สธ.อุบุลฯเตือนกินเห็ดพิษตายแล้ว4 เจ็บ183

สาธารณสุขอุบุลฯ เตือนปชช. หลังมีผู้เสียชีวิตจากกินเห็ดพิษแล้ว4ราย ป่วยอีก183ราย
นายแพทย์สุรพร ลอยหา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2558 ถึงวันที่ 27 สิงหาคม 2558 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี ได้รับรายงานผู้ป่วยจากการรับประทานเห็ดพิษ จำนวนทั้งสิ้น 183 ราย มีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิต 4 ราย สถานการณ์กินเห็ดพิษตาย ที่อ.ศรีเมืองใหม่ 1 ราย อ.นาจะหลวย 1 ราย อ.สว่างวีระวงศ 1 ราย
และล่าสุดอ.ตระการพืชผล 1 ราย ส่วนใหญเป็นผู้สูงอายุ 3 ราย เด็ก 15ปี 1ราย ทุกเหตุการณกินเห็ดพิษที่เก็บได้จากป่าและเห็ดพิษมีลักษณะคล้ายเห็ด ที่กินได้โดยล่าสุดผู้ป่วยเสียชีวิตจากการกินแกงเห็ดถ่านและเห็ดข้าวก่ำ ผู้เสียชีวิตอยู่อ.ตระการพืชผล จ.อุบล เก็บเห็ดพิษลักษณะคล้ายเห็ดถ่านและเห็ดข้าวก่ำ จากป่าชุมชนในหมูบ้าน นำมาทำแกงเห็ดมีผู้ร่วมรับประทาน 3 คน คือผู้เสียชีวิตและบุตรชาย 2 คน ทั้งสามมีอาการอาเจียน ถ่ายเหลว ปัจจุบันบุตรสาวและบุตรชายหายเป็นปกติแล้ว
ส่วนเห็ดพบว่าเห็ดป่า ในภาคอีสานที่เป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้บ่อยได้แก่ เห็ดกลุ่มอะแมนนิต้า หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าเห็ดระโงกหิน เห็ดไข่ห่าน เห็ดไข่เหลือง เห็ดระงาก เห็ดขี้ควาย ขี้ไก่เดือน เห็ดไข่ตายซาก แม้ปรุงอาหารมีรสอร่อย แต่เป็นพิษร้ายแรงมาก พิษของเห็ดเหล่านี้เป็นพิษที่ไม่สามารถละลายในน้ำและไม่สลายในความร้อน ดังนั้นเมื่อรับประทานเห็ดชนิดนี้เข้าไปจะเป็นการรับพิษโดยตรง หลังจากรับประทานไปภายใน 6–12 ชั่วโมง จะทำให้มีอาการ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ต่อจากนั้นอาการจะทุเลาลงระยะหนึ่ง และจะพัฒนาไปสู่การทำลายตับและอวัยวะอื่น ๆ อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ภายใน 6–12 วัน
จึงขอเตือนประชาชนขอให้ระมัดระวังในการเลือกรับประทานเห็ด ถ้าไม่แน่ใจว่ามีพิษหรือไม่ หรือเป็นเห็ดที่ไม่เคยรับประทาน ก็ไม่ควรนำมาปรุงอาหาร และหากต้องการนำเห็ดมาประกอบอาหารควรปฏิบัติดังนี้ คือ ควรรับประทานแต่พอควร อย่ารับประทานจนอิ่มมากเกินไป เพราะเห็ดเป็นอาหารที่ย่อยยาก อาจจะทำให้ผู้มีระบบย่อยอาหารไม่ดีเกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ อย่ารับประทานอาหารที่ปรุงขึ้นสุก ๆ ดิบ หรือเห็ดดิบดอง เพราะเห็ดบางชนิดยังคงมีพิษอย่างอ่อนเหลืออยู่ เมื่อรับประทานหลายครั้งก็สะสมพิษมากขึ้น และเป็นพิษร้ายแรงถึงกับเสียชีวิตได้ในภายหลัง ผู้ที่รู้ตัวเองว่าเป็นโรคภูมิแพ้เกี่ยวกับเห็ดบางชนิด หรือกับเห็ดทั้งหมด ซึ่งถ้ารับประทานเห็ดเข้าไปแล้ว จะทำให้เกิดอาการเบื่อเมา หรืออาหารเป็นพิษ จึงควรระมัดระวัง รับประทานเฉพาะเห็ดที่รับประทานได้โดยไม่แพ้ หรือหลีกเลี่ยงจากการรับประทานเห็ด อย่ารับประทานเห็ดพร้อมกับดื่มสุรา เพราะเห็ดบางชนิดจะเกิดพิษทันที ถ้าหากดื่มสุรา เนื่องจากสุราจะเป็นตัวช่วยให้พิษกระจายได้รวดเร็ว
สำหรับการช่วยเหลือผู้ป่วยเบื้องต้น หากรับประทานเห็ดแล้วมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสียให้รีบทำให้ผู้ป่วยอาเจียนออกมาให้หมด ด้วยการล้วงคอหรือกรอกไข่ขาวดิบ ไม่ควรซื้อยากินเองหรือรักษาแบบพื้นบ้าน แล้วรีบส่งพบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติการรับประทานเห็ดทั้งชนิดและประมาณโดยละเอียด พร้อมนำตัวอย่างเห็ดมาให้แพทย์ดูด้วย







