ก่อนการประชุม ครม.สัญจร “ศุภมาส” รับฟังข้อความต้องการของชาวนาแก

ก่อนการประชุม ครม.สัญจร “ศุภมาส” รับฟังข้อความต้องการของชาวนาแก

“ศุภมาส” นำทีมผู้บริหารกระทรวง อว. รับฟังข้อเสนอความต้องการของประชาชน อ.นาแก ก่อนการประชุม ครม.สัญจร จ.นครพนม

น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวง อว. ลงพื้นที่จังหวัดนครพนม ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 (นครพนม สกลนคร มุกดาหาร) 

ช่วงเช้าเดินทางไปยังสำนักงานเทศบาลตำบลนาแก อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม เพื่อเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจประชาชน พร้อมติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวง อว. ในการสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่ 

กระทรวง อว.ได้นำนิทรรศการจากหน่วยงานต่างๆ มาจัดแสดง และมีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่บริการประชาชนมาตรวจสุขภาพแผนไทย โดยทีมโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยสกลนคร (หลวงปูแฟ๊บ สุภัทโท)

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขต สกลนคร มีบริการตรวจวัดสายตา โดย อสม. บริการซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าและบริการตัดผม โดยพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัด

ทั้งนี้ นายชูกัน กุลวงษา สส.จังหวัดนครพนม เขต 4 พรรคภูมิใจไทย ได้เป็นตัวแทนของประชาชนเขต 4 จังหวัดนครพนม กล่าวถึงความต้องการของประชาชนที่อยากจะให้กระทรวง อว.เข้ามาช่วยพัฒนา ว่า นาแก เป็นอำเภอประวัติศาสตร์ทางอุดมการณ์ ทางความคิด มี 12 ตำบล ประชากรประมาณ 8 หมื่นคน

การพัฒนาอำเภอนาแกที่ผ่านมายังด้อยประสิทธิภาพ เพราะไม่มีงบประมาณ แต่อำเภอนาแกมีของดีมากมาย ทั้งการท่องเที่ยวในเชิงพระพุทธศาสนา การท่องเที่ยวในเชิงประวัติศาสตร์และร่องรอยการต่อสู้ในพื้นที่

ประชาชนอยากจะได้งบประมาณมาพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่ชื่อว่า ดานสาวคอย ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณวัดภูพานอุดมธรรม บนเทือกเขาภูพาน ตำบลนาแก อำเภอนาแก เพื่อให้เป็นแลนด์มาร์คแหล่งท่องเที่ยวใหม่ 

ดานสาวคอยเป็นตำนานรักของหนุ่มสาวที่เข้าร่วมต่อสู้ทางอุดมการณ์ ดานสาวคอยมีทิวทัศน์ที่สวยงาม และเป็นเส้นทางผ่านเมื่อจะไปกราบพระธาตุพนม และไปดูสาวงามที่อำเภอเรณูนคร

อีกจุดหนึ่งที่ต้องการให้มีการพัฒนาคือ หุบอีเลิด ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และนิเวศวิทยา 

หุบอีเลิดเคยเป็นศูนย์กลางฐานบัญชาการของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย อยากให้นำประวัติศาสตร์เหล่านั้นกลับมาให้คนรุ่นใหม่ได้พบ ได้เห็น ได้เรียนรู้

การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทั้งสองแห่งจะช่วยแก้ปัญหาของประชาชนให้พี่น้องชาวนาแกได้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการท่องเที่ยว จากการค้าการขาย นอกจากการทำนาและทำสวนแล้ว

จากนั้น นายศุภชัย ใจสมุทร กล่าวว่า กระทรวง อว. กำลังทำให้ความยากจนของประชาชนหายไป ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ จากสิ่งที่กระทรวง อว. มีคือองค์ความรู้ด้านอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

ถ้าประชาชนมีองค์ความรู้ จะทำให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน เราไม่มีความสามารถที่จะแจกเงินให้กับประชาชน แต่เรามีความรู้ที่จะทุ่มเทเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนทั่วประเทศ

 

ต่อมา น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า กระทรวง อว. มีมหาวิทยาลัยนครพนม มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร มหาวิทยาลัยทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ สกลนคร และวิทยาลัยชุมชนมุกดาหาร

สถาบันการศึกษาเหล่านี้เป็นองคาพยพที่สำคัญของกระทรวง อว. ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ เคียงข้างพี่น้องประชาชน และพร้อมจับมือก้าวผ่านความท้าทายและอุปสรรคต่าง ๆ ตลอดจนมุ่งพัฒนาพื้นที่ให้มีความเข้มแข็งทางสังคมและเศรษฐกิจตลอดมา

พวกเรามีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนและส่งเสริมการผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพ สนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรมในพื้นที่ ผ่านกลไกของมหาวิทยาลัยในพื้นที่

ผลักดันให้ประชาชนทุกคนมีโอกาสเข้าถึงการศึกษา และการพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่อการทำงาน ผลักดันงานวิจัยสู่การพัฒนาอาชีพให้กับพี่น้องประชาชน สร้างรายได้ ลดรายจ่าย ยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน

 “กระทรวง อว. มาในวันนี้ ไม่ได้มามือเปล่า แต่มาส่งมอบ ผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่ช่วยส่งเสริมอาชีพและช่วยแก้ปัญหาปากท้องให้กับพี่น้องประชาชนได้

อาทิ นวัตกรรมโดรนเกษตร เครื่องตรวจมวลกระดูก ปุ๋ยอินทรีย์ลดตอซัง ผลิตภัณฑ์น้ำหมักออร์แกนิค เครื่องแปรรูปสมุนไพร และไก่สายพันธุ์ศรีโครตบูรณ์ เป็นต้น 

ดิฉันขอให้ทุกท่านเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง ของผู้แทนชุมชน และของหน่วยงานในพื้นที่ที่จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้เกิดขึ้นได้ ขอให้ทุกคนมีความอดทน มีกำลังใจ และมุ่งมั่นในการเดินหน้าต่อไปด้วยกัน” น.ส.ศุภมาส กล่าว

จากนั้น น.ส.ศุภมาส ได้มอบผลงานนวัตกรรมโดรนเกษตร ให้กับวิทยาลัยการอาชีพนาแก เครื่องตรวจมวลกระดูก ให้กับ รพ.สต.บ้านนาแก ปุ๋ยอินทรีย์ลดตอซัง ผลิตภัณฑ์น้ำหมักออร์แกนิค เครื่องแปรรูปสมุนไพร ไก่สายพันธุ์ศรีโครตบูรณ์ให้กับผู้นำชุมชน

อีกทั้งมอบถุงบำรุงชีพให้กับประชาชนผู้ด้อยโอกาสจำนวน 50 ชุด ตลอดจนมอบของที่ระลึก อาทิ  สเปรย์ยาน้ำกันยุง ยาหม่องน้ำสูตร วศ. ยาสีฟันสมุนไพร ไมโครไคโตซาน และโพลิเมอร์ดูดซึมน้ำสูง ชุดตรวจพยาธิใบไม้ในตับแบบรวดเร็ว

ตะเกียบไม้ไผ่และถุงผ้าขาวม้า ดินปลูกหนองหาร ยาแคปซูลฟ้าทะลายโจร และยาแคปซูลขมิ้นชั้น จำนวน 700 ชุดแก่ประชาชน ที่สำคัญ ยังมอบแว่นสายตาให้กับประชาชน จำนวน 700 ชิ้น.