เผยโฉมมหานครโตเร็วสุดในโลก

เผยโฉมมหานครโตเร็วสุดในโลก

มหานครทันสมัยส่วนใหญ่เคยเป็นประดิษฐกรรมของโลกตะวันตก แต่ได้เพิ่มจำนวนขึ้นมากในโลกตะวันออก

สำหรับมหานครใหญ่ที่สุด 7 เมือง นิยามจากพื้นที่ที่มีการพัฒนาเมืองอย่างต่อเนื่องมีประชากรมากกว่า 10 ล้านคนนั้น ตั้งอยู่ในเอเชีย

ข้อมูลประชากรสำรวจล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้วโดยเวนเดลล์ คอกซ์ (Wendell Cox) พบว่า มหานครใหญ่ยังเป็นโตเกียว-โยโกฮามา ที่มีประชากร 37 ล้านคน ตามมาด้วยกรุงจาการ์ตา, โซล-อินชอน, เดลฮี, นครเซี่ยงไฮ้ และกรุงมะนิลา

ด้วยจำนวนผู้อยู่อาศัยประมาณ 20 ล้านคน มหานครนิวยอร์กซึ่งเคยเป็นมหานครที่ใหญ่ที่สุดในโลกในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ลดไปอยู่อันดับ 8 ในปัจจุบัน ส่วนเมืองอื่นของตะวันตกที่ติดอันดับ 28 เมืองใหญ่ ได้แก่ มอสโก (อันดับ 15) ลอสแองเจลิส (อันดับ 17) และปารีส (อันดับ 28) ส่วนลอนดอนซึ่งเป็นเมืองทันสมัยแห่งแรกที่มีประชากรถึงระดับล้าน กลับไม่ติดอันดับเพราะหยุดขยายตัวผลจากนโยบายสิ่งแวดล้อม

แนวโน้มที่เมืองในชาติตะวันตก หลุดจากผังรายชื่อเมืองใหญ่ ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากมหานครที่เติบโตเร็วที่สุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมานั้น ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา อย่างการาจีในปากีสถาน ที่มีอัตราการขยายตัวของประชากรถึง 80% ระหว่างปี 2543 - 2553 หรืออีกหลายเมืองในจีนกับอินเดีย

คงไม่น่าประหลาดใจ ที่จีนเป็นแหล่งที่ตั้งของเมืองใหญ่มากที่สุดในโลก ถึง 4 เมือง รวมถึงเซินเจิ้น ซึ่งเป็นมหานครที่เติบโตเร็วเป็นอันดับสองในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จากหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ จนกระทั่งกลายมาเป็นจุดสนใจในนโยบายปรับโฉมไปสู่ความทันสมัยของเติ้ง เสี่ยวผิง โดยเมื่อปี 2522 เซินเจิ้นมีประชากรประมาณ 3 หมื่นคน ปัจจุบันมีประชากรกว่า 12 ล้านคน เมืองที่เก่าแก่อย่างเซี่ยงไฮ้ก็เติบโตเร็ว ด้วยอัตราการขยายตัวเกือบ 50% ตั้งแต่ปี 2543

ด้านอินเดียมีเมืองใหญ่สามเมืองเท่ากับญี่ปุ่น แต่เติบโตเร็วกว่าญี่ปุ่นมาก อย่างประชากรของเดลฮี ซึ่งเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ขยายตัว 40% ในทศวรรษที่ผ่านมา

มหานครอื่น ๆ ที่เติบโตอย่างรวดเร็วกระจายอยู่ทั่วประเทศกำลังพัฒนา อย่างเมืองลากอสในไนจีเรียที่ประชากรเพิ่มขึ้นกว่า 48% กรุงเทพฯเมืองหลวงของประเทศไทยและธากาเมืองหลวงบังคลาเทศ เติบโตประมาณ 45% จาการ์ตา มหานครที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ขยายตัว 34% ด้วยจำนวนประชากรเกือบ 27 ล้านคน

ตัวเลขเหล่านี้บอกอะไรได้หลายอย่าง รวมถึงสะท้อนว่าการเติบโตในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนั้น เกิดขึ้นในประเทศที่ยังมีพื้นที่ชนบทขนาดใหญ่และประชากรอยู่ในวัยค่อนข้างหนุ่มสาว อันจะส่งผลให้เมืองเหล่านี้ขยายตัวต่อเนื่อง อย่างน้อยก็จนกว่าอัตราการเกิดของประชากรจะลดลง

อย่างไรก็ตาม สหประชาชาติคาดว่าเมืองใหญ่ในอนาคตจะเป็นเมืองที่ประชากรมีรายได้ต่ำ อย่างในแอฟริกาและเอเชียกลาง โดยเมืองใหญ่ที่ว่านี้อาจเป็นกรุงลิมาของเปรู หรือเมืองเทียนสินในจีน

นอกจากนั้น เมืองใหญ่บางเมืองในประเทศรายได้ต่ำและปานกลาง ยังดูเหมือนถึงจุดอิ่มตัวแล้ว เพราะก่อนหน้านี้เคยมีการคาดการณ์ว่ากรุงเม็กซิโกซิตี้จะเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในโลก แต่การเติบโตของเมืองนี้ลดเหลือเพียง 11% ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ผลจากอัตราการเกิดที่ลดลง และการพัฒนาไปในทางเลือกอื่นๆ