บุกศาลากลาง! ร้องผู้ว่าฯชัยภูมิสั่งย้ายด่วนผอ.ร.ร.

บุกศาลากลาง! ร้องผู้ว่าฯชัยภูมิสั่งย้ายด่วนผอ.ร.ร.

ผู้ปกครอง-เด็กนักเรียน "สุนทรวัฒนา" กว่า60คน ชุมนุมถือป้ายประท้วงหน้าศาลากลางชัยภูมิ ขับไล่ผอ.รร. ชี้บริหารงานล้มเหลว

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 9 มิถุนายน 2558 ได้มีตัวแทนคณะผู้ปกครอง เด็กนักเรียน และอดีตนักเรียนศิษย์เก่า กว่า 60 คนของโรงเรียนสุนทรวัฒนา ซึ่งเป็นโรงเรียนระดับชั้นประถมศึกษาชื่อดังขนาดใหญ่ของจ.ชัยภูมิ มีเด็กนักเรียนมากว่า 1,000-2,000 คนพากันออกมาถือป้ายชุมนุมประท้วงที่หน้าศาลากลาง จ.ชัยภูมิ เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมและยื่นหนังสื่อผ่านไป ถึงนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการ จ.ชัยภูมิ ให้มีการสอบสวนและสั่งย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนคนปัจจุบันออกจากโรงเรียนภายใน 24 ชั่วโมง

หลังจากนั้น ทางผู้ว่าราชการ จ.ชัยภูมิ ได้มอบหมายให้ นายธนิต ภูมิถาวร หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม จ.ชัยภูมิ เชิญตัวแทนคณะผู้ปกครองและเด็กนักเรียนทั้งหมดขึ้นไปบนห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลางจ.ชัยภูมิ เพื่อรับเรื่องและส่งมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้นสังกัดของโรงเรียนแห่งนี้ ที่มี นายบัญญัติ เพ็ญจันทร์ รองผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 1 (รอง.ผอ.สพป.ชัยภูมิ เขต 1 ) เดินทางมารับเรื่องและชี้แจงต่อกลุ่มผู้ชุมนุม


ซึ่งนางประพร นันกลาง ตัวแทนผู้ปกครองรายหนึ่ง กล่าวว่า การที่ต้องพากันเดินทางมาขอความเป็นธรรมต่อผู้ว่าราชการ จ.ชัยภูมิ ครั้งนี้ เพราะเคยยื่นเรื่องร้องเรียน เพื่อให้ย้าย ผอ.รร.รายนี้ออกจากพื้นที่ ให้ทางเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัดไปแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังเงียบ

ซึ่งสุดที่จะทนต่อการบริหารงานของผอ.รายนี้แล้ว เพราะตั้งแต่บุตรหลานมาเรียนที่นี่ ทั้งเรื่องเงินงบประมาณของโรงเรียน ค่าสมุดหนังสือก็ล่าช้า จนทุกวันนี้ลูกยังไม่มีหนังสือเรียน และด้านการดูแลเด็กนักเรียนที่เคยมีเครื่องกรองน้ำบริการไว้ภายในโรงเรียนก็ไม่มีเพียงพอ หลังเครื่องเสียไปก็ไม่เคยซ่อม และเด็กต้องซื้อนำกินเองทุกวันในราคาที่ขายในโรงเรียนก็แพงกว่าขวดละ 8 บาท ซึ่งก็เคยแจ้งผอ.รร.ให้ทราบและรีบปรับปรุงก็ยังไม่มีคิดที่จะปรังปรุงให้ดีขึ้นเลย จึงอยากให้ผอ.รร.รายนี้ย้ายออกไปอยู่ที่อื่นจะดีกว่า ซึ่งเบื้องต้นอยากให้ทางจังหวัดและเขตช่วยย้ายออกไปก่อนโดยด่วน ภายใน 24 ชั่วโมง ก่อนที่จะสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในช่วงนี้ด้วย

ขณะที่อีกด้าน นายเกียรติศักดิ์ ปัดปอภาร ตัวแทนนักเรียนศิษย์เก่าของโรงเรียนดังกล่าว กล่าวว่า ตั้งแต่ตนเองเคยเรียนอยู่ที่นี้ และจบออกไปหลายปีแล้ว เครื่องกรองน้ำที่มีของโรงเรียนเสียมาตั้งนานก็ยังไม่มีการซ่อมเพื่อบริการให้เด็กรุ่นน้องที่มีกว่า 1-2 พันคน จะไปหาน้ำดื่มได้ที่ไหน เพราะบางคนไม่มีเงินมาโรงเรียนมาก จะต้องมาเสียเงินซื้อน้ำกินขวดละ 8 บาทก็ถือว่าแพงมาก ซึ่งได้กลับมาเยี่ยมโรงเรียนและไปเห็นน้องๆนักเรียนที่มาเรียนที่นี่บางรายต้องพากันเข้าไปดื่มน้ำจากก๊อกน้ำในห้องสุขาแทน ซึ่งเห็นภาพแล้วสงสารน้องๆมากที่ปัจจุบันนี้ไม่รู้ว่าโรงเรียนทำอะไรและปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรด้วย

รวมทั้งเรื่องการเสียค่าเล่าเรียนทั้งค่าครูสอนภาษาคนละ 600 บาท ค่าบำรุงแอร์ของโรงเรียนอีกคนละ 200 บาท ไม่รู้หายไปไหน หรือไม่ อย่างไร จนปัจจุบันก็ยังไม่มีครูมาสอน และส่วนเด็กคนที่ไม่ได้เรียนห้องแอร์จำเป็นจะต้องถูกบีบบังคับเสียเงินให้เรื่องนี้ด้วยหรือไม่ แล้วเงินที่เก็บไปหายไปไหนหมด ทำไม่มีนำมาช่วยพัฒนาให้กับนักเรียน


จึงอยากจะขอฝากวิงวอนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าต่อจากนี้อย่าให้ ผอ.ท่านนี้อยู่ที่โรงเรียนนี้อีกเลย เพื่อความเป็นธรรมแก่เด็กนักเรียนตาดำๆ ทุกคนในขณะนี้ ในนามที่ผมเป็นศิษย์เก่าอีกคนที่มาวันนี้เพื่อต้องการออกมาร่วมปกป้องสิทธิทางการศึกษาให้กับน้องๆของผม และอยากให้โรงเรียนที่ผมเคยอยู่ดีขึ้น และอยากเห็นรอยยิ้มของน้องนักเรียนทุกคนต่อจากนี้ไปได้มีความสุขปาดสะจากความมั่วหมองต่อไปได้ดีกว่านี้ด้วย


ด้านนายบัญญัติ เพ็ญจันทร์ รอง.ผอ.สพป.ชัยภูมิ เขต 1 กล่าวว่า หลังรับทราบเรื่องแล้ว ก็จะได้เสนอทาง ผอ.เขต ออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการเข้ามาสืบสวนข้อเท็จจริงในเบื้องต้นก่อน เพื่อจะได้ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และส่วนเรื่องวินัยก็จะต้องว่ากันตามขั้นตอนด้วยต่อไป ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งเบื้องต้นทางผอ.รร.ก็ชี้แจงมาว่าเป็นเรื่องของการเร่งจัดการสอนการเรียนภายในโรงเรียนให้ดีขึ้นอยู่เท่านั้น ส่วนเรื่องที่มีมาเพิ่มเติมทั้งการบริหารใช้เงินอะไรที่ไม่โปร่งใสก็ต้องผ่านคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงให้เสร็จสิ้นก่อนและน่าจะใช้เวลาไม่นานไม่เกิน 1 สัปดาห์จากนี้ไปก็น่าจะให้คำตอบต่อคณะผู้ปกครองและเด็กที่เดินทางมาครั้งนี้ได้อีกครั้ง


จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมจึงพอใจ ในเบื้องต้น จึงพากันสลายตัวกลับในช่วงใกล้เที่ยงที่ผ่านมาวันเดียวกัน และเตรียมที่จะเดินทางกลับมาขอฟังคำตอบจากทุกหน่วยงานที่รับเรื่องวันนี้ไปแล้วใหม่อีกครั้งในไม่เกิน 1 สัปดาห์จากนี้ไปด้วย