บุกค้นอายัดทรัพย์มาเฟียใหญ่ภูเก็ต

บุกค้นอายัดทรัพย์มาเฟียใหญ่ภูเก็ต

ปปง.สนธิกำลังตำรวจภูธรภาค 8 เข้าค้นอายัดทรัพย์มาเฟียใหญ่ภูเก็ต ใช้อิทธิพลคุมธุรกิจท่องเที่ยวครบวงจร

พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) น.อ.เพชรรัตน์ เทียนจันทร์ รองผอ.กพร.บก.ทรภ. 3 นายสิทธิชัย เตี๋ยอำนวยชัย ผ.อ.สำนักตรวจสอบภาษีกลาง กรมสรรพากร และเจ้าหน้าที่ทหารบกสนธิกำลังกว่า 100 นาย เข้าตรวจสอบบ้านพักเลขที่73 ถนน บารมี ต.ป่าตอง ต.กระทู้ จ.ภูเก็ต ของ นายเปี่ยน กี่สิ้น อดีตนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง จ.ภูเก็ต นายปรีชาวุฒิ หรือปราบ กี่สิ้น นายปรีทวี หรือปัด กี่สิ้น บุตรชาย หลังจากศาลได้อนุมัติออกหมายจับนายเปี่ยนและนายปรีชาวุฒิ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาในข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร และมีพฤติกรรมในลักษณะตั้งองค์กรขึ้นมาประกอบกิจการผิดกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าค้นพื้นที่ตรวจค้น 8 จุด ประกอบด้วย จุดที่ 1 บ้านพักนายเปี่ยนกับพวก จุดที่2 อาคารสำนักงาน บริษัทฟิโซนา จำกัด และบริษัทในเครือเลขที่ 73 ถนนพระบารมี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จุดที่3 สำนักงานโรงแรมป่าตองเบย์ รีโซเทล เลขที่73 จุดที่4 สำนักงานโรงแรมป่าตองเบย์ การ์เด้น รีสอร์ท เลขที่ 33/1 ถนนทวีวงศ์ ต.ป่าตอง จุดที่5 สำนักงานบริษัท ป่าตอง ฮอรีวู๊ด จำกัด เลขที่ 7ถนนบางลา ต.ป่าตอง จุดที่6 สำนักงานโรงแรมป่าตองเบย์เฮ้าส์ เลขที่ 160/5 ถนน ผังเมืองสาย ก. ต.ป่าตอง จุดที่7 สำนักงานป่าตองเบย์อินท์ เลขที่ 188/6 ถนนผังเมืองสาย ก. ต.ป่าตอง และจุดที่8 สำนักงานป่าตองเบย์ฮิลล์ ถนน 50 ปี ต.ป่าตอง อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต ทั้งนี้จากการเข้าค้นบ้านพักเลขที่ 73 เจ้าหน้าที่พบนางศรีคำ กี่สิ้น วัย 59 ปี และน.ส.ศศิตา เต็งเก้าประเสริฐ น.ส.วรรณวนัส งามจริง และนายจรรยา หนูเซต พนักงานขับรถของบริษัทฟิโซนา พร้อมอาวุธปืนไรเฟิล 1 กระบอก โดยนางศรีคำได้นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านพักพบเอกสารจำนวนหนึ่งที่ถูกเคลื่อนย้ายมาเก็บไว้ และปฏิเสธว่านายเปี่ยนไม่อยู่บ้าน และไม่ทราบว่าไปพักอยู่ที่ใด

พล.ต.ท.ปัญญา กล่าวว่า นายเปี่ยนและบุตรชายมีพฤติกกรรมจัดตั้งองค์กรขึ้นมากระทำผิดลักษณะทำธุรกิจหลายประเภทบังหน้า ทั้งประเภทโรงแรม รีสอร์ท กิจการขนส่งผิดกฎหมาย กีดกันทางการค้า และหลีกเลี่ยงภาษี ตั้งแต่ปี 2548 ทางตำรวจใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐาน 3 เดือนจึงขอศาลออกหมายจับทั้งสิ้น 27 หมายจับ และมีหมายค้น 12 หมายค้น โดยหมายจับที่เหลือเป็นบุคคลที่อยู่ในเครือข่ายของนายเปี่ยนและลูกชาย ซึ่งขณะนี้ผู้ต้องหามีลักษณะท่าทีเหมือนกับจะหลบหนีจึงอยากบอกว่า หากอยากจะซ้อมหนีไปก่อนก็ไม่ว่าอะไร แล้วจะได้รู้เองว่าหนีได้หรือไม่

"ผู้ต้องหา 2 รายเป็นผู้มีอิทธิพลทางการเมืองท้องถิ่น และเป็นมาเฟียรายใหญ่ที่สุดในจ.ภูเก็ต ซึ่งที่ผ่านมาในพื้นที่แห่งนี้ก็มีผู้มีอทธิพลหลายกลุ่ม แต่ไม่มีใครใหญ่เท่านี้ ที่ทำตัวเป็นนายทุนอยู่เบื้องหลังและยังหลบเลี่ยงภาษีชัดเจน" ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าว

ด้านพ.ต.อ.สีหนาท กล่าวว่า ปปง.ได้รับการประสานจากตำรวจภูธรภาค 8 ให้เข้าตรวจสอบทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของนายเปี่ยน กับพวก ตามาตรา 58 พ.ร.บ.ฟอกเงิน ที่ระบุว่าทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับกระกระทำความผิดใดๆ เป็นทรัพย์สินที่สามารถ ดำเนินการตามกฎหมายอื่นได้อยู่แล้ว แต่ยังไม่มีการดำเนินการกับทรัพย์สิน โดยใช้ฐานความผิดตามกฎมายฟอกเงินมาตรา 3(6) กระทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ข่มขู่และบังคับให้ได้ไปซึ่งทรัพย์จากผู้ประกอบการโรงแรม บริษัททัวร์ ในความผิดอั้งยี่ซ่องโจร กรรโชกทรัพย์ทำตนเป็นมาเฟียผู้มีอิทธิพล จัดตั้งสหกรณ์แท็กซี่เพื่อปกผิดวิธีการในการนำรถของบุคคลอื่น ซึ่งเป็นรถส่วนบุคคลอื่น มารับส่งผู้โดยสาร หรือนักท่องเที่ยวตามที่กลุ่มบุคคลดังกล่าวที่ได้เช่าหรือจับจองพื้นที่ที่ตั้งคิวไว้ และกีดกันแท็กซี่รายอื่น ที่ไม่ใช่สมาชิกของพวกมาให้บริการ อีกทั้งยังเอารัดเอาเปรียบผู้ประกอบการรายอื่นขยายเครือข่ายทุจริต อาทิ อาคารบ้านเช่า โรงแรม สถานบริการ ร้านอาหาร สถานบันเทิง รถยนต์รับจ้าง ธุรกิจนำเที่ยว ธุรกิจเครื่องดื่มของมึนเมา และยังดำเนินธุรกิจบางส่วนเลี่ยงภาษี

"นายเปี่ยนเคยเป็นกำนัน ต.ป่าตองและเคยเป็นอดีตนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง อาศัยอำนาจอิทธิพลขยายธุรกิจ และเคยย้ายรายชื่อของบุคคลที่สมาชิกสหกรณ์แท็กซี่มาอยู่ในทะเบียนบ้านเพื่อเป็นฐานเสียงในการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม การเข้าตรวจค้นในวันนี้ ทางกรมสรรพากร ปปง.และตำรวจจะทำการตรวจสอบเอกสารทั้งหมด แล้วจะยึดอายัดทรัพย์สิน แต่ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าได้เนื่องจากอยู่ระหว่างการตรวจสอบ" เลขาธิการปปง. กล่าว