เทศบาลวังสะพุง ใช้หลักทศพิธฯเสริมสร้างธรรมาภิบาล

 นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองวังสะพุง เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเสริมสร้างธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการชุมชน”การนำหลักทศพิธราชธรรมส่งเสริมการบริหารจัดการชุมชน” มีกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมประชุมจำนวน 70 คน 

ในการจัดการตามโครงการครั้งนี้ ดร.สุจิต บุญบงการ รองประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ คนที่ 3 ปาฐกถาพิเศษหัวข้อ แนวคิดในการเสริมสร้างธรรมาภิบาล, มีพระครูศิริวัฒนาธร เจาคณะอำเภอวังสะพุง แสดงสัมโทมทนียกถา หัวข้อ การเสริมสร้างความสุขด้วยการสีส่วนร่วม มีศาสตราจารย์ ดร.สุจิตร บุญบงการ ปาฐกถาพิเศษหัวข้อแนวติดในการเสริมสร้างธรรมาภิบาล ,รศ.ดร.ภาสกร ดอกจันทร์ มมร.วิทยาเขตศรีล้านช้าง จ.เลย บรรยายเรื่อง หลักทศพิธราชธรรมส่งเสริมการบริหารจัดการชุมชนแบบการมีส่วนร่วมและ นายยุทธบุญเกษบรรยายในหัวข้อ ฐานเรียนรู้การสำรวจชุมชนตนเองด้วยหลักทศพิธราชธรรม 5 ฐาน

นายกฤษณะเดช  โสสุทธิ ประธานคณะทำงานเครือข่ายภาคประชาสังคมจังหวัดเลย กล่าวว่า ตามที่เทศบาลเมืองวังสะพุง จังหวัดเลย นำร่องโครงการชุมชนปลอดขยะและปลอดถังขยะจนประสพผลสำเร็จ ยังมีโครงกรนำร่องจังหวัดเลยในโครงการเสริมสร้างธรรมาภิบาลในการบริหารชุมชนโดยใช้หลักทศพิธราชธรรมทั้งนี้การบริหารงานชุมชนที่ดีนั้นจำเป็นต้องสร้างความมั่นคงในชุมชน นำไปสู่การส่งเสริมความมั่นคงของประชาธิปไตย ทั้งผู้นำชุมชนตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนให้มีทรัพยากรใช้เป็นไปอย่างมีประสิมิภาพโดยมีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้และมีความผิดชอบ ซื่อสัตย์ ยึดหลักนิติธรรม คุณธรรม เท่าเทียมกันและตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนซึ่งชุมชนหลายแห่งก็ได้เริ่มตระหนักถึงความสามารถของตนเอง ที่จะมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาภายในชุมชนรวมทั้งยังได้เริ่มเร่วเห็นถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมในการจัดการตนเอง

โดยสมาคมส่งเสริมจริยธรรมและธรรมาภิบาลไทยได้ดำเนินโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการด้วยการมีส่วนรวมของประชาชน ใน 5 พื้นที่ ประกอบด้วย ต.ดงสิงห์ อ.จังหาร จ. ร้อยเอ็ด บ้านหนองกลวงดง ต.ศิลาลอย กิ่ง.อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ,ต.เหนือเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด , บ้านดอกแดง .จ.เชียงใหม่และ ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย หลังจากดำเนินการทั้ง 5 พื้นที่ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า หากต้องการให้แนวคิดในการส่งเสริมการนำหลักธรรมาภิบาลและหลักทศพิธราชธรรมมาใช้ในการบริหารจัดการชุมชนอย่างกว้างขวางขึ้น ดังนั้น ในปีงบประมาณ 2557–2560 คณะทำงานจึงได้ดำเนินโครงการในลักษณะพื้นที่ขยายผลโดยการคัดเลือกจากพื้นที่สนใจและบุคลากรมีความพร้อมในการดำเนินงาน

ดร.สุจิต บุญบงการ รองประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ คนที่ 3 กล่าวว่า ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีความแตกแยกแบบถาวรเป็นปัญหาสังคมเริ่มตั้งแต่สถาบันครอบครัวที่จะไม่คุยกัน มีความคิดเห็นทางการเมืองไม่เหมือนกัน อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยทุกคน รัฐบาลจึงให้มีการแก้ไขปัญหา และรัฐธรรมนูญฉบับนี้เน้นใช้หลักทศพิธราชธรรมหลักธรรมาภิบาลของชุมชนเป็นสำคัญ จึงต้องมีการประชุมในครั้งนี้และต้องการให้นักการเมือง ข้าราชการ คุณธรรมและต้องมีจริยธรรมสำหรับรัฐธรรมนูญนั้นขณะนี้เสร็จแล้วร้อยละ90วันที่4ส.ค.2558ประชุมครั้งสุดท้าย จากนั้น22ส.คง2558ก็ส่งให้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)เพื่อลงมติประมาณไว้ว่า6หรือ7ก.ย.2558หากผ่าน ก็จะทำการลงประชามติว่าจะรับหรือไม่รับรัฐธรรมนูญฉบับนี้