ทบ. เลื่อนยศ 9 ขั้น 3 ทหารสละชีพ 'พลตรี-พันตรี-ร้อยตรี' เงินช่วยเหลือกว่า10ล้าน

ทบ. เลื่อนยศ 9 ขั้น 3 ทหารสละชีพ ปกป้องแผ่นดิน "พลตรี-พันตรี-ร้อยตรี" มอบเงินพระราชทาน-เงินช่วยเหลือ 10 กว่าล้านบาท
14 ธ.ค.จากสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ส่งผลให้ กำลังพลกองทัพบก ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการปฏิบัติภารกิจด้วยความเสียสละ กองทัพบก (ทบ.) จึงได้จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพแก่ทหารหาญผู้กล้า เพื่อเชิดชูเกียรติและสดุดีการอุทิศชีวิต (เลื่อนยศ 9 ขั้น) เพื่อประเทศชาติอย่างสมเกียรติ
โดยวานนี้ (13 ธันวาคม 2568) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้มอบหมายให้คณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ร่วมเป็นเกียรติในพิธีพระราชทานเพลิงศพกำลังพลผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 3 นาย ดังนี้
1 จ่าสิบเอกศตวรรษ สุจริต
สังกัดกองร้อยทหารม้าลาดตระเวนที่ 6 ตำแหน่งพลขับรถถัง ตอนรถถัง หมวดลาดตระเวน เสียชีวิตจากการสะเก็ดระเบิดในพื้นที่ฐานป้องไพร ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2568 โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีพระราชเพลิงศพ และพลเอก ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก ร่วมเป็นเกียรติในพิธี ณ วัดพรหมพิทักษ์วนาราม อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด
กองทัพบก ได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 9 ขั้น ขอพระราชทานเลื่อนชั้นยศเป็น พลตรี และจะได้รับเงินพระราชทาน, เงินบำรุงขวัญ, เงินสินไหมทดแทนในการประกันชีวิตของกองทัพบก (ภัยสงคราม), เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ของกองทัพบก, เงินช่วยเหลือและเงินบำเหน็จตกทอดให้กับทายาท และเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรีและเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบฯ ตามมติ ครม. รวมประมาณ 12,072,652 บาท
2 พลทหารเทิดศักดิ์ ศรีลาชัย
สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 ตำแหน่งพลยิงเครื่องยิงลูกระเบิด กองร้อยอาวุธเบาที่ 2 เสียชีวิตจากสะเก็ดระเบิดกระสุน BM-21 บริเวณพื้นที่ปราสาทคนา อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2568 โดยมีพลเอก อานุภาพ ศิริมณฑล หัวหน้าคณะฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ณ วัดกลางขุขันธ์ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ
กองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 9 ขั้น ขอพระราชทานเลื่อนชั้นยศเป็น ร้อยตรี และจะได้รับเงินพระราชทาน, เงินบำรุงขวัญ, เงินสินไหมทดแทนในการประกันชีวิตของกองทัพบก (ภัยสงคราม), เงินช่วยเหลือและเงินบำเหน็จตกทอดให้กับทายาท และเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรีและเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบฯ ตามมติ ครม. รวมประมาณ 11,335,825 บาท
3 สิบเอกชวกร เดชขุนทด
สังกัดกองพันทหารม้าที่ 11 กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ ตำแหน่งนายสิบประจำหมวด กองร้อยทหารม้า เสียชีวิตจากเหตุโดรนทิ้งระเบิดของฝ่ายตรงข้าม ขณะเคลื่อนย้ายออกจากบังเกอร์ในพื้นที่ฐานบ้านต้นพยุง อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2568 โดยมีพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธี และพลเอก ไพศาล หนูสังข์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก ร่วมในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ณ วัดหนองบัว อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี
กองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 9 ขั้น ขอพระราชทานเลื่อนชั้นยศเป็น พันตรี และจะได้รับเงินพระราชทาน, เงินบำรุงขวัญ, เงินสินไหมทดแทนในการประกันชีวิตของกองทัพบก (ภัยสงคราม), เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ของกองทัพบก, เงินช่วยเหลือและเงินบำเหน็จตกทอดให้กับทายาท และเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรีและเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบฯ ตามมติ ครม. รวมประมาณ 11,700,481 บาท
สำหรับ พิธีพระราชทานเพลิงศพ ในครั้งนี้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อกำลังพลผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความจงรักภักดีอย่างหาที่สุดมิได้
กองทัพบกขอสดุดีแด่กำลังพลผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ และยืนยันความมุ่งมั่นในการดูแลสิทธิ สวัสดิการ และความเป็นอยู่ของครอบครัวและทายาทของทหารกล้าทุกนายอย่างดีที่สุด ความกล้าหาญ ความเสียสละ และความจงรักภักดีที่ทหารหาญทั้งสามนายได้อุทิศให้แก่ประเทศชาติ นับเป็นเกียรติภูมิสูงสุดของกองทัพบก และจะถูกจารึกไว้ในความทรงจำ และอยู่ในหัวใจของประชาชนไทยตลอดไป







