หงส์ส่ง 'สเตอร์ริดจ์คู่ราฮีม'

หงส์ส่ง 'สเตอร์ริดจ์คู่ราฮีม'

"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เตรียมส่ง ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ลงยิง "สาลิกาดง" นิวคาสเซิล

 ในเกมมันเดย์ไนท์ คืนนี้ (13 เม.ย.) ด้าน "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ยังฟอร์มเฉียบบุกเฉือนชนะ เบิร์นลีย์ 1-0 อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือพอใจผลงานลูกทีม และยังเชื่อว่าทีมมีโอกาสลุ้นแชมป์


ศึกพรีเมียร์ลีกในคืนวันนี้ (13 เม.ย.) นัดมันเดย์ไนท์ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 6 ที่เตะ 31 นัดมี 54 แต้ม จะเปิดแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิล ทีมอันดับ 13 เตะ 31 นัด มี 35 แต้ม ในเวลา 02.00 น. โดยแนวรับจะไม่มี มามาดู ซาโก เซ็นเตอร์แบ็กที่เจ็บกล้ามเนื้อหลังเข่าจากเกมเอฟเอ คัพ ที่บุกชนะ แบล็คเบิร์น 1-0 เมื่อกลางสัปดาห์ แต่จะได้ เอ็มเร ชาน พ้นโทษแบนกลับมา ซึ่ง ร็อดเจอร์ส จะตัดสินใจอีกครั้งว่าจะเล่นกองหลัง 4 คนเหมือนเกมที่แล้ว หรือจะกลับมาเล่นเซ็นเตอร์แบ็ก 3 คน ซึ่ง โคโล ตูเร จะลงตัวจริงร่วมกับ เดยัน ลอฟเรน และชาน เนื่องจาก มาร์ติน สเคอร์เทล ยังติดโทษแบน


แดนกลางยังคงไม่มี สตีเวน เจอร์ราร์ด กองกลางกัปตันทีมที่โดนแบนเป็นเกมสุดท้าย ดังนั้นพื้นที่ตรงกลางยังจะเป็น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โจ อัลเลน และลูคัส เลวา แต่แนวรุกมีข่าวดีที่จะได้ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ฟิตลงสนามได้หลังจากหายเจ็บกล้ามเนื้อตึงกลับมาแล้ว แต่รายของ มาริโอ บาโลเตลลี ยังต้องลุ้นทดสอบความฟิตจากอาการป่วย


ฝั่งนิวคาสเซิลจะได้ ดาริล ยานมาท ฟูลแบ็กทีมชาติฮอลแลนด์ฟิตจากอาการบาดเจ็บลงสนามได้ และจะกลับมาเล่นเป็นฟูลแบ็กอีกครั้ง หลังจากที่ต้องปรับไปเป็นเซ็นเตอร์แบ็ก เนื่องจาก ฟาบริซิโอ โคลอชชินี กองหลังอาร์เจนไตน์พ้นโทษแบนกลับมาแล้ว แต่ยังไม่มี ปาปิส เดมบา ซิสเซ หัวหอกตัวหลักจากการติดโทษแบนเป็นนัดที่ 4 จาก 7 นัด


ส่วนเกมเมื่อวันเสาร์ที่ 11เมษายน "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล รองจ่าฝูงออกไปเยือน เบิร์นลีย์ และได้ประตูออกนำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 12 จากประตูของ แอรอน แรมซีย์ และจากนั้นทีมเยือนก็รักษาสกอร์ของตัวเองเอาไว้ได้จนหมดเวลาทำให้ อาร์เซนอล ชนะหวุดหวิด 1-0 มี 66 แต้ม ตามหลัง เชลซี 4 แต้มแต่ลงสนามมากกว่า 2 นัด


หลังจบการแข่งขัน อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซนอล พอใจกับฟอร์มการเล่นของทีมในเกมนี้ เนื่องจากเบิร์นลีย์มาสู้ได้ดีอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งก็ต้องชมแนวรับที่เล่นกันได้อย่างเหนียวแน่น และคว้า 3 แต้มได้ตามต้องการ พร้อมเชื่อว่าทีมยังคงมีลุ้นแชมป์แม้ว่า อาร์เซนอล จะเหลือการแข่งขันอีกแค่ 6 นัด ซึ่งต้องพยายามเก็บชัยชนะให้ได้ทั้งหมด และต้องให้ เชลซี มีความผิดพลาด


"ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เราต้องการความสมบูรณ์แบบ และต้องการให้เชลซีหลุดฟอร์มไป แต่นั่นไม่สำคัญ เราสามารถทำได้เพียงแค่กำหนดสถานการณ์ของตัวเอง เราต้องการเก็บชัยชนะไปเรื่อยๆเพราะว่าเรายังต้องมองข้างหลังที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และแมนเชสเตอร์ ซิตี เช่นเดียวกัน ผมคิดว่าการที่เราชนะ 15 จาก 17 นัดหลังสุด เป็นความสม่ำเสมออย่างมาก เมื่อคุณมองที่ตัวเจ็บเมื่อต้นฤดูกาล เราได้ทีมกลับมาในเดือนมกราคม มันเป็นจุดที่แตกต่าง ตอนนี้เรามุ่งสมาธิไปที่เกมนัดต่อไป และจะทำทุกอย่างเพื่อให้จบฤดูกาลได้อย่างแข็งแกร่ง" เวนเกอร์กล่าว


ด้าน "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส เล่นในไวท์ ฮาร์ท เลน แพ้ต่อ "สิงห์ผยอง" แอสตัน วิลลา 0-1 จากประตูของ คริสเตียน เบนเทเก นาทีที่ 35 ซึ่ง เมาริซิโอ โปเชตติโน ผู้จัดการทีมสเปอร์ส ยอมรับว่าความพ่ายแพ้นัดนี้ทำให้แทบจะหมดลุ้นไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้า และโอกาสเดียวที่จะทำได้คือต้องชนะให้ได้ทุกนัดที่เหลืออยู่


ส่วนผลคู่อื่น เซาแธมป์ตัน ชนะ ฮัลล์ 2-0 จากประตูของ เจมส์ วอร์ด นาทีที่ 56, กราเซียโน เปลเล นาทีที่ 81, ซันเดอร์แลนด์ แพ้ คริสตัล พาเลซ 1-4 ทีมเยือนนำก่อน 4-0 จาก เกลน มาร์รีย์ นาทีที่ 48, ยานนิค โบลาสซี นาทีที่ 51, 53, 62 เจ้าถิ่นตีไข่แตกจาก คอนเนอร์ วิคแฮม นาทีที่ 90, สวอนซี เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 เจ้าถิ่นได้จาก จอนโจ เชลวี นาทีที่ 69 ทีมเยือนได้จาก แอรอน เลนนอน นาทีที่ 41, เวสต์บรอมวิช แพ้ เลสเตอร์ 2-3 เจ้าถิ่นได้จาก ดาร์เรน เฟลตเชอร์ นาทีที่ 8 เคร๊ก การ์ดเนอร์ นาทีที่ 26, ทีมเยือนได้จาก เดวิด นูเจนท์ นาทีที่ 20, โรเบิร์ต ฮูธ นาทีที่ 80 เจมี วาร์ดี นาทีที่ 90