'ตำรวจ-ทหาร'ลุยเมืองคอน กวาดล้างผู้มีอิทธิพล-มือปืน

'ตำรวจ-ทหาร'ลุยเมืองคอน กวาดล้างผู้มีอิทธิพล-มือปืน

"ตำรวจ-ทหาร"กว่าพันนายบุกจู่โจมค้นเป้าหมาย 16 จุดทั่วนครศรีธรรมราช กวาดล้างผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง

หลังเกิดคดียิง 4 ศพ ตรวจยึดอาวุธปืนได้จำนวนมาก


เช้าวานนี้(1 มี.ค.) พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาราชการผู้บังคับการกองปราบปราม(รรท.ผบก.ป.) นำกำลังเข้าประสานงานกับ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ รองผบช.ภ.8 พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผบก.สส.ภ.จว.นครศรีฯ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม และ บช.ก. รวม 200 นาย ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 8 จำนวน 100 นาย พร้อมด้วยหน่วยปฏิบัติการพิเศษคอมมานโดกองปราบปรามติดอาวุธหนักครบมือ เฮลิคอปเตอร์จำนวน 2 ลำ นำโดย พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รรท.ผกก.ปพ.บก.ป. รวมเจ้าหน้าที่กว่า 1 พันนาย เข้าตรวจค้นเป้าหมายซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่รวมทั้งสิ้น 16 จุด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เกิดคดีอุจฉกรรจ์ขึ้นบ่อยครั้ง โดยมีสาเหตุมาจากการขัดผลประโยชน์ระหว่างกลุ่มผู้มีอิทธิพลจำนวน 2 กลุ่ม ซึ่งล่าสุดได้เกิดเหตุสังหารโหด 4 ศพ แต่ต่อมาตำรวจกองปราบฯ สามารถจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้


ทั้งนี้ จากการตรวจค้นในครั้งนี้ มีเป้าหมายสำคัญประกอบด้วย 1.บ้านพักของ นายสมบูรณ์ ชุมทอง หรือกำนันบูรณ์ บ้านเลขที่ 40 ต.ขอนหาด อ.ชะอวด 2.นายคนึง อินทร์คีรี หรือกำนันคนึง บ้านเลขที่ 21 ต.แก้วแสน อ.นาบอน 3.นายป้อม หรือขวัญชัย รอดมณี ลูกชายของ นายเยื้อน รอดมณี หรือ สจ.เยื้อน ผู้มีอิทธิพลชื่อดังซึ่งกำลังหนีหมายจับของศาลหลังถูกตัดสินจำคุก 1 ปี 8 เดือน ในคดีอาวุธปืน โดยเข้าค้นที่บ้านเลขที่ 42 ต.บ้านเพิง อ.ปากพนัง


4.นายยุทธนา หรือปาน รอดมณี ที่อยู่เดียวกันกับ นายขวัญชัย 5.นายสหัส สุวรรณมณี หรือ สจ.ดิก บ้านเลขที่ 232 ต.นากะชะ อ.ฉวาง 6.นายเจริญ หรือยาว ชินวงศ์ หรือกำนันยาว บ้านเลขที่ 81 ต.ปากแพรก อ.ปากพนัง ซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งกับ สจ.เยื้อน และ 7.นายอิทธิชัย หรือเล็ก รอดมณี บ้านเลขที่ 25 ต.ท่าพยา อ.ปากพนัง


พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวว่า จากการตรวจค้นผู้ต้องสงสัยแต่ละรายได้ให้ความร่วมมือกันอย่างดีไม่มีการต่อสู้ขัดขืน และสามารถยึดอาวุธปืนได้จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นปืนพก ปืนกลมือ ปืนลูกซอง มีทั้งมีทะเบียน และไม่มีทะเบียน จึงได้อายัดอาวุธทั้งหมดมาตรวจสอบและทำประวัติไว้ ส่วนใครที่พบว่ามีความผิดก็ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย


อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องสงสัยแต่ละคนยังไม่พบว่ามีหมายจับ แต่หากตรวจสอบพบว่าปืนที่ครอบครองผิดกฎหมายก็จะเรียกตัวมาดำเนินคดีต่อไป นอกจากนี้ยังได้บอกกับ นายขวัญชัย ลูกชายของ สจ.เยื้อน ให้นำพ่อที่กำลังหลบหนีคดีมามอบตัวภายในสองสัปดาห์ หากยังไม่มามอบตัวกองปราบฯจะกดดันอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก สจ.เยื้อน ต้องสงสัยว่าอยู่เบื้องหลังคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่หลายคดี
"เป็นนโยบายของรัฐบาล และ พล.ต.ต.ฐิติราช รรท.ผบช.ก. ที่ต้องการให้ปราบปรามผู้มีอิทธิพล ต่อไปนี้หากเสียงปืนดังขึ้นที่ไหน กองปราบฯ จะลงพื้นที่ไปกดดันทันที" พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 16 จุดที่เจ้าหน้าที่เข้าเข้าตรวจค้น อยู่ในพื้นที่อ.ท่าศาลา อ.พิปูน อ.ปากพนัง อ.ชะอวด อ.ฉวาง อ.พระพรหม และอ.ลานสกา ในยุทธการ “นครศรีธรรมราชโมเดล” ซึ่งเป็นการปฏิบัติการกวาดล้างผู้มีอิทธิพลและเครือข่ายมือปืนรับจ้าง ด้วยการใช้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นและตรวจยึดอาวุธปืนที่ผิดกฎหมาย โดยบางจุดในอำเภอปากพนังเจ้าหน้าที่ต้องส่งชุดคอมมานโดโรยตัวลงจากเฮลิคอปเตอร์ และเข้าจู่โจมตรวจค้นเพื่อไม่ให้เป้าหมายรู้ตัวตั้งแต่ช่วงเช้ามืด


โดยการตรวจค้นนั้นพบว่าเป้าหมายของเจ้าหน้าที่มีกลุ่มผู้มีอิทธิพล และมีพฤติการณ์พัวกันกับมือปืนรับจ้าง ประกอบด้วยกลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้าน ในอ.พิปูน อ.ชะอวด อ.ท่าศาลา กลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นในอ.ฉวาง อ.ลานสกา อ.พระพรหม และกลุ่มผู้ที่มีพฤติการณ์พัวกันกับซุ้มมือปืนรับจ้าง ในอ.ปากพนัง และอ.ฉวาง และกลุ่มที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายซุ้มมือรับจ้างในจังหวัดพัทลุง


ผลการตรวจค้นปรากฏว่ามีการตรวจยึดอาวุธปืนร้ายแรงจำนวนมาก ทั้งชนิดลูกซองออโตเมติคบรรจุกระสุนได้คราวละหลายสิบนัด ปืนออโตเมติคขาด .44 แม็คนัม ซึ่งเป็นอาวุธปืนสั้นที่มีอานุภาพรุนแรงที่สุดในโลก รวมทั้งปืนพกสั้น ปืนยาวชนิดต่างๆ และเครื่องกระสุนรวมเกือบ 100 กระบอก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างคัดกรองอาวุธปืนที่ผิดกฎหมาย รวมทั้งนำผู้ครอบครองมาสอบสวนเพื่อคัดแยกการครอบครองที่ผิดกฎหมาย
ขณะเดียวกันพล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอาง ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า วัตถุพยานในคดีการสังหาร 4 ศพในอ.เชียรใหญ่ โดยเฉพาะอาวุธปืนได้ถูกส่งไปยังสำนักงานตำรวจพิสูจน์หลักฐานกลางทั้งหมดเพื่อตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งอยู่ในระหว่างการรอผลกลับมา