เตือนคนไทยแห่จองรถเก๋งไฟฟ้ากัมพูชา

พ.ต.อ.เสกสรร วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผกก.สภ.คลองลึก ร่วมกับ พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ ร.อ.อภินันท์ สงครามชัย ผบ.ร้อย ทพ.1201 ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา(ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 1201 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา) ออกตรวจสอบร้านค้าภายในตลาดโรงเกลือ ว่ามีการเปิดให้จองรถเก๋งไฟฟ้า ยี่ห้ออังกอร์ ที่ผลิตในประเทศกัมพูชา หรือไม่หากพบให้จับกุมมาดำเนินคดีทันที

ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก พ.ต.อ.เสกสรร วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.คลองลึก และ พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ได้รับการร้องเรียนมาจากประชาชนชาวไทยที่เดินทางมาเที่ยวในตลาดโรงเกลือ ซึ่งเป็นตลาดการค้าชายแดนที่ใหญ่ที่สุด และสำคัญของจังหวัดสระแก้ว ว่าช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีสื่อออนไลน์ ทั้งยูทูป เฟสบุ๊ค และไลน์ ได้มีการแชร์ภาพนักธุรกิจกัมพูชา ได้เปิดตัวรถยนต์นั่งชนิดรถเก๋ง 3 ที่นั่ง รูปร่างสวยงามมากสีขาวเปิดประตูรถแบบปีกนกด้วยระบบไฟฟ้า ว่างโชว์ตามท้องถนนในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยอ้างว่า เป็นรถยนต์ที่คนกัมพูชาผลิตขึ้นเป็นครั้งแรก และเป็นรถยนต์ใช้พลังงานขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ชาร์ทแบตเตอรี่ 1 ครั้ง สามารถขับรถได้ใกลถึง 300 กม.และใช้ความเร็วได้ถึง 100-130 กม.ต่อชั่วโมง และมีราคาถูกเพียงคันละประมาณ 90,000 บาท หากเป็นรุ่นท็อปจะมีราคาประมาณ 120,000 บาท(หนึ่งแสนสองหมื่นบาท)ไทย

โดยใช้ชื่อรถว่าอังกอร์ คาร์ ผลิตในประเทศกัมพูชา ซึ่งจากราคาและรูปลักษณ์ที่สวยงามและเป็นรถไฟฟ้า ทำให้นักเลงรถชาวไทยต่างสนใจกันเป็นอย่างมากมีการกดไลท์เพื่อโหลดมาดูกันเป็นจำนวนมาก และจากนั้นเพียงไม่กี่วันได้มีข้อความทางสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป เฟสบุ๊ค และไลน์ ว่า”วางขายแล้วที่ตลาดโรงเกลือ นำเข้ารถยนต์ ป้ายแดงจากเขมร วันที่ 17 ม.ค.58 เขมรผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (รถเก๋ง)ได้เองแล้ว ราคาคันละ 9 หมื่นบาท ตอนนี้เขมร เป็นปลื้มมาก ผลิตรถยนต์อังกอร์ อีวี 2013 ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ชาร์ทแบตแต่ละครั้ง วิ่งได้ 300 กม. ไม่ต้องรอชาร์ทเปลี่ยนแบต แล้ววิ่งต่อไปทันที ออกแบบสวยงาม ประตูยกปีกขึ้นจากด้านข้าง คันละราวกว่า 90,000 บาท ตัวTOP ราคาประมาณ 1.2 แสนบาท Made in Cambodia ANGKOR CAR 100% Khmer: http://youtu.be/NtKCxV0dpGg “ โดยได้มีการแชร์และส่งข้อความต่อๆกันไปทั่วประเทศ

ผกก.สภ.คลองลึก เผยอีกว่า จนกระทั่งตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ ได้มีพรรคพวกและประชาชนจำนวนมากโทรศัพท์มาสอบถาม เพื่อต้องการจะซื้อและจองรถอังกอร์ คาร์ กันเป็นจำนวนมาก จึงได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง และ จนท.ได้ไปตรวจสอบมาแล้วพบว่าในตลาดโรงเกลือ ไม่มีการเปิดจองซื้อรถยนต์อังกอร์ คาร์ แต่อย่างใด แม้แต่พ่อค้า แม่ค้า และนักธุรกิจชาวเขมรในตลาดโรงเกลือ ยังไม่รู้เรื่องและบอกว่า อยากหาซื้อมาขับเหมือนกัน แม้แต่ในกรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา ยังไม่มีขาย มีแต่การโฆษณาทางสื่อออนไลน์ ว่ากัมพูชาสามารถสร้างรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้ออังกอร์ คาร์ ได้แล้วเป็นคันแรก แต่ก็ยังไม่มีใคร หาซื้อมาขับได้เลย

“เรื่องนี้ชาวเขมรคาดว่า เป็นการโฆษณาชวนเชื่อ หรือไม่ก็พวกมิจฉาชีพฉวยโอกาสที่คนไทยอยากได้จึงใช้วิธีการอ้างอิงหลอกลวงว่าสามารถจองรถยนต์อังกอร์ คาร์ ได้ในตลาดโรงเกลือ จึงขอเตือนประชาชนคนไทย อย่าได้หลงเชื่อ ไม่มีรถยนต์ไฟฟ้า ยี่ห้ออังกอร์ คาร์เปิดให้จองหรือมาวางขายใตลาดโรงเกลือ แต่อย่างใด และอย่าได้ยอมโอนเงินเป็นค่าจองรถให้ผู้ใดโดยเด็ดขาดเพราะจะทำให้เสียเงินฟรีๆและไม่ได้เห็นรถอีกด้วย” ผกก.สภ.คลองลึก กล่าว

ทาง ด้าน พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก.ตม.จว.สระแก้ว เปิดเผยว่า หลังจากได้มีประชาชนชาวไทยจำนวนมาก เดินทางมาสอบถาม เพื่อจะหาซื้อและจองรถยนต์อังกอร์ คาร์ ของเขมร ในตลาดโรงเกลือ จึงได้ประสานตรวจสอบไปยัง พ.ต.ท.ตึ๊บ ยาดี รองหัวหน้าด่าน ตม.ปอยเปต ของกัมพูชา ถึงข้อเท็จจริงเรื่องรถยนต์อังกอร์ คาร์ โดย พ.ต.ท.ตึ๊บ ยาดี รองหัวหน้าด่าน ตม.ปอยเปต ของกัมพูชา บอกว่ารถยนต์อังกอร์ คาร์ ที่ประเทศกัมพูชาผลิตขึ้นมาเองนั้นมีจริง เป็นของบริษัทเฮง อภิวัฒน์ จำกัด ตั้งอยู่ในกรุงพนมเปญ ซึ่งได้สร้างรถยนต์ต้นแบบ เป็นรถยนต์เก๋ง 3 ที่นั่ง ใช้ระบบไฟฟ้า ประตูรถเปิดปิดแบบปีกนก และใช้ระบบการแสกนนิ้วมือเปิดประตูรถและสตาร์รถ แต่เป็นเพียงการสร้างขึ้นมาแค่คันเดียว

“ซึ่งทางบริษัทกำลังหาผู้ร่วมทุนมาร่วมลงทุนสร้างโรงงาน ยังไมมีการผลิตออกมาจำหน่าย และราคาจะตกประมาณ 90000 – 100000 ดอลล่าสหรัฐ หรือประมาณ 2-3 ล้านบาทไทย ไม่ใช่แค่ 9 หมื่นถึง 1.2 แสนบาท ดังนั้นทาง ตม.จว.สระแก้ว จึงได้ร่วมกับ ตร.สภ.คลองลึก และ กองร้อยทหารพรานที่ 1201 นำกำลังออกทำการประชาสัมพันธ์ในตลาดโรงเกลือและประกาศเสียงตามสายในตลาดโรงเกลือ เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวหรือชวไทยหลงเชื่อการโฆษณาชวนเชื่อดังกล่าว พร้อมทั้งส่งชุดปฏิบัติการร่วมฯนอกเครื่องแบบออกทำการสืบสวนและหาเบาะแสแหล่งที่มาของโฆษณาหลอกลวงดังกล่าวเนื่องจากเกรงว่า จะเป็นการหลอกลวงคล้ายแชร์ลูกโซ่” รอง ผกก.ตม.จว.สระแก้วกล่าว