ลงดาบ 'พ่อเลี้ยงอี๊ด' โดนแบนตลอดชีพ

ลงดาบ 'พ่อเลี้ยงอี๊ด' โดนแบนตลอดชีพ

มติคณะกรรมการพิจารณามารยาทฯ ลงดาบ "พ่อเลี้ยงอี๊ด" ประธานสโมสรเชียงใหม่ โดนแบนตลอดชีวิต พร้อมปรับ 1 แสนบาท

มติคณะกรรมการพิจารณามารยาทฯ ประกาศลงดาบ "พ่อเลี้ยงอี๊ด"อุดรพันธ์ จันทรวิโรจน์ ประธานสโมสรเชียงใหม่ โดนแบนตลอดชีวิต พร้อมปรับเงิน 1 แสนบาท ขณะที่เจ้าตัว ชี้เป็นการตัดสินที่โหดมาก และจะไม่ขอการอุทธรณ์ พร้อมประกาศลาออกจากเก้าอี้อุปนายกสมาคมลูกหนังไทยด้วย

ความคืบหน้ากรณี พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ ประธานคณะกรรมการพิจารณามารยาท วินัย และข้อประท้วง สมาคมฟุตบอลฯ ได้เรียก สอบสวนเหตุการณ์ที่ "พ่อเลี้ยงอี๊ด" อดุรพันธ์ จันทรวิโรจน์ ประธานสโมสรเชียงใหม่ได้ตบหน้า สุรศักดิ์ คุณดิลกสิโรดม ผู้ตัดสินในเกมที่เชียงใหม่เปิดบ้านเสมอ นครปฐม ยูไนเต็ด 1-1 ในดิวิชั่น 1 ในเกมนัดล่าสุดนั้น

ล่าสุด ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ พร้อมคณะกรรมการฯ ได้เชิญ สุรศักดิ์ คุณดิลกสิริโดม สิงห์เชิ้ตดำที่ทำหน้าที่ในเกมดังกล่าว มาสอบถามว่าโดนทำร้ายร่างกายจริงหรือไม่และโดนรุนแรงขนาดไหน หลังจากใช้เวลาร่วม 1 ชั่วโมง ก่อนที่ คณะกรรมการฯ จะมีมติ ลงโทษ ตามข้อบังคับและระเบียบการแข่งขันประจำปี 2557 ภาคผนวก 7 ข้อ 2.9 ก เกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายมีการระบุโทษอย่างชัดเจน ตั้งแต่ปรับ 4-6 หมื่นบาท และพักการแข่งขันทั้งฤดูกาล แต่ถ้าเป็นการกระทำต่อผู้ตัดสินโทษจะปรับเป็นคูณสอง เท่ากับว่าโทษปรับตั้งแต่ 8 หมื่นถึง 1.2 แสนบาท และห้ามทำหน้าที่ตลอดชีวิต โดยคณะกรรมการพิจารณาตัดสิน ห้าม "พ่อเลี้ยงอี๊ด" นายอดุรพันธ์ จันทรวิโรจน์ ยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอลตลอดชีวิต พร้อมกับปรับเงิน จำนวน 1 แสนบาท และผู้ถูกลงโทษ มีสิทธิ์อุทธรณ์ได้ ซึ่งจะเป็นคณะกรรมการอีกชุดพิจารณาต่อไป

หลังรับทราบคำตัดสิน "พ่อเลี้ยงอี๊ด" กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีความยุติธรรมเลย เพราะความจริงแล้วตนเพียงเข้าไปตบที่หัวไหล่ เพื่อต้องการที่จะบอกว่าถ้าตัดสินอย่างนี้ สมาคมฟุตบอลจะเสื่อมเสียชื่อเสียง อีกทั้งเกมนี้ มีแฟนบอลกว่า 1,000 คน เตรียมที่จะเข้าไปปิดล้อมผู้ตัดสิน แต่ตนก็ได้ขอร้องให้แฟนบอลกลับบ้าน พร้อมกับให้เจ้าหน้า ส่งผู้ตัดสินให้กลับบ้านอย่างปลอดภัย เพราะอย่างน้อยตนก็เป็นอุปนายกสมาคมฟุตบอล คนที่ 1 ก็ต้องดูแลให้ดีที่สุด ซึ่งไม่ได้ทำอะไรรุนแรงเลย

"เมื่อคณะกรรมการฯ มีมติลงโทษผมตลอดชีวิต พร้อมปรับเงินอีก 100,000 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีการปรับเงินไปแล้ว 110,000 บาท ซึ่งเรื่องการปรับเงินผมยอมรับได้ แต่การถูกลงโทษตลอดชีวิต ถือเป็นการลงโทษที่หนักมาก ยอมรับน้อยใจมาก ทั้งที่มีความตั้งใจจะร่วมพัฒนาวงการฟุตบอลให้มากที่สุด ดังนั้นเมื่อผลออกมาอย่างนี้ ผมจะไม่ขออุทธรณ์ เพราะผมถือว่าเป็นลูกผู้ชายพอ นอกจากนี้ผมขอประกาศลาออกจากตำแหน่งอุปนายกสมาคมฟุตบอล ที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงจากเหตุการณ์ดังกล่าว"

ประธานสโมสรเชียงใหม่ เผยอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ส่ง ซีดี ซึ่งเป็นการรวบรวมการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน จำนวน 3 แผ่น ส่งให้ นายวรวีร์ มะกูดี,นายองอาจ ก่อสินค้า ประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีกและ ประธานคณะกรรมกรอุทธรณ์ แต่ไม่รู้ว่าได้นำมาพิจารณากันหรือไม่ โดยเฉพาะ บรรดาผู้ตัดสินทั้ง 4 คน เชื่อว่าหากได้ดูภาพการทำงานของผู้ตัดสินแล้ว ผลการพิจารณาจะไม่ออกมาเป็นอย่างนี้