ทส. ทุกหน่วย เตรียม จนท.หมื่นคน รับมือภัยพิบัติ จากพายุวิภา

ทส. ทุกหน่วย เตรียม จนท.หมื่นคน รับมือภัยพิบัติ จากพายุวิภา

‘เฉลิมชัย’ เผยทส. ทุกหน่วยงาน เตรียม จนท.หมื่นคนพร้อมรับมือภัยพิบัติ น้ำท่วม ดินถล่ม จากพายุวิภา ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ประเมินสถานการณ์ วางแผนในระยะต่อไป

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) แถลงถึงแนวทางรับมือเหตุภัยพิบัติจากพายุวิภาว่า การเตรียมพร้อมรับมือและแก้ไขปัญหาอุทกภัย ดินถล่ม และการช่วยเหลือผู้ประสบภัย เน้นย้ำการทำงานของกระทรวงฯ ต้องยึดประชาชนเป็นหลัก พร้อมทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างดีที่สุด

 

โดยกระทรวงทรัพยากรฯ ได้เตรียมความพร้อมทุกด้าน ทั้งด้านบุคลากร เครื่องมือ และอุปกรณ์ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่างๆ และบูรณาการการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุภัยพิบัติ โดยเฉพาะจากเหตุการณ์พายุ “วิภา” ที่อาจก่อให้เกิดอุทกภัยและดินถล่มในหลายพื้นที่ 

ในการดำเนินงานได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 2,000 คน พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนและสัตว์เลี้ยง 

ทส. ทุกหน่วย เตรียม จนท.หมื่นคน รับมือภัยพิบัติ จากพายุวิภา

นอกจากนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เตรียมการสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 10,000 นาย เข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย พร้อมจัดสัตวแพทย์ประจำศูนย์พักพิงสัตว์เลี้ยง 

ด้านกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และกรมทรัพยากรน้ำ ผลิตน้ำดื่มบรรจุขวดไม่ต่ำกว่า 200,000 ขวด เพื่อแจกจ่ายช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมทั้งเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่บ้านเรือน เส้นทางคมนาคม และสาธารณูปโภคหลัก เพื่อให้กลับมาใช้งานได้โดยเร็ว 

ส่วนกรมควบคุมมลพิษ ได้มีการเฝ้าระวังไม่ให้เกิดมลพิษเพิ่มเติมจากสถานที่กำจัดขยะในพื้นที่น้ำท่วม และเตรียมแผนฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมหลังน้ำลด

สำหรับพื้นที่ที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ได้สั่งการให้หน่วยงานเร่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องจักร และเครื่องมือ เข้าฟื้นฟูและทำความสะอาดพื้นที่บ้านเรือน จัดการขยะ เปิดเส้นทางสัญจรให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ 

ทส. ทุกหน่วย เตรียม จนท.หมื่นคน รับมือภัยพิบัติ จากพายุวิภา

รมว.ทส.ระบุด้วยว่า ด้านการวางแผนรับมือภัยพิบัติในระยะต่อไป ได้มอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด(ทสจ.) เร่งประสานและจัดเตรียมทรัพยากรในพื้นที่ให้พร้อม ทั้งเครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์ และเจ้าหน้าที่ 

อีกทั้งให้กรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรธรณี วิเคราะห์สถานการณ์น้ำและดินถล่ม แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างต่อเนื่อง โดยทำงานร่วมกับกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ 

พร้อมกันนี้ ยังให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ กรมป่าไม้ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กำหนดมาตรการเฝ้าระวังพื้นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ ห้ามนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่เสี่ยงภัย และจัดเจ้าหน้าที่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง และให้ศูนย์เทคโนโลยีดิจิทัลและอากาศยาน จัดทำแผนบินสำรวจพื้นที่เสี่ยงภัย และประสานความช่วยเหลือกับจังหวัด เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการทำงาน 

นอกจากนี้ ให้หน่วยงานระดับกรมและ ทสจ.รายงานสถานการณ์และผลการให้ความช่วยเหลือมายัง ศูนย์อำนวยการและประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ทส. (ศอป.ทส.)ทุกวัน จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และทั่วถึง