ไทยร่วมประชุม COP30 บราซิล ผลักดัน 5 ประเด็นรับมือโลกเดือด

ไทยร่วมประชุม COP30 บราซิล ผลักดัน 5 ประเด็นรับมือโลกเดือด

"ภัทรานันท์" นำทีม ทส.เตรียมประชุม COP30 บราซิล รวมพลังประชาคมโลกรับมือโลกเดือด ร่วมผลักดัน 5 ประเด็นสำคัญ ขณะที่ไทยยกระดับ NDC 3.0 เร่งขับเคลื่อน Net Zero 2050 พลิกโอกาสเศรษฐกิจยั่งยืน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยถึงการเตรียมเข้าร่วมประชุม COP30 ณ เมืองเบเล็ง สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล ระหว่างวันที่ 10-21 พฤศจิกายน 2568 โดยได้มอบหมายให้ นางสาวภัทรานันท์ ทองประพาฬ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เป็นผู้แทนปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ระหว่างวันที่ 17-18 พฤศจิกายน 2568 

โดยประเทศเจ้าภาพได้กำหนดแนวคิด “โกลบอล มูชิราว (Global Mutirão)” ที่มีความหมายว่า “การรวมพลังของประชาคมโลกเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” มุ่งเน้น 5 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 

1.การจัดส่งเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด ฉบับที่ 2 (NDC 3.0) 

2.การจัดทำตัวชี้วัดตามเป้าหมายการปรับตัวต่อผลกระทบด้านสภาพภูมิอากาศระดับโลก (Global Goal on Adaptation: GGA) 

3.การผลักดันแผนที่นำทางตามเป้าหมายการเงินใหม่จำนวน 1.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี ค.ศ. 2035 (Baku to Belém Roadmap to 1.3T) 

4.กองทุนสำหรับความสูญเสีย
และความเสียหาย (FRLD) 

5.การครบรอบ 10 ปีของความตกลงปารีส 

ไทยร่วมประชุม COP30 บราซิล ผลักดัน 5 ประเด็นรับมือโลกเดือด

นอกจากนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหน่วยประสานงานกลางของประเทศไทย ภายใต้กรอบอนุสัญญาฯ ยังได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน จัดแสดงนิทรรศการใน Thailand Pavilion ภายใต้แนวคิด 5C ได้แก่ Climate Policy, Climate Action, Climate Finance, Climate Resilience และ Climate Literacy และ Technology and Innovation Zone ซึ่งนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการกักเก็บคาร์บอน 

รวมถึงมีเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ และประสบการณ์ ระหว่างนักวิชาการ ผู้แทนรัฐบาล องค์กรเอกชน ผู้แทนเยาวชน และองค์กรระหว่างประเทศ มากกว่า 30 หัวข้อ เช่น ด้านการเงิน การปรับตัว เทคโนโลยีและนวัตกรรมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและผสานภูมิปัญญาท้องถิ่น การสร้างสังคมที่เท่าเทียมและเป็นธรรม รวมถึงการแสดงพลังของเยาวชนทั่วโลก

ไทยร่วมประชุม COP30 บราซิล ผลักดัน 5 ประเด็นรับมือโลกเดือด

ทั้งนี้คณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2568 เห็นชอบต่อร่างเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด ฉบับที่ 2 (NDC 3.0) ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการเร่งเป้าหมาย Net Zero ให้เร็วขึ้น 15 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับ 1.5 ºC Pathway ตามนโยบายของรัฐบาลข้อ 13 การผลักดันสังคมคาร์บอนต่ำ ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี แถลงต่อรัฐสภา  

โดยมุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ (Economy-wide) ณ ปี ค.ศ. 2035 (พ.ศ. 2578) และเร่งเพิ่มเป้าหมายการดูดกลับก๊าซเรือนกระจกในภาคป่าไม้ และการใช้ประโยชน์ที่ดิน (LULUCF) ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีระดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิ 152 MtCO2eq หรือลดลงร้อยละ 47 จากระดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี ค.ศ. 2019

รวมถึงได้จัดทำแผนการลงทุนเพื่อดึงเม็ดเงินจากต่างประเทศ 230,000 ล้านบาท ในการสนับสนุนไทยลดก๊าซเรือนกระจก 32.8 MtCO2eq ตามเงื่อนไขของความตกลงปารีส

การยกระดับเป้าหมาย NDC 3.0 จะเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่จะช่วยให้ประเทศไทยมีแต้มต่อในเวทีโลก เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าระหว่างประเทศ มีศักยภาพดึงดูดการลงทุนสีเขียวและสร้างงานใหม่ ๆ ในภาคเศรษฐกิจที่กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่การพัฒนาแบบปล่อยคาร์บอนต่ำ 

โดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (สส.) ได้จัดส่ง NDC 3.0 ต่อ UNFCCC และจะนำเสนอต่อที่ประชุม COP 30 ณ เมืองเบเล็ง สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล เพื่อประกาศความมุ่งมั่นของไทยในเวทีโลกอย่างเป็นทางการ รวมถึงเร่งการจัดทำแผนปฏิบัติการ (Action Plan) ร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแปลงเป้าหมายสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมกับการเชื่อมโยงระบบติดตามผลแบบดิจิทัล (Digital Tracking) เพื่อให้การดำเนินงานมีความโปร่งใส รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพต่อไป

ทั้งนี้ประชาชน และภาคส่วนต่างๆ สามารถติดตามโปรแกรมและความเคลื่อนไหวของ การประชุม COP 30 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง รวมถึง Thailand Pavilion ระหว่างวันที่ 10-21 พฤศจิกายน 2568 ได้ทาง Facebook page กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม

ไทยร่วมประชุม COP30 บราซิล ผลักดัน 5 ประเด็นรับมือโลกเดือด