‘เครือข่ายต่อต้านการทุจริตฯ’ ชง'ประเสริฐ' - เลขากพฐ.’ ระงับ 2 โครงการใหญ่

‘เครือข่ายต่อต้านการทุจริตฯ’ ชง'ประเสริฐ' - เลขากพฐ.’ ระงับ 2 โครงการใหญ่

‘มูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น’ ยื่นหนังสือถึง ‘รองนายกฯ ประเสริฐ - เลขา กพฐ.’ ระงับประมูล 2 โครงการใหญ่ของ สพฐ.

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์  ประธานมูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรรัปชั่น มอบหมายให้ นายสรกฤช จันทรคณา เลขานุการมูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น และคณะฯ ยื่นหนังสือต่อ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองนายกฯ ที่กำกับดูแลกระทรวงศึกษาธิการ และว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบการล็อคสเป็ค

และ ชะลอการจัดซื้อจัดจ้าง 2 โครงการ ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้แก่

1 โครงการประกวดราคาเช่าใช้ ระบบประมวลผลแบบคลาวด์ วงเงินงบประมาณ 2,800,158,000.00 บาท 

2 โครงการประกวดราคาซื้อจัดซื้อซอฟต์แวร์สำเร็จรูปพร้อมพัฒนาแพลตฟอร์มการจัดการเรียนรู้แห่งชาติ โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นฐาน ระยะที่ 2 งบประมาณ 1,330,085,600.00 บาท

โดยนายสรกฤช ระบุว่า สืบเนื่องมาจาก สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความประสงค์จะประกวดราคาเช่า เช่าใช้ระบบประมวลผลแบบคลาวด์ และ โครงการประกวดราคาซื้อจัดซื้อซอฟต์แวร์สำเร็จรูปพร้อมพัฒนาแพลตฟอร์มการจัดการเรียนรู้แห่งชาติ โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นฐาน ระยะที่ 2 ภายใต้โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ขั้นพื้นฐานทุกที่ทุกเวลา สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) โดยให้ยื่นเอกสารประกวดราคา ในวันที่ 25 มิถุนายน 2568 และ วันที่ 2 กรกฎาคม 2568  ตามลำดับ 

ทั้งนี้ ทางมูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ได้พบข้อพิรุธหลายประการ จึงได้มายื่นเพื่อให้ทางนายประเสริฐ และ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ ได้รับทราบ และหาทางระงับยับยั้งหรือชะลอการประมูลทั้ง 2 โครงการออกไปก่อน คือ ทั้งสองโครงการฯ มีการกีดกันคู่แข่ง โดยมี การล็อคสเปก อุปกรณ์ระบบ Security และ ระบบ Database โดยให้ใช้ผลิตภัณฑ์ได้เพียงยี่ห้อเดียวเท่านั้น  บริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในโครงการไม่ยอมออกหนังสือตัวแทนผลิตภัณฑ์ให้กับบริษัทอื่น นอกจากบริษัทในซุ้ม เพื่อมาเป็นคู่เทียบให้ เพื่อเป็นกันปิดกั้น หรือ กีดกันคู่แข่งรายอื่น

"ไม่เปิดโอกาสให้นำ ผลิตภัณฑ์ยี่ห้ออื่นเข้าในโครงการ มีการจัดทำราคาสูงเกินจริง เพื่อหวังใช้เป็นเงินทอนให้กับผู้มีอำนาจ และ เจ้าหน้าที่ โดยปั่นราคาโครงการฯ จากราคาประมาณ 3,300 ล้านบาท  ปั่นไปเป็น  4,130 ล้านบาท ทำให้คู่แข่งรายอื่นเข้าประกวดราคาไม่ได้ ที่สำคัญมีการล๊อบบี้งานโดยมีการประสานระหว่าง ผู้มีอำนาจ กับ ผู้บริหารกระทรวงฯ และ ผู้บริหาร สพฐ. ดังนั้น ทาง มูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น จึงยื่นหนังสือเพื่อให้ทางผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินการโครงการดังกล่าว หาทางระงับยับยั้งการประมูลทั้ง 2 โครงการ ซึ่งหากมีการปล่อยให้มีการประมูลตามกำหนดแล้ว ตนเชื่อว่า งบประมาณที่เป็นส่วนต่าง 830 ล้านบาท จะตกเป็นของบรรดาเบี้ยบ้ายรายทางและจอมบงการใหญ่ในเรื่องนี้ ซึ่งเงินจำนวนที่เหลือจากการปั่นราคาดังกล่าว สามารถช่วยเหลือเด็กและเยาวชนผู้ยากไร้ได้เป็นจำนวนมาก"