รวบสองพี่น้องสะกดรอย เข้าลักทรัพย์บ้านเขยฝรั่ง

รวบสองพี่น้องสะกดรอย เข้าลักทรัพย์บ้านเขยฝรั่ง

รวบสองพี่น้องสะกดรอยเขยฝรั่งที่สนามบินอุดรธานี ขับรถตามจนถึงบ้านฉวยโอกาสเข้าลักทรัพย์บ้านเขยฝรั่ง รับสารภาพทำมาแล้ว11ครั้ง ได้เงินกว่า10ล้าน

ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค4พร้อมด้วย พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค4 แถลงข่าวจับกุมนายประดิษฐ์ ชัยนอก อายุ 28ปี และนายประสพโชค ชัยนอก อายุ26ปี สองพี่น้องชาวตำบลโนนทองหลาง อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา พร้อมของกลางทรัพย์สินพระเครื่อง เงินสกุลต่างประเทศ ทองรูปพรรณ สมุดบัญชีเงินฝาก กระเป๋าสะพาย เครื่องมือไขควงอุปกรณ์งัดแงะ รวมทั้งรถยนต์ป้ายแดงที่ใช่ก่อเหตุ

พล.ต.ต.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค4 กล่าวว่า พฤติการณ์ของคนร้ายจะไปหาเหยื่อที่ท่าอากาศยานอุดรธานี โดยจะเลือกเหยื่อที่เป็นชาวต่างชาติได้ภรรยาคนไทยซึ่งชาวต่างชาติมักจะมีทรัพย์สินมีค่าติดตัวมา จากนั้นจะสะกดรอยตามไปจนถึงบ้าน รอจังหวะที่คนในบ้านนอนหลับสนิท ซึ่งส่วนใหญ่จะมีการกินข้าวเลี้ยงฉลองกันก่อนประกอบกับเพลียจากการเดินทาง ทำให้นอนหลับสนิทเมื่อสบโอกาสทั้งคู่ก็จะย่องเข้าไปในบ้าน ลักทรัพย์ทันที 

ทั้ง 2 คนสารภาพว่า ได้ลงมือก่อเหตุมาแล้ว 11 ครั้ง ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ รวมทั้งที่จังหวัดนครราชสีมาด้วย รวมมูลค่าทรัพย์ที่ได้ไปกว่า 10 ล้าน บาท ล่าสุดก่อเหตุเมื่อ วันที่ 8 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา ที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ 12 บ้านเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี ได้ทรัพย์มูลค่ากว่า 8 แสนบาท จนกระทั่งถูกตำรวจติดตามกุมจับตัวได้ นอกจากนี้ยังพบว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการในแก๊งนี้อีก 6 คน ซึ่งจะได้ออกหมายจับในวันนี้ และจะต้องเร่งติดตามขยายผลเพื่อไม่ให้เกิดการตั้งแก๊งใหญ่ เพราะนอกจากนี้ยังมีผู้ร่วมขบวนการในการรับซื้อ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะขยายผลจับกุมมาดำเนินคดี 

การก่อเหตุของทั้งคู่และเพื่อนร่วมแก๊ง นอกจากจะเลือกเหยื่อและสะกดรอยที่ที่สนามบินแล้ว ยังมีการตระเวนเลือกบ้านที่มีลักษณะว่าเป็นบ้านเขยฝรั่ง โดยหน้าบ้านจะเขียนเป็นภาษาอังกฤษ หรือภาษาต่างประเทศ ลักษณะใหญ่โตซึ่งน่าจะมีทรัพย์สิน นอกจากนี้พฤติกรรมการก่อเหตุของแก๊งนี้ได้สร้างความเข้าใจผิดเกิดทะเลาะเบาะแว้งกันในหลายครอบครัว บางคนหาว่าพ่อ หรือพี่สาว เป็นคนขโมย เนื่องจากการเข้าก่อเหตุของแก๊งนี้ไม่ค่อยทิ้งร่องรอย จะสวมถุงมือตลอดเวลา

ทั้งคู่สารภาพอีกว่า ตลอดที่เริ่มทำมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ทรัพย์สินที่ได้ทั้งของมีค่าหลายชิ้น เช่นนาฬิกา ได้นำไปขายร้านที่รับซื้อโดยเฉพาะบางเรือนเป็นนาฬิการุ่นจำกัด ราคาเรือนครึ่งล้าน เงินสกุลต่างประเทศก็นำไปแลกกับธนาคาร เมื่อได้เงินมาก็นำมาใช้จ่ายในครอบครัว นำเงินมาเลี้ยงฉลองอย่างฟุ่มเฟือย นำไปเล่นการพนัน ซื้อรถยนต์ป้ายแดง นอกจากนี้ยังนำไปเช่าซื้อพระเครื่องอีกจำนวนมาก ได้ทรัพย์สินมากกว่า 10 ล้านบาท