'เทวินทร์'ลั่นขอทุบรีสอร์ทบ้านทะเลหมอกก่อนย้าย

"เทวินทร์" หัวหน้าอุทยานฯทับลาน ลั่นขอทุบรีสอร์ทบ้านทะเลหมอกก่อนย้ายไปดำรงตำแหน่ง หน.อุทยานชาติเขาแหลม
นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน มรดกโลก (ในพื้นที่รอยต่อ 2 จังหวัด จ.ปราจีนบุรี และ จ.นครราชสีมา)กล่าวว่า “ตามที่ทางนายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เซ็นคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 8 คือตนเอง ( นายเทวินทร์ มีทรัพย์หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน)ไปดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าอุทยานชาติเขาแหลม จังหวัดกาญจนบุรี และตั้งนายวิโรจน์ โรจนจินดา จากส่วนอุทยานแห่งชาติ เขาแหลม มาเป็นหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา นั้น เพิ่งทราบเรื่องเมื่อวานนี้(27พ.ย.57) หลังจากไปต้อนรับอธิบดีกรมอุทยานฯที่ จ.ชัยภูมิ
เรื่องการโยกย้ายนี้เป็นเรื่องตามปกติ ไม่ได้โดนกลั่นแกล้งใดๆ จากที่ผ่านมาในการได้มาทำงานที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ผืนป่าดงพญาเย็นที่เป็นป่าลานในธรรมชาตินับล้าน ๆๆ ต้น ที่เหลือผืนสุดท้ายของประเทศไทย แหล่งโอโซนอันดับ 7 ของโลก นั้น ได้มีโอกาสในการทำงานให้เป็นที่รู้จัก โดยเฉพาะการแก้ปัญหาหนัก ๆ ในคดีการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯรวมมากกว่า 434 คดี ที่ได้พยายามทำงานเต็มที่ เหมือนเป็นต้นแบบ หรือแบบอย่าง แก่พื้นที่แห่งอื่น โดยเฉพาะการให้ผู้บุกรุกรื้อถอนบ้านพักตากอากาศ - รีสอร์ท ตามมาตรา 22 และสุดท้ายที่ฮือฮา คือคดีการยึดทรัพย์สินสำหรับผู้กระทำผิด ที่ทางป่าไม่จะจับกุม รื้อถอน อย่างเดียวไม่พอ ซึ่ง สิ่งที่กระทำไม่เป็นการโอ้อวด เป็นตัวอย่างอุทยานฯแห่งอื่น เป็นการกระตุ้นความตื่นตัว โดยเฉพาะคนที่นิยมซื้อ - ขาย ที่ดิน สร้างสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่อุทยานฯ ในการต้องตรวจสอบ คิดหนักว่าหากกระทำผิดกกหมายแล้ว จะต้องโดนรื้อถอน หรือ ติดตามมาด้วยการยึดทรัพย์สิน ที่จะทำให้คดีการบุกรุกที่ดิน สร้างสิ่งปลูกสร้างบ้านพักตากอากาศ หรือ รีสอร์ท ได้หยุดการกระทำ”นายเทวินทร์กล่าว
นายเทวินทร์ กล่าวต่อไปว่า “ในการปฏิบัติงานที่ผ่านมานั้นได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายทั้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ โดยเฉพาะสื่อมวลชนทั้งส่วนกลางและในพื้นที่ในการสะท้อนนำเสนอการทำงานของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ โดยเฉพาะการกระทำสิ่งที่คนไม่เคยทำมาก่อน ดังที่กล่าวมาแล้วคือการปักป้ายตามมาตรา 22 ,การรื้อถอนรีสอร์ท - บ้านพักตากอากาศ ที่กระทำผิดกกหมาย หรือการยึดทรัพย์ ที่คิดว่าจะเป็นการนำไปสู่การเดินหน้าต่อไปโยเฉพาะพื้นที่อุทยานฯทับลาน แม้ต่อไปจะไม่มีตนเอง ที่ผ่านมาได้สร้างทีมงานที่แข็งแกร่งมีประสบการณ์ คดีที่ค้างคาใครมาอยู่ก็จะสามารถดำเนินการต่อไปได้ โดยฝากไว้คือการทำตามหน้าที่ให้ดีที่สุด”
สำหรับตนเอง เป็นตามระยะเวลาสุดท้ายที่ต้องขยับขยาย ที่ผ่านมารู้สึกเห็นใจผู้กระทำผิดคดีบุกรุกอุทยานฯ เพราะเดือดร้อนเป็นทุกข์ตามมา ไหนเวลาจะถูกจับกุม โดนดำเนินคดีทั้งทางอาญา ,ทางแพ่ง ,การต้องรื้อถอนบ้านพัก - รีสอร์ท สุดท้ายถูกยึดทรัพย์สิน อันอาจทำให้เกิดเป้นความคับแค้นใจติดตามมาตนเอง เมื่ออยู่นาน ๆ ก็จะทำงานได้ลำบากขึ้นจากผลโกรธแค้นนี้ โดยเฉพาะความปลอดภัย ที่ผ่านมาได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งของป่าไม้มีมือปืนลงมาในพื้นที่ และพื้นที่ให้ระวังตัว รวมถึงการอยู่พื้นที่ใดนาน มีคนรู้จักมาก โดยเฉพาะหากมีแต่การฝากฝังรีสอร์ท-บ้านพักกระทำผิดกฎหมายยิ่งไม่ดีแก่การทำงาน ที่เราเองต้องยึดกฏหมายและผลประโยชน์ส่วนรวมมรดกของชาติ และปัจจุบันเป็นมรดกโลกด้วย”
“สำหรับการเดินทาง เพื่อไปรับหน้าที่แห่งใหม่นั้นเนื่องจากเป็นการสับเปลี่ยนระหว่าง 2 อุทยานฯคาดว่าจะเดินทางช่วงประมาณเดือนธ.ค. นี้ หลังการดำเนินโครงการ หรืองานที่ค้างคาเรียบร้อยแล้ว และในวันที่ 11 ธ.ค.57 ก่อนย้ายจะดำเนินการปักป้ายรื้อถอนรีสอร์ทบ้านทะเลหมอก ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรีที่ยังค้างคาให้แล้วเสร็จ เป็นการอำลาก่อนเดินทาง และพร้อมกันอาจทิ้งบอมครั้งสุดท้ายถึงปัญหาหรืออุปสรรค ในการปักป้ายรื้อถอนรีสอร์ทตามมาตรา 22 ส่วนหนึ่งของคดีที่ล่าช้า อันมาจากการเมืองท้องถิ่น หรือ องค์กร หน่วยงานใดบ้าง ที่ไม่ให้ความร่วมมือในการปกป้องคืนผืนป่าทับลานหรือดงพญาเย็น ”
“สำหรับรางวัลหรือผลงานที่ได้รับ คือรางวัลดีเด่นด้านสิ่งแวดล้อมจากสถาบันพระปกเกล้า, รางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่น ปี 2555 และ เข้ารอบ 1 ใน 50 คนสุดท้าย รางวัลข้าราชการไทยหัวใจสีขาว ของปปช. เป็นความภูมิใจที่สังคมเห็นโดยไม่เคยเรียกร้องขอแต่อย่างใด” นายเทวินทร์กล่าวในที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม สำหรับคดีบุกรุกอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก รวมทั้งหมด 434 คดี มีการรื้อถอนเรียบร้อยแล้วทั้งผู้ประกอบการรื้อถอนเองหรือป่าไม้รื้อถอนให้รวม 37 คดี คดีที่ยังค้างคาในฝั่งพื้นที่ จ.นครราชสีมากว่า 340 คดี (291 คดี ยังไม่มีผู้ใดมาแสดงตัวเป็นผู้ประกอบการของเจ้าของ จะมีการปักป้าตามมาตรา 22 ให้รื้อถอนรวม 36 คดี ) และในฝั่งพื้นที่ จ.ปราจีนบุรีรวมกว่า 90 คดี ที่ไม่มีผู้มาแสดงตัวเป็นเจ้าของกิจการ แต่ได้มีการปักป้ายตามมาตรา22 เพื่อรื้อถอนครบทั้งหมด







