'ยศสิงห์' ดัน ศูนย์ ATTRIC ขึ้นเบอร์หนึ่งอาเซียน ดึงเม็ดเงิน–คอมมูนิตี้รถรุ่นใหม่

'ยศสิงห์' ดัน ศูนย์ ATTRIC ขึ้นเบอร์หนึ่งอาเซียน ดึงเม็ดเงิน–คอมมูนิตี้รถรุ่นใหม่

"ยศสิงห์" ดัน ศูนย์ ATTRIC ขึ้นเบอร์หนึ่งอาเซียน ปักธง สนามทดสอบสู่สนามแข่งเอกชน ดึงเม็ดเงิน–คอมมูนิตี้รถรุ่นใหม่

18 พ.ย. 2568  จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รมช.อุตสาหกรรม ลงพื้นที่ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (ATTRIC) บทบาทโครงสร้างพื้นฐานยุทธศาสตร์ของอุตสาหกรรมไทย ตั้งเป้ายกระดับไทยเป็นฮับทดสอบมาตรฐานยานยนต์ อันดับหนึ่งของอาเซียน และฐานผลิตรถไฟฟ้าระดับโลก พร้อมเร่งทำให้ศูนย์เป็นที่รู้จักของผู้ประกอบการเพื่อใช้บริการทดสอบและรับรองมาตรฐานครบวงจรในประเทศ.  

สำหรับศูนย์ ATTRIC ตั้งอยู่ที่อำเภอสนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ในเขต EEC ครอบคลุมพื้นที่ราว 1.98 ล้าน ตร.ม. บริหารโดยสถาบันยานยนต์ (TAI) ออกแบบให้รองรับการทดสอบตามข้อกำหนด UN Regulations ครบชุด ทั้งระบบเบรก เข็มขัดนิรภัย ที่นั่ง ยางล้อ ตลอดจนแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า โดยแผนงานเฟสหลักจะก่อสร้างไฮสปีดเซอร์กิตและอาคารทดสอบการชนให้เสร็จภายในปี 2569 

โดยความสำคัญของศูนย์ ATTRIC จะลดต้นทุน เวลาในการฮอโมโลเกชันของค่ายรถและผู้ผลิตชิ้นส่วนในไทย รองรับมาตรฐานสากลในประเทศ ไม่ต้องพึ่งศูนย์ต่างประเทศ และช่วยเร่งวงจรนวัตกรรม EV ตั้งแต่แบตเตอรี่ถึงตัวรถ (ศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่เปิดเดินเครื่องแล้วตั้งแต่มี.ค. 2565)

'ยศสิงห์' ดัน ศูนย์ ATTRIC ขึ้นเบอร์หนึ่งอาเซียน ดึงเม็ดเงิน–คอมมูนิตี้รถรุ่นใหม่

 

เบื้องต้นใช้งบลงทุนรวมโครงการราว 3,705.7 ล้านบาท เฟสไฮสปีดเซอร์กิตยาว 4.4 กม. (ถูกวางให้เป็นหนึ่งในแทร็กที่ใหญ่สุดในเอเชีย) เป้าหมายเปิดใช้เต็มรูปแบบปี 2569 โดยมีขอบเขตการทดสอบครอบคลุม UN R13/13H, R14, R16, R17, R25, R79, R117 และ UN R100/R136 สำหรับแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า ที่ตั้ง ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ใจกลางห่วงโซ่อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยใน EEC

 

ทั้งนี้ศูนย์ ATTRIC เดิมทีเป็นสนามทดสอบและยกระดับเป็นสนามแข่งเอกชน โมเดลใช้ประโยชน์ที่จับต้องได้ เพื่อให้ศูนย์มีชีวิตดึงคนรุ่นใหม่ ทุนเอกชน และโตกว่ารายได้จากงานทดสอบเพียงอย่างเดียว แนวทางที่สามารถเดินหน้าได้ภายใต้กรอบความปลอดภัยและกฎคุมเข้ม มีดังนี้

'ยศสิงห์' ดัน ศูนย์ ATTRIC ขึ้นเบอร์หนึ่งอาเซียน ดึงเม็ดเงิน–คอมมูนิตี้รถรุ่นใหม่

1.Festival of Speed–สไตล์ไทย เปิดบางโซนจัด โชว์รัน/ไทม์แอตแทค  รถคลาสสิก ซูเปอร์คาร์ และ EV ไฮเพอร์ฟอร์แมนซ์ คล้าย Goodwood—โฟกัส “เดโมเทคโนโลยี” เน้นถ่ายทอดสด–คอนเทนต์ดิจิทัล

2.EV Performance Shootout: แข่ง 0–100, 400 เมตร, เบรก/แฮนด์ลิงบน Dynamic Platform & Skid Pad พร้อมเวิร์กช็อปแบตเตอรี่และความปลอดภัยไฟฟ้ากับทีมวิศวกรศูนย์

3. Corporate Track Day & OEM Ride & Drive: เปิดเชิงพาณิชย์ให้ค่ายรถ/ยาง/พลังงานใช้พื้นที่ทดสอบปิด เพื่อเปิดตัวรุ่นใหม่ ทดสอบยาง UN R117 บนแทร็กเปียกแบบดูงาน (B2B + Media Day)

4. Motorsport Sandbox (เอกชนจัด–รัฐกำกับ): สนามไทม์แอตแทค/จิมคาน่า/ออโต้ครอสบนพื้นที่ควบคุม (ไม่ใช่สตรีทเรซ) เชื่อมกับอีเวนต์เกมมิง–e-Motorsport และท่องเที่ยว EEC

5. Talent & Tech Expo: โซนสตาร์ทอัพชิ้นส่วน–ซอฟต์แวร์ยานยนต์ ห้องแล็บทดลองมาตรฐาน เปิดเยี่ยมชม “หลังบ้าน” ให้เด็กสายวิศวะ–VDO Creator เข้าถึง

'ยศสิงห์' ดัน ศูนย์ ATTRIC ขึ้นเบอร์หนึ่งอาเซียน ดึงเม็ดเงิน–คอมมูนิตี้รถรุ่นใหม่

หลังจากนี้สิ่งที่ต้องจับตา ความคืบหน้า ไฮสปีดเซอร์กิต 4.4 กม.กับอาคารทดสอบการชนตามกรอบเวลา 2569, และการออกแบบกระบวนงานเปิดใช้พื้นที่กับเอกชนแบบ multi-use อย่างเป็นระบบ.  
รวมถึงการดึงงบประมาณ สปอนเซอร์จากค่ายรถ/ยาง/พลังงาน เพื่อจัดอีเวนต์รายได้สูงที่เสริมภาพลักษณ์ “Thailand Mobility Hub” ไม่ใช่แค่ศูนย์ทดสอบ

อย่างไรก็ตาม หากขับเคลื่อนครบศูนย์ ATTRIC จะไม่เพียงเป็นที่ที่สินค้าผ่านมาตรฐานสากลในประเทศ แต่ยังกลายเป็น เวทีโชว์ของจริงให้เทคโนโลยีรถไทย–ต่างชาติแข่งกันอย่างถูกกติกา ดันไทยขึ้นอันดับหนึ่งในภูมิภาคทั้งด้านมาตรฐานและวัฒนธรรมความเร็วสมัยใหม่.