่ 6 ธ.ค.2558 โดยหมายศาลมีอายุความ 20 ปี

สำหรับเรื่องความบาดหมางระหว่างเด็กเตาปูนกับเด็กชุกโดนนั้น ทางพ.ต.อ.พิศุทธิ์ ศุกระศร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี บอกว่า กลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่มีอยู่ 2 กลุ่มใหญ่ คือกลุ่มชุกโดนและกลุ่มเตาปูน ซึ่ง 2 กลุ่มนี้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อมานานกว่า 20 ปี จนตกมาถึงรุ่นลูกในปัจจุบัน ซึ่งแก๊งนี้มีสามชิกในกลุ่มไม่ถึง 10 คน แต่จะมีหัวโจกที่มีพฤติกรรมไม่ดีอยู่ไม่เกิน 5 คนในแต่ละกลุ่ม ซึ่งกลุ่มชุกโดนจะพัวพันกับการค้ายาเสพติด ทำให้มีเงินสามารถไปซื้อรถและแต่งรถ รวมถึงไปเที่ยวเตร่ ส่วนกลุ่มเตาปูนจะมีพฤติกรรมไม่ดีทั่วไปแต่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และสองกลุ่มนี้ถ้าเปรียบเทียบก็เหมือนกับกลุ่ม 2โรงเรียนช่างกลดัง ที่เจอหน้ากันไม่ได้ต้องมีเรื่องกันทุกครั้ง แต่กลุ่มพวกนี้ก็เป็นเด็กวัยรุ่นธรรมดาทั่วไปที่ไม่มีงานทำ กลางวันนอนกลางคืนมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ครอบครัวมีปัญหาเลิกรา จึงทำให้เด็กมีปัญหาเมื่อเติบโตขึ้น

จากการตรวจสอบประวัติ 2 ใน 6 คนร้าย พบว่านายพงษ์วิทย์ เทพกาวีระ มีประวัติเคยค้ายาเสพติดในพื้นที่เมื่อปี 2555 อีกทั้ง เคยก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงคู่อริเสียชีวิต จนถูกดำเนินคดีในข้อหาฆ่าคนตาย และนำตัวไปคุมขังที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กจังหวัดกาญจนบุรี เป็นเวลากว่า 1 ปี โดยเพิ่งพ้นโทษออกมาได้ไม่นาน

ส่วนนายนิตินัย วัชรานุทัศน์ มีภรรยา แต่ได้เลิกรากันไปแล้ว โดยมีลูกอายุ 1 ปีเศษ โดยเมื่อประมาณปีที่ผ่านมาเพื่อนสาวคนสนิทของนายนิตินัยถูกกลุ่มคู่อริใช้ปืนยิงได้รับบาดเจ็บ จึงทำให้นายนิตินัยโกรธแค้นจึงได้ไปแก้แค้นกลุ่มคู่อริ นอกจานี้ยังเคยไปก่อเหตุทำร้ายร่างกายด้วยการใช้อาวุธมีปาดคอคู่อริเสียชีวิตที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ถนนริมน้ำ และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ในภายหลัง แต่ขณะนั้นได้ประกันตัวออกมาในชั้นศาล และอยู่ระหว่างหนีศาล