เปิดชื่อหมายจับ 17 ราย เอี่ยวตึก สตง.ถล่ม 'เปรมชัย' มอบตัวพรุ่งนี้

เปิดชื่อหมายจับ 17 ราย เอี่ยวตึก สตง.ถล่ม 'เปรมชัย' มอบตัวพรุ่งนี้

รอง ผบช.น. เผยหมายจับ เอกชน-ผู้เกี่ยวข้อง 17 คน แบ่ง 3 กลุ่ม เอี่ยวตึก สตง.ถล่ม จำนวนนี้รวม 'เจ้าสัวเปรมชัย' โดยเจ้าตัวประสานนัดมอบตัวพรุ่งนี้

ความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม หลังคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้นำพยานหลักฐานไปยื่นขอศาลอาญาเพื่อขอออกหมายจับกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยล่าสุดศาลได้ไต่สวนพยานหลักฐาน และอนุมัติหมายจับ

พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม (ตึกสตง.ถล่ม) ยืนยันว่า ศาลได้ออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องที่กับตึก สตง.ถล่ม 17 คนแล้ว

โดยหนึ่งในนั้นคือ นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร และกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ในความผิดตามมาตรา 227 และมาตรา 238 คือ ผู้ใดเป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบควบคุมหรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นนั้น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย มีโทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต

อีกทั้งผู้ต้องหาบางคน ได้ติดต่อเพื่อขอเข้ามอบตัวแล้ว ซึ่งรายละเอียดได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.ในฐานะรองหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เป็นผู้ให้ข้อมูล

สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 17 คนที่ถูกออกหมายจับ ส่วนใหญ่เป็นกรรมการในบริษัทออกแบบ บริษัทควบคุมงาน และก่อสร้าง ซึ่งมีประมาณ 7-8 บริษัท ที่ยังไม่เคยมาให้ปากคำ และในส่วนของกลุ่มวิศวกรที่ถูกออกหมายจับในครั้งนี้ มีส่วนหนึ่งที่พนักงานสอบสวนได้เรียกมาสอบปากคำแล้ว 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าใครจะเข้ามามอบตัววันไหนอยู่ระหว่างการติดตามตัว

สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ 17 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

กลุ่มที่ 1 บริษัทผู้ออกแบบ 

บริษัท ฟอ-รัม อาร์คิเทค จำกัด และ บริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) ทำสัญญาระหว่างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน โดยผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล 1 ราย และมีกลุ่มวิศวกรผู้ลงนามในแบบแปลนซึ่งเป็นวิศวกรโครงสร้าง  5 ราย 

รวมผู้กระทำความผิดทั้งหมด  6 ราย ได้แก่

1.นายสุชาติ ชุติปภากร อายุ 64 ปี  

2.นายพิมล เจริญยิ่ง อายุ 85 ปี

3.นายธีระ วรรธนะทรัพย์ อายุ 59 ปี 

4.นายสุพล อัครอารีสุข อายุ 51 ปี  

5.นายชัยณรงค์ เสียงไพรพันธ์ อายุ 43 ปี  

6.นายอภิชาติ รักษา อายุ 38 ปี  

กลุ่มที่ 2 บริษัทผู้รับจ้างควบคุมการก่อสร้าง กิจการร่วมการค้า PKW จำนวน 1 รายในฐานะส่วนตัว เนื่องจากเป็นผู้แทนลงนามในสัญญา ซึ่งทั้ง 3 บริษัท ตกลงยินยอมรับผิดร่วมกัน และ แทนกันต่อผู้ว่าจ้างในทุกกรณี 

โดย 3 บริษัท ประกอบด้วย 

1.บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด

2.บริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด

3.บริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนตส์กัด

รวมผู้กระทำความผิดทั้งหมด 5 ราย ได้แก่

1.นายปฏิวัติ ศิริไทย อายุ 53 ปี

2.นายกฤตภัฏ ปล่องกระโทก อายุ 51 ปี

3.นายพลเดช เทิดพิทักษ์วานิช อายุ 56 ปี

4.นางปราณีต แสงอลังการ อายุ 63 ปี

5.นายสมชาย ทรัพย์เย็น อายุ 59 ปี

กลุ่มที่ 3 บริษัทผู้รับจ้างก่อสร้าง

1.บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)

2.บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด และ ผู้มีอำนาจกระทำการแทนกินการร่วมค้า ITD-CREC

รวมผู้กระทำความผิดทั้งหมด 6 ราย ได้แก่

1. นายเปรมชัย กรรณสูตร อายุ 71 ปี

2.นางนิจพร จรณะจิตต์ อายุ 73 ปี  

3.นายชวนหลิง จาง อายุ 42 ปี 

4.นายเกรียงศักดิ์ กอวัฒนา อายุ 65 ปี

5.นายอนุวัฒ คันษร อายุ 54 ปี

6.นายธิปัตย์ รัตนวงษา อายุ 43 ปี 

สำหรับพยานหลักฐานที่ขอศาลออกหมายจับในครั้งนี้ ทั้งเอกสารและพยานบุคคล พบว่า

แบบแปลนการก่อสร้างไม่สอดคล้องกับกฎกระทรวง และมาตรฐาน กลุ่มกำแพงปล่องลิฟต์ของอาคารไม่ได้อยู่ตรงกลางอาคาร แต่ชิดขอบด้านหลัง ทำให้ศูนย์กลางของการบิดตัวของอาคารเยื้องไปจากศูนย์กลางอาคาร เมื่ออาคารแกว่งตัวจากแผ่นดินไหว ทำให้กำแพงปล่องลิฟต์ และเสาที่ฐาน ถล่มเกือบพร้อมกัน ทำให้อาคารทั้งหลังตกลงมาในแนวดิ่งอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ มีการส่งผลตรวจปูนซีเมนต์ ที่ใช้ในการก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ว่ามีมาตรฐาน ตรงตามค่า KSC ซึ่งเป็นหน่วยวัดมาตรฐาน ที่ใช้วัดความแข็งแรงของคอนกรีต ผลการตรวจปรากฏว่าความแข็งแรงของคอนกรีต ไม่ได้มาตรฐานตามค่า KSC และการตรวจสอบเหล็กเส้นที่เก็บได้จากอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ปรากฏว่ามีบางส่วนไม่เป็นไปตามแบบเช่นกัน 

ส่วนกรณีการลงลายมือชื่อของ นายสมเกียรติ ชูแสงสุข ที่มีชื่อเป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้างตึก สตง. ซึ่งอ้างว่าถูกปลอมลายมือชื่อลงไป ในฐานะวุฒิวิศวกร จากกองพิสูจน์หลักฐานยืนยันว่า ตัวอย่างลายมือชื่อที่ส่งเปรียบเทียบ มีคุณสมบัติการเขียน รูปลักษณะของลายมือชื่อแตกต่างกันกับตัวอย่างลายมือชื่อของนายสมเกียรติ ชูแสงสุข จึงลงความเห็นว่า ไม่ใช่ลายมือชื่อของคนเดียวกัน

พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับได้ประสานเข้ามอบตัวในวันพรุ่งนี้ (16 พ.ค.) เวลา 09:00 น. ที่ สน.บางซื่อ แล้ว รวมถึงนายเปรมชัย 

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการประสานเพื่อจะเข้ามอบตัว แต่หากตำรวจเจอตัวที่ไหนก็พร้อมเข้าจับกุมได้ทันทีเช่นกัน โดยตามขั้นตอนทางตำรวจจะสอบปากคำ และแจ้งข้อกล่าวหา เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการสอบปากคำ ก็จะคุมตัวส่งฝากขังต่อศาลอาญาโดยทันที ซึ่งพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว เพราะคดีมีอัตราโทษสูง และมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก