ผวาโจร!ชาวนากางเต็นท์นอนเฝ้าข้าวเปลือก

ผวาโจร!ชาวนากางเต็นท์นอนเฝ้าข้าวเปลือก

ชาวนาผวาโจร ต้องกางเต็นท์นอนเฝ้าข้าวเปลือกที่ตากไว้ ก่อนนำไปขายหวั่นถูกกดราคา

เนื่องจากช่วงระยะนี้ ที่มีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ทำให้ชาวนาในหลายจังหวัดต้องเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิต โดยนายสันต์ แผ้วพลสง ชาวนาบ้านไทรโยง ม.3 ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ลงทุนกางเต็นท์ นอนเฝ้าข้าวเปลือกที่ทำการเก็บเกี่ยวแล้วนำมาตากไว้ตามลานและริมถนนในหมู่บ้าน เพื่อลดความชื้นก่อนจะนำไปขายยังโรงสีหรือจุดรับซื้อ ป้องกันกลุ่มแก๊งมิจฉาชีพลักขโมย หลังทุกปีที่ผ่านมาเคยมีแก๊งมิจฉาชีพออกอาละวาดลักขโมยข้าวเปลือก ที่ตากไว้ตามลานและริมถนนสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรในหลายพื้นที่ โดยเกษตรกรจะตั้งเต็นท์นอนเฝ้าตามลานหรือริมถนนใกล้กับบริเวณที่ตากข้าวเปลือกไว้ ทั้งกลางวันและกลางคืนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้แก๊งมิจฉาชีพฉวยโอกาสก่อเหตุลักขโมยข้าวได้

“สาเหตุที่ต้องนำข้าวเปลือกมาตากเพื่อต้องการลดความชื้น โดยจะต้องใช้เวลาตากประมาณ 2 - 3 วันจึงจะแห้ง เพราะหากนำไปขายสดโดยไม่ตากแดดลดความชื้น เกรงจะถูกผู้ประกอบการโรงสีกดราคารับซื้อ เนื่องจากปีนี้ไม่มีโครงการรับจำนำใบประทวนหรือโครงการประกันรายได้เหมือนกับทุกปี ชาวนาในหมู่บ้านบางรายนำข้าวเปลือกที่เกี่ยวสด โดยไม่ได้ตากลดความชื้นไปขายยังโรงสี แล้วถูกกดราคารับซื้อเหลือเพียงกิโลกรัมละ 10.50 บาท หรือตันละ 10,500 บาทเท่านั้น ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำไม่คุ้มทุน”นายสันต์ กล่าว

ขณะที่นายบุญเหลือ บุตรทอง อายุ 41 ปี ชาวนาบ้านไทรโยงอีกราย บอกว่า ทำนาทั้งหมด 12 ไร่ ขณะนี้ได้ทยอยเก็บเกี่ยวแล้ว ซึ่งหลังเก็บเกี่ยวก็ต้องนำมาตากเพื่อลดความชื้น เพราะเกรงหากนำไปขายสด จะถูกกดราคารับซื้อจึงจำเป็นต้องนำเต็นท์มากางนอนเฝ้าข้าวที่ตากไว้ เพราะเกรงจะถูกลักขโมยข้าวซึ่งจะเป็นการซ้ำเติม เพราะปีนี้ก็ไม่มีโครงการรับจำนำหรือประกันรายได้เหมือนทุกปี อย่างไรก็ตาม อยากให้ภาครัฐเข้ามาดูแลราคารับซื้อข้าวเพื่อให้ชาวนาได้รับความเป็นธรรมด้วย