'อรรถพล' กู้ภัยจิ๋ว แต่หัวใจใหญ่

กลายเป็นภาพที่ชินตาของชาว จ.กาฬสินธุ์ ในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กู้ภัย“เมตตาธรรม”องค์กรสาธารณะภายใต้การดำเนินงานของสมาคมเมตตาธรรมทิพยสถาน ศาลเจ้ากวนอู เต็กก่า จีโหงวเกาะ รูปลักษณ์ใหม่แต่คนทำงานกู้ชีพ-กู้ภัย หน้าเดิม ที่เสียสละทำงานมานานหลายสิบปีสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น

แต่สิ่งที่ชาวกาฬสินธุ์ เกิดทั้งข้อกังขาและความศรัทธามาพร้อมกัน ก็ด้วยเพราะองค์กรนี้ได้บ่มเพาะเด็กน้อยคนหนึ่งในเครือญาติกู้ภัยมานานกว่า 10 ปี เด็กตัวเล็ก ๆ ที่ไม่หวั่นเกรงภยันตรายใด ๆ ในการปฏิบัติหน้าที่ ตามภารกิจต่าง ๆ แม้หลายฝ่ายจะทักท้วงถึงวุฒิภาวะ การตัดสินใจกับข้อกังขาว่าน้องเขาเด็กเกินไปหรือไม่กับภารกิจหน้าที่ คำตอบที่ได้ทุกครั้ง คือ “ผมว่าผมทำได้ และทำได้ดีครับ”

บอล หรือ ด.ช.อรรถพล เทือกกอง ปัจจุบันอายุ 13 ปี เพิ่งจบระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และกำลังเรียนต่อที่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนอนุกูลนารี เป็นต้นกล้าและเป็นต้นแบบของเด็กไทยรุ่นใหม่ ที่ทั้งหัวใจมอบคำว่า ให้ เสียสละ มาโดยตลอด “บอล” อาศัยอยู่กับนางอรุณรัตน์ เทือกกอง ผู้เป็นแม่ โดยมีตาและยายให้การสนับสนุนการเสียสละตนเพื่อสังคม จนเป็นกิจวัตรประจำวันไม่มีวันไหนที่จะไม่เห็นบอลออกเหตุกับทีมกู้ภัย“เมตตาธรรม”สักวันเดียว

“ภายหลังจากที่มีผู้ใหญ่ และส่วนงานบางส่วนทักท้วงว่าอาจจะเด็กเกินไปไหมสำหรับหน้าที่กู้ภัย เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ตอนนั้นน่าจะอายุ 9-10 ขวบ ทำให้แม่ก็วางกรอบเข้มเอาไว้พอสมควร เพราะไม่อยากให้องค์กรต้องมาเดือดร้อนเพราะเรา เวลานั้นก็นึกเถียงเพราะคิดว่ามีความสามารถ มีความรู้ ด้านกู้ชีพกู้ภัยมากพอตัว ต้องเข้าใจนะว่าอยู่กับครอบครัวกู้ภัยมาตั้งแต่เกิด ไม่ใช่แค่ชอบ แต่เป็นความรัก ความผูกพัน มันยากมากที่จะอธิบายให้ใคร ๆ ได้ฟัง เพราะตาจง หรือนายบรรจง ถิตย์หนองแวง เป็นหัวหน้าทีมกู้ภัยฯ เรียนรู้และได้รับคำสอนมาโดยตลอด รู้ว่าอะไรเหมาะสม รู้ว่าขั้นตอนพิธีการคืออะไร เพราะทำมาตั้งแต่เด็ก เรียกว่าจำความได้ก็อยู่ในมูลนิธิ กินนอนที่หน่วยกู้ภัยแล้ว เห็นเลือด คนเจ็บ คนตาย และศพในสภาพต่าง ๆ ก็เห็นมาหมดแล้ว ไม่รังเกียจไม่กลัว 

"ดีใจมากกว่าที่จะได้ช่วยพวกเขาทั้งที่มีชีวิตและร่างอันไร้วิญญาณ และต้องบอกว่าที่นี่ไม่ทำงานกู้ชีพกู้ภัยในเชิงพาณิชย์นะครับ แต่ทำกันด้วยใจจริง ๆ คนที่นี่ไม่มีเงินเดือน เสียสละตนเอง ทำเพื่อส่วนรวมจริง ๆ อย่างชุดที่ใส่ ๆ กัน แรก ๆ ก็ขอเงินแม่ตัดใส่เอง ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว ได้สวมชุดเดียวกันกับทีมจริงๆ ถือว่าเป็นกู้ภัยเต็มตัวภูมิใจมาก”อรรถพล กล่าว

ด.ช.อรรถพล เทือกกอง เล่าว่า โกรธแม่มากทุก ๆ ครั้งที่ถูกห้ามไม่ให้ไปเข้าเวรกลางคืนที่หน่วย มีความรู้สึกว่าถูกกีดกัน และเวลาออกเหตุที่อันตราย ๆ ตากับยายก็จะไม่ให้ไปด้วย บอกไม่ถูกว่าความรู้สึกเป็นยังไง แต่อยากไปช่วย ช่วยทั้งคนประสบเหตุและช่วยทีมกู้ชีพของเราเอง อย่างน้อย ๆ ก็น่าจะให้ไปดู ไปหยิบจับอะไรก็ได้ขอให้ได้ไป เวลานั้นความเป็นเด็กทำให้น้อยใจบางครั้งถึงแอบไปร้องไห้หลังบ้านเลย แต่ในวันนี้ถือว่าได้พิสูจน์ตัวเองมาพอสมควร ความรู้ความสามารถไม่ต้องพูดถึง ถ้าเสี่ยงมากพี่ ๆ ที่หน่วยก็จะให้เป็นคนเตรียมของบ้างช่วยหยิบช่วยจับ แต่ตอนนี้น่าจะเต็มตัวแล้ว 

“หลายคนให้การยอมรับเพราะรู้ว่าทำอะไรได้บ้าง แต่ช่วงนี้อาจจะลำบากอยู่อย่างเพราะต้องแบ่งเวลาเรียนให้ลงตัว โดยเฉพาะช่วงเปิดเทอมที่จะต้องใช้เวลาทุกนาทีให้มีค่า ทั้งเรื่องเรียน เรื่องงานที่บ้าน และงานอาสาสมัครกู้ภัย ชีวิตวนเวียนอยู่แค่นี้ในแต่ละวัน ไม่ได้เที่ยวเตร่เหมือนวัยรุ่นทั่วไป เพราะไม่มีเวลาเหลือ แต่มีความสุขมากๆ นะที่ได้ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์”น้องบอลบอก 

และว่า  "ในแต่ละวันตอนเช้าไปโรงเรียน พอเลิกเรียนมาทำงานบ้านเสร็จก็จะขนสมุดหนังสือไปที่“หน่วยเมตตาธรรม”ไปนั่งเขียนการบ้าน สลับกับการฟังวิทยุ รอรับแจ้งเหตุ เรียนพิเศษก็ที่นี่เพราะมีพี่อาสาช่วยสอนการบ้านให้ อยู่กันหลายคนคนนี้เก่งวิชานี้ก็ช่วยสอนๆ กัน เรียนพิเศษของผมจึงไม่ต้องเปลืองเงินแม่มาก เพราะมาเรียนที่นี่ รุ่นพี่ที่เป็นเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยก็เรียนเก่งหลายคนนะ แต่ทุก ๆ ครั้งที่ได้รับแจ้งเหตุ ทุกอย่างจะหยุดไว้เลยกระโดดขึ้นรถมุ่งหน้าไปช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทันที เป็นวิถีของชาวกู้ภัยในทุกๆ วัน อย่างล่าสุด ที่ จ.มหาสารคามประสบเหตุวาตภัย ทางสมาคมฯก็เดินทางไปช่วยเหลือ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่ จ.มหาสารคาม คนเจ็บคนตาย บอกเลยนะว่ารับได้หมดทุกๆ เหตุ ไปในทันที

มันมีความประทับใจมาก ๆ กับกู้ภัยเมตตาธรรม“สมาคมเมตตาธรรมทิพยสถาน ศาลเจ้ากวนอู เต็กก่า จีโหงวเกาะ”เรามีกฎไว้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการแต่งตัวที่จะต้องแต่งกายอย่างสุภาพ ทุกๆ ครั้งที่ออกเหตุ การขับขี่รถ การเปิดไซเรนหรือสัญญาณต่างๆ ต้องมีระเบียบวินัย มีมารยาทมากๆ เป็นเรื่องที่ได้เรียนรู้จากการเป็นอาสากู้ภัย ทั้งตัวผมและทีมงานผ่านการอบรมมาทุกระดับ ทั้งการกู้ชีพ การกู้ภัย การผจญเพลิง เป็นต้น เรื่องราวที่ประทับใจคือการระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบเหตุแผ่นดินไหวที่เนปาล โดยทีมอาสากู้ภัยเมตตาธรรม ได้เดินทางไปตามจุดชุมชนต่าง ๆ เพื่อขอรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา12 วันได้เงินมาแสนกว่าบาท และนำไปมอบให้ยูนิเซฟ เพื่อดำเนินการให้การช่วยเหลือเพื่อนชาวโลกที่ประสบภัยตามเจตนารมณ์ต่อไป"น้องบอล เล่า 

เขายังบอกอีกว่า ไม่คิดว่าจะทำได้ถึงขนาดนี้ ถือว่าสุดยอดมาก เวลาช่วงของวัยรุ่นตอนนี้มอบให้“กู้ภัยเมตตาธรรม”หมดแล้ว คิดว่าจะมุ่งมั่นทำต่อไป ไม่กำหนดว่าจะหยุดวันไหน เพราะที่นี่คือครอบครัว 

โดยเขาเองได้ยึดคติธรรมประจำใจว่า “การได้ทำดีเพื่อสังคม เสียสละตนเองแม้ว่าจะเหนื่อยยากแค่ไหนก็มีความสุขใจที่ได้ทำ กายอาจจะลำบากบ้าง แต่หัวใจสู้เต็มร้อย กับภารกิจหน้าที่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า และจะขอทำหน้าที่นี้ต่อไปเรื่อยๆ แต่สิ่งที่จะบอกและย้ำให้รู้ว่า ถึงจะตัวเล็ก แต่เชื่อเถิดว่างานกู้ชีพกู้ภัยที่อยู่ในสายเลือดน่ะ ผมทำได้ดีนะครับ”ด.ช.อรรถพล กล่าว