'นายกฯ' ประชุมด่วนช่วยน้ำท่วมใต้ สั่งเยียวยาเร็วที่สุด

"นายกฯ" ประชุมด่วนที่หาดใหญ่ สั่งทุกหน่วยงานระดมกำลังช่วยน้ำท่วมภาคใต้ – อพยพประชาชนทันที เร่งระบายน้ำ–เยียวยาเร็วที่สุด
เมื่อเวลา 08.10น.วันที่ 22 พ.ย. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีน้ำท่วมภาคใต้ ว่า เราทราบอยู่แล้วว่าช่วงเวลาจะเป็นแบบนี้เพราะฉนั้นการช่วยเหลือต่างๆก็เป็นไปตามระเบียบที่มีอยู่ แต่ในพื้นที่ในแต่ละจังหวัดก็มีการเตรียมแผนเผชิญเหตุและระดมความช่วยเหลืออย่างเต็มที่
ส่วนจะมีการเยียวยาความเสียหาย ด้านพืชผลทางการเกษตรด้วยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อะไรที่ทำก็ต้องเป็นแนวทางเดียวกัน ซึ่งมีหลักเกณฑ์กำหนดอยู่แล้ว ยกเว้นว่าตรงไหนมีความเสียหายมากเป็นพิเศษ หรือมีเหตุที่สามารถรับการช่วยเหลือเป็นพิเศษก็พิจารณาเป็นกรณีไป
ในช่วงบ่ายวันเดียว (22 พ.ย.68) ภายหลังเสร็จภารกิจมอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตร ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น ที่ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้านานาชาติไคซ์ ขอนแก่น ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่นนายอนุทิน ได้เดินทางไปอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เนื่องจากเป็นห่วงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ จึงได้ปรับกำหนดการเร่งด่วน
ต่อมาห้องประชุมท่าอากาศยานหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมการบริหารจัดการน้ำบริเวณพื้นที่ภาคใต้ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ผลกระทบและแนวทางการแก้ไขการดำเนินการของส่วนราชการ โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงทันที พร้อมมอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) หน่วยทหารประจำพื้นที่ จังหวัด และส่วนราชการต่าง ๆ สนับสนุนรถยกสูง เรือท้องแบน และอุปกรณ์ที่จำเป็น เพื่อเตรียมการอพยพให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกำชับให้จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดตั้งโรงครัว พร้อมเตรียมอาหาร น้ำสะอาด ยารักษาโรค และอุปกรณ์ยังชีพ ตลอดจนจัดหาที่พักอาศัยชั่วคราวสำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยด่วน ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้กรมชลประทานและ ปภ. พิจารณากำหนดจุดติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำให้ทุกส่วนราชการติดตามข้อมูลปริมาณฝนอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมการรับมือและแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที พร้อมสั่งการให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) บูรณาการการแก้ไขปัญหาในระยะยาวร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบซ้ำในปีต่อไป
ขณะเดียวกันให้เร่งตรวจสอบความเสียหายโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อเร่งรัดกระบวนการจ่ายเงินเยียวยาให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด พร้อมกล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมกันระดมกำลังแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนการทำงานของทุกฝ่ายอย่างเต็มที่เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนต่อไป







