ห่วงสูตรลดอ้วนทำร่างกายได้พลังงานน้อย

ห่วงสูตรลดอ้วนทำร่างกายได้พลังงานน้อย

กรมอนามัย ห่วงสูตรลดน้ำหนักโหด ทำร่างกายได้รับพลังงานน้อยเกิน แนะออกกำลังกายวันละ30-60นาที สัปดาห์ละ5วัน

ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้มีกระแสในสังคมออนไลน์เกี่ยวกับสูตรลดน้ำหนักแบบต่างๆ ที่หลายคนใช้ได้ผลแล้วนำมาแบ่งปันกัน โดยเฉพาะสูตรไหนใช้เวลาน้อยแต่ลดน้ำหนักได้มากๆ ยิ่งน่าสนใจ เช่น การลดน้ำหนักสูตรโหดเพียง 3 วัน ลดได้ถึง 4 กิโลกรัม โดยสูตรนี้ อาหารหลักๆ จะเป็น น้ำส้ม นมสด ขนมปัง ไข่หรือปลา ผัก และมีผลไม้บางมื้อ หากมองตามชนิดอาหารที่นำมาวางแผนการลดน้ำหนักแล้วนับว่าเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แต่ไม่ใช่ว่าจะมีสุขภาพดีเสมอไป นอกจากนี้ เน้นการปรุงอาหารด้วยการต้ม นึ่ง ย่าง แทนการทอดทั้งหมด งดเติมน้ำตาลในเครื่องดื่ม ล้วนเป็นแนวทางการลดน้ำหนักที่ถูกต้อง

“เมื่อดูปริมาณอาหารตามสูตรที่ลดน้ำหนักแล้ว พลังงานจากอาหารที่ได้ในแต่ละมื้อน้อยมากๆ หากนำมาคิดเป็นพลังงานเฉลี่ยต่อวันได้เพียง 962 กิโลแคลอรี ซึ่งน้อยกว่าปริมาณอาหารที่เหมาะสำหรับการลดน้ำหนักมาก โดยปกติแล้วใน 1 วัน สำหรับผู้หญิงที่ต้องการลดน้ำหนักต้องได้รับพลังงานไม่น้อยกว่า 1,200 กิโลแคลอรี และผู้ชายไม่น้อยกว่า 1,600 กิโลแคลอรี สามารถลดน้ำหนักลงอย่างต่อเนื่องสัปดาห์ละครึ่งกิโลกรัม ง่ายๆคือลดพลังงานที่ได้จากอาหารวันละ 500 กิโลแคลอรีจะทำให้น้ำหนักลดลงสัปดาห์ละครึ่งกิโลกรัม”ศ.นพ.รัชตะกล่าว

นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สูตรลดน้ำหนักที่ทำได้ง่าย คือการบริโภคอาหารตามหลัก food plate model หรือที่รู้จักกันคือ เมนู 211 โดยแบ่งส่วนของจานอาหารออกเป็น 4 ส่วน ครึ่งหนึ่งของจานเป็นส่วนของผักสามารถเลือกได้ทั้งผักสด ผักสุก รูปแบบการปรุงเลือกได้ตามใจ แต่ต้องคำนึงถึงน้ำมันและน้ำตาลด้วย อีก 1 ส่วน เป็นกลุ่มข้าวแป้ง ซึ่งไม่จำเป็นต้องกินได้แค่ขนมปังแผ่นเดียวตามสูตรสุดโหด แต่สามารถกินได้ 2 ทัพพีต่อมื้อ คืออาจเลือกเป็นข้าว 2 ทัพพี หรือขนมปัง 2 แผ่น ถ้าหากกินอย่างอื่นเช่นธัญพืชต่างๆ รวมทั้งนมและโยเกิร์ตควรลดปริมาณข้าวในมื้อนั้นๆ ลงอีก และ 1 ส่วนที่เหลือสุดท้ายเป็นเนื้อสัตว์ ต้องเลือกที่ชนิดไม่ติดหนัง ไม่ติดมัน ปรุงด้วยการต้ม นึ่ง ย่าง เพื่อลดพลังงานจากน้ำมัน และเพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนเพียงพอต้องมีผลไม้อีก 1 จานเล็กร่วมด้วยทุกมื้อ นอกจากนี้ ใน 1 วันควรดื่มนมพร่องมันเนยอีก 1 แก้ว ดื่มน้ำเปล่าวันละ 6-8 แก้ว

“โดยปกติแล้วการลดน้ำหนักที่เหมาะสม และปลอดภัยต่อสุขภาพควรลดประมาณครึ่งกิโลกรัมต่อสัปดาห์ ซึ่งไม่ได้ลดทีละมากๆ เพราะการลดทีละน้อยๆ และลดอย่างต่อเนื่องกลับเป็นผลดีในเรื่องการคงสภาพร่างกาย ทั้งอัตราการเผาผลาญพลังงาน สมรรถภาพทางกาย รวมไปถึงประสิทธิภาพการทำงานต่างๆด้วย และเน้นการปรับพฤติกรรมการกินที่ดีให้กับตัวเอง ซึ่งการเลือกวิธีลดน้ำหนักนั้นต้องคำนึงถึงสุขภาพเป็นหลัก ต้องไม่กระทบ หรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น การใช้ยาลดน้ำหนักหรือการอดอาหารที่เป็นแนวทางที่ไม่ถูกต้อง นพ.พรเทพกล่าว

นพ.พรเทพ กล่าวอีกว่า การลดน้ำหนักที่เหมาะสมควรเป็นในรูปแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะจะทำให้ร่างกายสามารถปรับสภาพและรักษาสมดุลได้ หากน้ำหนักลดลงจากการใช้ยา หรือการอดอาหารน้ำหนักจะลดลงเร็วมาก แต่น้ำหนักตัวที่ลดลงทุกๆ 4 กิโลกรัม จะเป็นการสูญเสียมวลไขมัน 3 กิโลกรัม และมวลกล้ามเนื้อ 1 กิโลกรัม ซึ่งเมื่อเลิกควบคุมน้ำหนักแล้วน้ำหนักจะกลับมาเท่าเดิมอีกครั้ง แต่การเพิ่มครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มของมวลไขมันล้วนๆ ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุดในการลดน้ำหนักนั้นควรเป็นการควบคุมอาหารควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30-60 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน เพื่อให้กล้ามเนื้อคงอยู่และรักษาอัตราการเผาผลาญพลังงานให้คงที่และดีต่อสุขภาพ